“ฉันกลับล่ะ!”
ฉันพูดพลางวางถุงใส่วิกผมไว้ที่โต๊ะใกล้ๆ แล้วหันหน้าหนี แต่อีกฝ่ายกลับไวกว่า
หมับ!
“จะรีบไปไหนล่ะครับ หมู่นี้รู้สึกว่าชอบหลบหน้าพี่จังเลยนะ”
“ใครว่าหลบหน้า”
“ถ้าไม่หลบหน้า แล้วที่ทำอยู่นี่มันเรียกว่าอะไร”
“แล้วจะเอายังไง” ฉันสะบัดแขนของตนเองให้หลุดออกจากการเกาะกุมของพี่คิม หันมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่เกรงกลัว
ฉันไม่ได้กลัวเขาถึงได้หลบหน้า....แต่รำคาญต่างหากล่ะ!
“พี่แค่อยากคุยกับน้องอัณเท่านั้นเองครับ”
ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ พร้อมกับตอกกลับเสียงเรียบ “มีอะไรก็ว่ามา ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากจนมาทำอะไรไร้สาระแบบพี่หรอกนะ”
“ออกจากแก๊ง Silver Cross ซะ” น้ำเสียงที่เคยเสแสร้งของพี่คิมถูกเปลี่ยนเป็นแหบต่ำ เขาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาพอพูดถึงเรื่องของแก๊ง
“แล้วทำไมฉันถึงต้องออก”
“ถ้าเธอไม่อยากเจ็บตัว เธอก็ต้องออก”
“หึ!” ฉันส่งเสียงออกมาในลำคอ หันหลังส่งให้แล้วก้าวออกมาจากห้องอย่างเพื่อเป็นการปฏิเสธทางอ้อม
ออกจากแก๊ง Silver Cross งั้นเหรอ...
ที่จริงฉันก็ไม่ได้พิศวาสแก๊งนี้มาตั้งแต่แรก แต่พอเขามาพูดจาเหมือนสั่งให้ฉันลาออก แล้วใช้คำพูดเหมือนฉันเป็นคนรักตัวกลัวตายแบบนี้ มันชวนให้หงุดหงิด
ถ้าหากฉันจะลาออกจริงล่ะก็ เหตุผลคงไม่ใช่เพราะกลัวคนอื่นมาทำร้ายแบบที่เขาว่า!
ฉันเดินกลับมาที่ห้องเรียนด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่เท่าไหร่นัก แต่แล้วกลับพบว่ามีใครบางคนกำลังนั่งอยู่ตรงตำแหน่งที่นั่งของฉันอยู่ก่อนแล้ว
โฮมกำลังนั่งอ่านหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มเล็กๆ ขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือของผู้ชาย ภาพมุมข้างเผยให้เห็นจมูกโด่งสวยและผิวขาวเนียนที่มีแสงรำไรของพระอาทิตย์ยามเย็นสาดส่อง
คราวก่อนเห็นเขานั่งดีดกีตาร์ริมทะเลสาบ คราวนี้เขาอ่านหนังสือฆ่าเวลาอยู่ในห้องเรียน ปกติผู้ชายวัยรุ่นจะชอบเล่นกีฬาไม่ก็ติดเกมในโทรศัพท์มือถือ แต่โฮมกลับมีความชอบกับอ่านอดิเรกไม่เหมือนคนอื่น
สงสัยเป็นเพราะเขาเป็นลูกครึ่งล่ะมั้ง ที่บ้านก็เลยปลูกฝังมาอีกแบบ
แต่ให้ตายสิ... ผมสีน้ำตาลทองแสบตาแบบหมาโกลเด้นฯ ดูแล้วมันน่าหยุมจริงๆ
“เป็นเธอจริงๆด้วย” โฮมที่พูดเปรยขึ้นมานิ่งๆ ทำให้ฉันที่แอบมองเขาอย่างเผลอไผลรีบเก็บสายตากลับมา
“ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” ฉันแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ พยายามสบนัยน์ตาสีดำสนิทของเขาให้น้อยที่สุด
“เธอผลักฉัน”
“...แล้วไง?”
“เธอเป็นรุ่นน้องฉันนะ ยัยหัวขโมย” โฮมตำหนิ
แน่ล่ะสิ ดูก็รู้ว่าหมอนี่อยู่ ม.5 ฉันไปสืบมาหมดแล้วย่ะ!!
ภูมิใจที่ตัวเองแก่ก็ไม่บอก “แล้วการที่นายเป็นรุ่นพี่ มันทำให้นายมีสิทธิ์เรียกฉันว่าหัวขโมยเหรอ”
พอฉันสวนกลับ เขาก็เงียบไป
“ในเมื่อนายเรียกฉันตามอำเภอใจของตัวเอง ฉันก็มีสิทธิ์เลือกเหมือนกันว่าจะให้เกียรตินายในฐานะรุ่นพี่หรือเปล่า”
โฮมสะบัดหน้าหนีไปอีกทางอย่างหงุดหงิด “นี่ถ้าไม่ติดว่าคิง...”
