พลบค่ำ저녁) 일곱시 (1ทุ่ม)
แพรไหมในร่างชอนอากลับมาที่บ้านของอัครเสนาบดีหรือท่าน คิมแทยัง ผู้เป็น บิดาของชอนอา เธอรู้สึกกระวนกระวายใจนอนไม่หลับเนื่องจาก ท่านผู้ตรวจการที่พบเจอวันนี้ เธอไม่มีข้อมูลในซีรีส์เลยแม้แต่นิด แถมบทที่จะเดินต่อไปนี้ เธอแทบจะไม่รู้อะไรเลย บทในซีรีส์เหมือนจะเปลี่ยนไปหมด เนื่องจากเพราะเธอไม่ตายแต่เป็นนางเอกที่ตายแทนเธอ…หญิงสาวครุ่นคิดบางทีบทพระเอกอาจจะไม่ใช่องค์รัชทายาทอีกแล้วก็เป็นไปได้
“นี่ดาโซข้าอยากออกไปท่องราตรีข้างนอกได้หรือไม่” แพรไหมนึกสนุกตามประสาเด็กสาววัย20ที่อยากรู้อยากลองไปซะหมด แต่คราวนี้เธออยากจะออกไปเที่ยวกลางคืนในกรุงโชซอนว่าจะตื่นตาตื่นใจแค่ใหน
“ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ….ประเดี๋ยวก็จะเกิดเรื่องเหมือนเช่นวันนี้อีก อีกอย่างคุณหนูเป็นแม่หญิงนะเจ้าคะมันอันตรายในยามพลบค่ำเช่นนี้เจ้าค่ะ….เชื่อข้าเถอะ”
สาวใช้รีบปรามพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างไม่สนับสนุนความคิดของเธอแม้แต่นิด
“ใครบอกว่าข้าจะออกไปแบบแม่หญิงล่ะดาโซ ข้าจะแต่งตัวแบบผู้ชายบรุษหนุ่มรูปงามแห่งยุคโชซอนแล้วข้าจะไปคนเดียวด้วย หึหึหึ…เช่นนั้นแล้วรีบไปหาชุดมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”
สาวใช้มองนายหญิงของเธอที่ทำท่าทางแปลกๆ พูดไปหัวเราะไปอย่างกับไม่ใช่คนเดิม หรือแทบจะเป็นคนละคนกันเลยทีเดียว
“แต่ถ้านายท่านรู้เข้า…จะโกรธท่านเอาได้นะเจ้าคะ”
สาวใช้พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลอย่างหนัก ร้อยวันพันปีคิมชอนอาไม่เคยคิดจะออกไปใหนยามค่ำคืนเลยแม้แต่น้อยแล้วตอนนี้เหตุใดกันเล่าคุณหนูของนางถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้
“เธอจะไปบอกทำไมล่ะเธอก็อยู่เงียบๆ ทำเป็นไม่รู้เรื่องสิง่ายนิดเดียวเอง ดาโซเจ้าอย่าเรื่องมากโยกโย้เสียเวลาไปเอามาให้ชั้นเดี๋ยวนี้เลย” แพรไหมออกคำสั่งใช้ศัพท์ของคนยุคใหม่บวกคำศัพท์โบราณเพราะเธอรำคาญท่าทีตัวสั่นงันงกของดาโซสาวใช้ของชอนอาที่เธอมาอาศัยร่างนางอยู่
“อือ…เจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้รีบไปทันทีด้วยความไม่เต็มใจนักหลังจากนายของเธอเริ่มมีน้ำเสียงรำคาญเธอเต็มที
???
“โหวววว…หล่ออยู่….เจ้าว่าข้าหล่อมั้ยดาโซ ฮ่าๆๆ”
หญิงสาวเพ่งพินิจตัวเองพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เก๊กหล่อแอคท่าเป็นผู้ชายหลังจากปลอมตัวเป็นบุรุษหนุ่มโซชอน แต่ค่อนข้างหนุ่มจะเหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่นเสียมากกว่า
“ดูดีเชียวเจ้าค่ะ คุณหนูต้องสัญญากับข้าว่าจะรีบไปรีบกลับนะเจ้า”
“ข้าจะรีบกลับอยู่แล้วล่ะ ไปดูแป๊บเดียวเอง ไม่พาสาวงามมาฝากเจ้าหรอกนาา”
แพรไหมเลียนแบบเสียงเป็นผู้ชาย…ยังมีอารมณ์กระเซ้าเย้าแหย่สาวใช้ทั้งๆ ที่หน้าตาของนางตอนนี้ยังมีประกายความกังวลเป็นที่สุด
“เอาล่ะข้าไปล่ะนะ”
“เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ”
สาวใช้ไปหยิบถุงเล็กๆ สีแดงมาถุงนึงยื่นให้เธอคาดว่าคงจะเป็นเงิน
“เจ้ากลับไปนอนเถอะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นะ ป่ะๆๆๆๆ”
หญิงสาวไล่สาวใช้ไปนอน ถึงแม้นางจะเริ่มชินกับคำพูดของแพรไหมแต่บางครั้งก็ยังทำหน้ามึนงง แต่ก็เริ่มเข้าใจคำพูดเธอบ้างในบางคำที่เธอมักจะพูดบ่อยๆ
???
