“แน่นอนครับ อาทิตย์หน้าผมจะบินไปตามเธอกลับมา แต่แม่ครับ ผมคงต้องใช้เวลาอยู่ที่ไทยสักหน่อย แม่ช่วยคุยกับพ่อให้มาดูแลชิคาโก้แทนผมก่อนได้หรือเปล่าครับ”
ถึงแม้บิดาจะวางมือไปแล้วแต่เขี้ยวเล็บของอดีตมาเฟียก็ยังคงคมกริบเหมือนเดิม พวกตำรวจบางคนก็นับถือบิดาของเขาเพราะบางทีตระกูลวินเทอร์ก็ให้ความช่วยเหลือพวกตำรวจในเรื่องที่พวกตนไม่เกี่ยวข้องเช่นกัน
“ได้สิ จะมีปัญหาได้ไง ลูกแม่จะไปตามเมียทั้งที แต่แม่ให้เวลาแค่สามเดือนนะ เพราะพ่อกับแม่วางแผนเอาไว้ว่าจะพากันไปเที่ยวรอบโลก”
มารดาตอบกลับมาในทันที แต่ทว่ากลับมีเงื่อนไขที่ทำให้มาเฟียหนุ่มต้องมองบนให้กับชีวิตคู่ของบิดามารดาที่หมั่นเติมความหวานให้แก่กัน เมื่อก่อนลูเซียโน่ บิดาของเขานั้นเจ้าชู้มาก กว่าจะมาเจอกับเอวาน่าที่เป็นมารดาของเขาก็ผ่านผู้หญิงมาไม่น้อย แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับความรักที่มีต่อมารดา
“อืม...ถ้าอย่างนั้นแม่กลับก่อนล่ะ ได้มาฟังจากปากลูกแบบนี้แม่ก็สบายใจ ว่าหนูคนนั้นคือสะใภ้ของแม่จริงๆ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่ลูกจ้างมา”
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาพี่ชายคนโตของเอเดนเคยจ้างผู้หญิงให้มาแกล้งเป็นแฟนของเขาเพื่อตบตาเธอ เอวาน่าจึงไม่ไว้ใจหากลูกชายอีกสองคนจะมาบอกว่ามีแฟนแล้ว เธอจึงต้องสืบเรื่องทุกอย่างก่อนที่จะลงมือจัดการ เพราะชีวิตคนเรามันสั้นนัก ความสุขก็มีได้เพียงไม่นาน เธอจึงไม่อยากให้ลูกสูญเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
การมีผู้หญิงที่รักอยู่เคียงข้าง นอกจากทำให้มาเฟียหัวดื้อพวกนี้อ่อนโยนลงกว่าเดิม หากมีทายาทมาด้วยแล้วอาจจะทำให้ลูกๆ ของเธอลดการใช้ความรุนแรงลงก็ได้ ที่ผ่านมาเธอเองก็ทุกข์ใจอยู่ไม่น้อยที่สุดท้ายลูกๆ ก็ต้องมารับช่วงต่อจากสามี แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะนี่คือธุรกิจที่มีมาตั้งแต่รุ่นปู่ของตระกูลวินเทอร์
เอวาน่าลุกขึ้นจากโซฟาตัวนุ่ม ลูกชายคนเล็กจึงลุกขึ้นแล้วสวมกอดเธอ เธอรู้ว่าเอเดนนั้นอ่อนโยนกว่าพวกพี่ชาย แต่เขาก็ยังคงความเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวของสายเลือดวินเทอร์เช่นกัน
“แม่กลับก่อนล่ะ ไม่ต้องออกไปส่งหรอก แล้วอย่าลืมที่รับปากกับแม่ล่ะ ไปพาเมียเรากลับมาแต่งงานให้ได้ ภายในระยะเวลาสามเดือน แค่สามเดือนเท่านั้นนะเอเดน”
“ครับแม่ เดินทางกลับดีๆ ครับ”
เอวาน่าปรายตามองบุตรชายคนเล็กอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกจากห้องรับแขกของเพ้นเฮ้าท์ไป สายตาคมมองตามมารดาไปจนลับสายตา ก่อนที่เขาจะเดินไปหยิบบรั่นดีออกมาจากตู้เย็นแล้วรินใส่แก้ว ร่างหนาเดินถือแก้วไปนั่งลงที่ห้องรับแขก ก่อนที่จะต่อสายไปหาเพื่อนสนิทที่อยู่อีกซีกโลก