เขาบ่นเสียงงึมงำในลำคอ แต่ฉันได้ยินเขาพูดคำว่า ‘คิง’ ออกมา
ลางสังหรณ์ของฉันเริ่มทำงานทันที มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกพี่เอ็น
“มีอะไรก็พูดมาตรงๆ พวกพี่ชายฉันสั่งให้นายทำอะไร”
“มันก็ไม่ใช่ความลับอะไร” ร่างสูงโปร่งในชุดนักเรียนเสยผมสีอ่อน พูดอย่างเซ็งๆ “พวกคิงทั้งสองสั่งให้ฉันมาคอยดูแลเธอ ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นคำสั่งของพวกเขา จ้างให้ฉันก็ไม่อยากแม้แต่จะชายตามองเธอด้วยซ้ำ”
หนอย ยังมาทำหน้าหงุดหงิด เค้นเสียงในลำคอแบบที่ฉันชอบทำอีกนะ
แล้วขอโทษเถอะ ประโยคข้างหน้านี่ไม่ต้องพูดก็ได้ พูดอย่างกับว่าฉันปลื้มกับการต้องมารับมือกับคนอย่างนายนั้นแหละ!
“คำก็หัวขโมย สองคำก็หัวขโมย ถามจริงเถอะ! นายโตแต่ตัว สมองไม่โตหรือไง คนโง่ยังรู้เลยว่าหัวขโมยที่ไหนๆ ก็ไม่มีวันแขวนของที่ตนเองขโมยมาในสภาพที่ค้นเจอง่ายๆ แบบนั้นหรอก!”
“ก็ไม่แน่...เธออาจจะโง่ก็ได้” เขาพูดพลางส่งยิ้มยี่ยวนให้ฉัน และนั่นก็ทำให้ฉันหมดความอดทน!
ไอ้ผู้ชายเฮ็งซวยที่พยายามแย่งแฟนคนอื่นไม่พอ ยังมาพูดจายี่ยวนกวนประสาทกันแบบนี้!
ผั่วะ!
ฉันเสยหมัดเข้าไปที่แก้มของหมอนั่นเต็มแรง จนใบหน้าเนียนใสสะบัด หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คกระเด็นหลุดมือ
ที่จริงฉันรู้ดีว่าฝีมือของเขาไม่ได้ห่วยแตกอะไร แต่เพราะเขาคงนึกไม่ถึงว่าฉันจะต่อยใส่ทันทีโดยไม่มีการตั้งท่าก่อน ก็เลยไม่ทันได้ระวังตัวก็เท่านั้น
เหอะๆ คนแบบนี้น่ะเหรอที่พวกพี่เอ็นส่งมาเป็นบอร์ดี้การ์ด แค่โดนฉันต่อยได้ง่ายๆ แบบนี้ก็ถือว่าไม่ผ่านมาตรฐานแล้ว!
“ทำไมเธอถึงโหดอย่างนี้เนี้ย! เจอกันทีไรก็ต่อยเอาๆ” ดวงตาของโฮมวาวโรจน์ ขณะที่ใช้มือลูบแก้มของตัวเองเหมือนไม่อยากเชื่อว่าฉันจะกล้าชกต่อยในโรงเรียนแบบนี้
ขอโทษเถอะ นี่ฉันถือว่ายั้งมือตัวเองมากแล้ว ผู้ชายปากเน่าพูดจาไม่สร้างสรรค์แบบนายต้องรู้จักโดนซะบ้าง!
“ก็นายเล่นพูดจาไม่เข้าหูก่อนทำไม หึ! นี่เหรอคนที่เสนอหน้าไปจีบโม สมน้ำหน้าแล้วที่อกหัก!”
“นี่...เธอ!”
แววตาของเขาที่เดิมขุ่นมัวอยู่แล้ว ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ามันขุ่นเสียจนเหมือนมีดวงไฟจุดปะทุอยู่ข้างใน
อกหักแค่นี้ทำมาเป็นรับไม่ได้ ฉันเองก็อกหักมาเหมือนกัน อ้อ...สงสัยคงจะเสียศักดิ์ศรีที่ถูกปฏิเสธล่ะสิท่า!
หมับ!
ปึง!
อยู่ดีๆ หมอนั่นก็เข้ามากระชากแขนของฉันอย่างแรงจนใบหน้าของฉันเบ้อย่างเจ็บปวด กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ร่างกายก็ถูกดันจนแผ่นหลังสัมผัสเข้ากับผนังห้องอีกฝั่งหนึ่ง โดยมีร่างสูงตรึงแขนทั้งสองเอาไว้เหมือนนักโทษ!
ขนาดตัวที่แตกต่างกันทำให้ฉันถูกข่มให้ดูตัวเล็กลงไปถนัดตา
“ปล่อยฉัน!” ฉันโกรธจนหน้าร้อนจัด ถ้าควันออกหูได้คงทำไปแล้ว
พวกผู้ชายคงเป็นอย่างนี้กันหมดสินะ คอนโทรลเองก็ชอบทำกับฉันแบบนี้เวลาที่เราทะเลาะกัน
“เริ่มกลัวแล้วหรือไง! คนปากเก่งเมื่อกี้หายไปไหน อ้อ...ฉันจำได้แล้ว เธอนี่เองที่นัดผู้ชายนอกโรงเรียนมาหาคืนนั้น ใจกล้าจริงๆ เลยนะ เป็นถึงควีน” เขาเยาะเย้ยพลางจ้องมองฉันอย่างดูหมิ่น
“ไม่รู้อะไรก็อย่ามาพล่ามให้ฉันได้กลิ่นปากเหม็นๆ!” พูดพลางกลอกตามองรอบๆ เพื่อหาวิธีเอาตัวรอดไปด้วย
หนุ่มลูกครึ่งเลิกคิ้วสีน้ำตาลอ่อน “นั่นสิ คงยังมีเรื่องที่ฉันยังไม่รู้อีกเยอะ”
“ใช่! นายควรจะเอาเวลาที่ยุ่งเรื่องชาวบ้านไปเยี่ยวยาหัวใจของตนเองซะดีกว่า พวกอกหักแล้วไม่เจียม!” ฉันเอ่ยปากว่าเขาทั้งๆ ที่ตัวเองก็เพิ่งอกหักมาไม่นานเหมือนกัน
อย่างนี้มันเข้าทำนองแม่ปูสอนลูกปูเดินสินะ แต่ช่างเถิด เขาคงไม่รู้หรอก
“งั้นเหรอ! แล้วรู้หรือเปล่าว่าเวลาผู้ชายเขาอกหักแล้วเขาทำอะไร!”
ฉันถึงกับเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินคำถามแบบนั้น โธ่เว้ย! รู้งี้ไม่น่าไปท้าหมอนั่นเลย ฉันอยากจะบ้าตาย!
คิดแล้วก็สะบัดหน้าไปมา “ไม่! ไม่อยากรู้”
ฉันตอบกลับเสียงแข็ง แต่โฮมไม่สนใจคำพูดของฉันอีกแล้ว ใบหน้าคมคายที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตกอย่างลงตัวของเขาโน้มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนฉันเห็นแผงขนตางอนยาวและสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดลงบนใบหน้า
ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของเขาอยู่ห่างจากปากของฉันแค่คืบเดียวเท่านั้น...
‘Cause I don’t care e-e-e-e-e’
พระเจ้า! 2NE1 ช่วยชีวิตลูกแล้ว T__T
เสียงริงโทนที่แผดเสียงลั่นทำให้นายโฮมรีบผละออกจากฉันราวกับต้องของร้อน ส่วนฉันเองก็อาศัยจังหวะนั้นเบี่ยงตัวออกจากการกักขังพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากระโปรง
เยี่ยมมาก! โทรฯ คราวนี้มาได้จังหวะพอดี
“พี่อิน”
ปกติแล้วพี่อินจะไม่โทรฯ หาฉันสักเท่าไหร่ ถึงจะแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าพี่อินมีตาทิพย์สามารถล่วงรู้ว่าน้องตัวเองกำลังถูกผู้ชายเอาเปรียบอยู่!
ติ๊ด!
กดรับสายก่อนจะชำเลืองมองนายโฮมที่กำลังมองมาที่ฉันเช่นเดียวกัน
คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้อง...!
‘เธอเจอโฮมหรือยัง อัณ’
พอได้ฟังเขาถามแบบนั้น ฉันก็นิ่งไปนิดหน่อย พอได้สติก็กรอกตาใส่โทรศัพท์ทันที
“พี่อิน อย่าบอกนะว่าพวกพี่...”
ลางสังหรณ์ฉันกำลังร้องบอกว่ามันคือหายนะระดับ S ในชีวิตฉันเลยก็ว่าได้!
‘ต่อไปนี้โฮมจะคอยดูแลเธอเวลาอยู่ที่โรงเรียน ไม่สิ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เขาก็ต้องไปด้วย ช่วงนี้พี่กับเอ็นกำลังยุ่งกับเรื่องในแก๊งอยู่ เธอเองก็อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ’
ฉันขมวดคิ้ว แก๊ง Silver cross เกิดเรื่องอะไร ไม่สิ...พวกเขาเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องอะไรต่างหาก
ถึงฉันจะโมโหเรื่องที่พวกเขาส่งผู้ชายอย่างโฮมมาประกบ แต่ลึกๆ แล้วฉันก็เป็นห่วงพวกเขาอยู่เหมือนกัน
ก็แหงละ พี่น้องกันนี่นา พวกเราก็มีกันอยู่แค่นี้
“พี่อิน ฉันไม่เอานายโฮมนี่ พี่ส่งคนอื่น...”
‘ฉันกับเอ็นเห็นพ้องต้องกันว่าโฮมน่ะเหมาะที่สุด’
ตัดสินใจกันเสร็จสรรพโดยไม่บอกฉันสักคำ! “ฉันไม่...”
‘ถ้าเธอยังเห็นว่าพวกฉันเป็นพี่ ระหว่างนี้ก็ให้โฮมคอยดูแลเธอ
“แต่...”
“ต่อจากนี้ โฮมคือบอร์ดี้การ์ดของเธอ’
ใครก็ได้บอกฉันทีว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ยยยยย!!!