แพรไหมในร่างชอนอาปลอมตัวอยู่ในชุดฮันบกโบราณผู้ชายเธอเข้ามานั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่มีทั้งเหล้าและผู้หญิงงามมากมายมาคอยบริการ หอนางโลม นั่นเอง เธอก็พอจะรู้ตัวว่าอยู่ในหอนางโลม ระหว่างเดินผ่านหน้าร้าน มีชายคนหนึ่งลากเธอเข้ามา หญิงสาวเดาว่าน่าจะเป็นพนักงานต้อนรับหรือหาลูกค้าเข้าร้าน เธอกวาดสายตาไปรอบๆ ตื่นตาตื่นใจกับสภาพในหอนางโลมครั้งแรกในชีวิต สักพักมีอาหารที่คล้ายกับแกล้มมาเสริฟ ตามด้วยเหล้าคล้ายๆ กาน้ำโบราณ ซึ่งเธอยังไม่ได้สั่ง
‘กินฟรีงั้นหรอ แต่เรามีตังนี่นา ลองชิมก่อนล่ะกันว่ารสชาดมันเป็นยังไงไหนๆ ก็เสริฟมาแล้ว’ หญิงสาวนั่งเอื่อยเฉื่อยอยู่สักพักใหญ่ รู้ตัวอีกทีนึงเธอกินอาหารบนโต๊ะจนเกลี้ยง
‘เฮ้อ….กลับดีกว่าออกมานานแล้ว’ แพรไหมเอามือลูบท้องขึ้นลงด้วยความอิ่มหนำแต่เธอไม่ได้แตะเหล้าแม้แต่น้อย ก่อนจะเรียกผู้ชายคนนึงที่ดูเหมือนจะมีอายุสักหน่อยเดาว่าน่าจะเป็นเถ้าแก่เจ้าของร้านหรือพ่อบ้านมาเก็บเงิน
“คุณชายไม่รับอะไรเพิ่มแล้วหรอขอรับ?”
เถ้าแก่คนเดิมมาโค้งกำนับให้เธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เอาเงินไป ข้าอิ่มแล้ว พอแล้วๆ ค่อยมาใหม่นะ” เธอยื่นถุงเงินให้ชายสูงอายุที่เก็บเงินในร้าน
“เอ่อ..คุณชายขอรับเงินไม่พอนะ…มีอีกหรือไม่ขอรับ?"
ชายแก่หยิบเหรียญในถุงมานับแล้วมองหน้าเธอไปมาด้วยสายตาไม่พอใจ ‘แย่ล่ะชั้นจะรู้มั้ยนี่ว่ามันกี่บาท แงๆๆ ตายแน่แพรไหมเอ๋ยคราวนี้ได้กลับไปเล่นตอนใหม่ๆ แน่ๆ หนี!รีบหาทางหนีก่อน’
“นี่เจ้าจะโกงข้าหรอ ข้าไม่ได้สั่งสักอย่างเจ้ายกมาให้ข้าเองนี่นา ข้าจ่ายเงินก็ดีแค่ใหนแล้ว!”
เธอทำเสียงดังขึ้นมากะจะขู่ให้ตาแก่กลัวจะได้รีบหนีไป
“ท่านนั่นแหร่ะจะโกงข้าหรอ เด็กๆ มาโต๊ะนี้หน่อย!”
ชายแก่เจ้าของร้านเรียกชายชายฉกรรจ์ราวๆ 4-5คนมา แพรไหมเห็นท่าไม่ดีเลยคิดจะพูดดีๆ หาทางหนี
“เอ้ย เอ้ย!เถ้าแก่…..เราพูดกันดีๆ ก็ได้นี่นา ข้าเอามาจ่ายให้ท่านก็ได้ เดี๋ยวข้ากลับไปเอามาให้รอข้าแปบนึงสิ!”
ไม่เป็นผล! ชายแก่ไม่เชื่อแถมจะให้ลูกน้องจับเธอไปรุมทำร้ายอีก
“จับตัวมันเอาไปหลังร้าน!” เถ้าแก่สั่งชายฉกรรจ์ให้รุมจับตัวแพรไหมในร่างชอนอาที่อยู่ในสภาพปลอมตัวเป็นบรุษหนุ่มน้อย
“อย่านะ อย่าข้ากลัวแล้ว!”
แพรไหมร้องลั่นด้วยความกลัวจนตัวสั่น!!
พลัน!มีคุณชายท่านหนึ่งเดินออกมาจากข้างในร้านชายหนุ่มตามเสียงเอะอะโวยวายลั่นออกมา
“หยุดนะ รุมรังแกคนไม่มีทางสู้งั้นหรือ?”
เสียงคุ้นๆ ของคุณชายท่านหนึ่งดังขึ้น แพรไหมเบิกตากว้างด้วยความดีใจเมื่อมีโอกาสจะรอดแล้ว ท่านผู้ตรวจการหนุ่มรูปหล่อซอจุนนั่นเองเขาเอาตัวมาบังเธอไว้ ‘แล้วบอกเราไม่ให้เอาตัวไปบังคนอื่นมันอันตราย ตัวเองก็ทำนี่นา’ แพรไหมยังมีอารมณ์ค้อนเขาในใจ!
“อย่ามาแส่ ไม่ใช่เรื่องของเจ้าถอยไป!”
สักพักมีกลุ่มชายฉกรรจ์อีกจำนวนนึงกรูกันเข้ามา ซอจุนเห็นท่าไม่ดีเลยคว้าแขนเธอวิ่งหนีออกไป
“ท่านจะพาข้าไปใหน?”
แพรไหมถามเพราะเขาพาเธอวิ่งไปทางที่เธอไม่รู้จัก หญิงสาวกลัวขึ้นมาทันที ข้างหลังก็ตามมาข้างหน้าก็ไม่รู้เขาจะพาไปใหน
‘ถ้ารู้ว่ามันอันตรายขนาดนี้ชั้นไม่ออกมาหรอกเชื่อดาโซก็ดีแล้ว อือๆ’ เธอสะอื้นในใจ
“วิ่งมาก่อนเถอะน่า อยากตายหรือยังไงเจ้าหนุ่มน้อย”
เสียงทุ่มของเขาขู่เธอก่อนจะฉุดกระชากเธอให้รีบวิ่งไปตามแรงจูงของเขา ซอจุนเข้าใจว่าเธอคือผู้ชาย
เขาพาเธอวิ่งลัดเลาะไปสักพัก จนเธอเริ่มอ่อนแรง หอบแฮ่กๆ หันไปมองข้างหลังต้องตกใจอีกรอบ
“พะ..พวกมันยังตามมา!”
“วิ่ง!!!!”
ชายหนุ่มพาหญิงสาวมาหลังพุ่มไม้ที่มีม้าผูกอยู่ เขาพาเธอขึ้นขี่หลังม้าก่อนจะควบม้าหนีไปอย่างไว
“เยาะ! เยาะ!”
“ท่าน!ช้าหน่อยได้หรือไม่ ข้ากลัว ข้าไม่เคยขี่ม้า”
หญิงสาวกลัวจนตัวสั่นไปหมด…เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอทำอะไรแปลกๆ แบบนี้…เพราะเธอลืมว่ายุคนี้ยังเป็นยุคบ้านป่าเมืองเถื่อนนั่นเอง!
ชายหนุ่มหันไปมองข้างหลัง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมาแล้วเลยกะบังคับม้าให้ช้าลงเพื่อจะหยุดหนี
“ท่านระวัง!!!”
แต่ไม่ทันการ ทางข้างหน้าเป็นป่าเขาคล้ายหุบเหวลาดชันลงไปลึกลงมาก เขาและเธอกลิ้งตกลงจากหลังม้าไปอย่างแรงก่อนร่างของทั้งคู่จะกลิ้งดิ่งลงไปถึงก้นหุบเหวลึก
พรึ่บ!!! แล้วภาพทุกอย่างก็ตัดดับไป
???