ฮิวโก้ : ว่ายังไงครับบอส เมื่อไหร่จะมาแสดงตัวกับภรรยาครับ
เอเดน : ประโยคแรกที่ทักทายก็เกี่ยวกับภรรยาของฉันเลยนะ
ฮิวโก้ : นายรู้อะไรไหม ภรรยานายน่ะเสน่ห์แรงมาก ลูกค้าของบริษัทเราตามจีบไปทำงานให้คิวแทบไม่ว่างเลย
คนฟังถึงกับขมวดคิ้ว แก้วบรั่นดีที่ถืออยู่ถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเสียงดังลั่นจนบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างบุ๊ซต้องรีบเข้ามาดู แต่พอเห็นว่าไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไรเขาจึงเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปเงียบๆ เพราะเขารู้ดีว่าเวลานี้เจ้านายของเขาต้องการความเป็นส่วนตัว ด้วยเหตุนี้จึงไม่จ้างคนรับใช้แต่จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดตอนที่เขาไม่อยู่แทน
ฮิวโก้ : เมื่อครู่เสียงอะไรดังวะ นายกำลังยุ่งอยู่เหรอ
คนถูกถามรีบระงับอารมณ์ขุ่นมัว เขายกแก้วบรั่นดีขึ้นมากระดกจนหมดก่อนที่จะตอบเพื่อนออกไป
เอเดน : ฉันฝากนายดูแลภรรยาของฉันให้ดี ไม่ใช่ให้นายรังแกเธอด้วยการรับงานให้เธอมากมายถึงขนาดนั้น นายก็รู้ว่าถึงเธอไม่ทำงานเธอก็อยู่สบายได้ทั้งชาติ
ฮิวโก้ : แต่ดูเหมือนภรรยาของนายไม่ได้คิดแบบนั้นนะ เธอมีความสุขกับการที่ได้ทำงานมาก....เพื่อน พวกบอดี้การ์ดที่นายจ้างไม่ได้รายงานนายหรือยังไง
ผู้ที่เป็นเจ้าของโมเดลลิ่งครึ่งหนึ่งอย่างฮิวโก้ เศรษฐวัฒน์มองบนทันทีเมื่อได้ยินเพื่อนสนิทพูดออกมาแบบนั้น เพราะดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่จะไม่รู้นิสัยภรรยาของตัวเองสักนิดเลย
เอเดน : ปล่อยให้เธอสนุกกับงานไปอีกสักนิด พอถึงวันที่ฉันไปแสดงตัว งานของเธอก็ถือเป็นอันสิ้นสุด ส่วนใคร...ที่มันกล้ายุ่งกับเธอฉันจะไปจัดการเอง
คนฟังถึงกับถอนหายใจออกมา พลางคิดว่าชีวิตของอลินาหากได้วันใดที่สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเอเดนมาตามเธอ วันนั้นเธอคงจะกลายเป็นนกน้อยในกรงทอง เพราะมาเฟียอย่างเอเดนนั้นไม่ชอบให้ใครไปเตะต้องคนหรือของที่เขารัก
สองหนุ่มเพื่อนซี้พูดคุยกันเกือบชั่วโมงทั้งเรื่องบริษัทและเรื่องของอลินาจนในที่สุดเอเดนก็เป็นฝ่ายวางไปก่อน ภาพถ่ายของอลินาถูกส่งมาจากเหล่าบอดี้การ์ดที่เขาจ้างเอาไว้ รอยยิ้มของเธอทำให้เขาใจเต้นแรงและรอคอยวันที่จะได้ไปยืนตรงหน้าเธอแล้วแนะนำตัวว่า เขาคือเอเดน วินเทอร์ สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอ...