Rose 10
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา อาทิตย์มาที่ร้านดอกไม้ทุกวัน มานั่งรอรับฉันกลับบ้าน แต่รู้ไหมสิ่งที่ฉันเห็นคืออะไร ตลอดหลายวันที่เขามาหาสายตาของเขาเอาแต่จ้องมองพิมพ์ใจ แน่นอนว่าฉันไม่ได้ไม่พอใจเพื่อนสนิท ฉันยังคงนิ่งเฉยและทำใจยอมรับได้ทุกอย่าง เพราะพิมพ์ใจเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ไม่มีสักแวบหรอกที่ฉันจะโกรธเคืองเพื่อนคนนี้ แต่กลายเป็นตัวเองต้องมาเจ็บแปลบที่หัวใจ ยามเห็นว่าแววตาคู่คมนั้นหวานเชื่อมเพียงใด แต่นั่นไม่ใช่สายตาสำหรับฉัน
“เย็นนี้เจอกันนะ” พิมพ์ใจเอ่ยบอกเมื่อเรากำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน เป็นเพราะวันนี้ร้านปิดไวกว่าปกติ เพราะจะไปเลี้ยงส่งน้องเหมยเหมยกัน เราจองโต๊ะกันไว้แล้ว เหลือก็แต่แยกย้ายกันไปเปลี่ยนชุด แล้วไปเจอกันที่ร้าน
“ขอแซ่บ ๆ เลยนะ ต้องได้ผู้กลับบ้านนะวันนี้” พิมพ์ใจแกล้งแซวฉันอย่างสนุก ต่างจากใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนั้นเริ่มหน้าตึงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าหึงยัยพิมพ์กับน้องลมหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะ ให้เขาไปจัดการอารมณ์ตัวเองแล้วกัน
“ต้องจัดเต็มเลยนะวันนี้น่ะ” เอ่ยย้ำกับเพื่อนและน้อง ๆ ในร้านก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไป
“ขอขึ้นไปรอบนห้องได้ไหม?” สารถีข้างกายเอ่ยถามทำลายความเงียบขึ้นมา
“หือ รออะไร?” ฉันทวนถามอย่างไม่เข้าใจ เขาแค่ไปส่งฉันที่คอนโดฯ แล้วก็กลับเหมือนทุกวัน ทำไมต้องไปรอ งงเหมือนกันนะ ไม่เข้าใจคนคนนี้มาก ๆ เลย
“ก็รอไปส่งที่ร้านไง เดี๋ยวจะรอรับกลับบ้านด้วย”
“ไม่เป็นอะไรหรอก เราไปเองได้” รีบเอ่ยปฏิเสธทันควันโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรให้มากมาย แต่เหมือนอาทิตย์จะไม่ยอม ทั้งยังยืนยันกับฉันด้วยน้ำเสียงจริงจังว่ายังไงก็จะไปส่งและรอรับกลับ
“เราจะไปส่ง เดี๋ยวรอรับกลับด้วย”
“อาทิตย์...”
“ไม่รู้แหละ ไม่ฟังคำแก้ต่าง”
“อย่าเอาแต่ใจกับเรา” ฉันดุคนที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่ และแน่นอนว่าเขาดันตีหน้ามึนใส่ ไม่สนใจฉันเหมือนเดิม
“ไม่ฟังความเห็นต่าง เราจะรอไปรับและส่งเธอ โอเคไหม?” เฮ้อ จะมีสักครั้งไหมนะ จะมีบ้างไหมที่ฉันเถียงเขาชนะบ้างน่ะ
สุดท้ายอาทิตย์ก็ได้ขึ้นมานั่งรอฉันที่ห้องนั่งเล่นบนคอนโดฯ หลังจากส่งน้ำดื่มให้เขาตามมารยาท ฉันก็เดินกลับเข้าไปยังส่วนพื้นที่ห้องนอน เตรียมอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ วันนี้ฉันเลือกสวมเดรสรัดรูปสีดำเว้าลึกโชว์แผ่นหลังเหมือนเคย นึกถึงบรรยากาศมืด ๆ สลัว ๆ ของร้านแล้วก็เลือกแต่งหน้าอ่อน ๆ แทน เพราะแต่งเข้มไปก็ไม่มีคนมองเห็นอยู่ดีนั่นแหละ
เมื่อแต่งตัวเสร็จก็หยิบกระเป๋าสะพายข้างสีดำใบเล็กเข้ากับชุดมาสะพายไหล่ เก็บโทรศัพท์และบัตรสำคัญลงไปในนั้นก่อนจะเดินออกมาเปิดประตูห้องนอน ก็เห็นว่าอาทิตย์ไม่ได้นั่งรอที่โซฟา แต่ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่ประตูระเบียงห้องและกำลังรดน้ำต้นไม้ให้อยู่ ฉันก็ยืนรอจนเขาหันกลับมามองกัน
เหมือนจะเห็นเขานิ่งค้างไปไหมนะ? แล้วจากแววตาตกใจกับสีหน้าตื่น ๆ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นดุทันทียามที่ได้ลองกวาดสายตาสำรวจชุดที่ฉันสวมอยู่ในตอนนี้
“ไปเปลี่ยนชุด”
“ไม่” แน่นอนว่าฉันปฏิเสธกลับไปทันที ไม่สนใจสายตาและเสียงดุ ๆ นั่นเลยสักนิด
“มายด์” เมื่อฉันไม่ยอมทำตามอีกฝ่ายก็กดเสียงเรียกชื่อเสียงเข้ม คล้ายกับกำลังไม่พอใจที่ฉันต่อต้านเขาแบบนี้
“อย่ามาดุ อะไร? ใคร ๆ เขาก็ใส่กัน”
“แต่มันน่าอาย” แต่ประโยคนั้นของเขา กลับทำให้ฉันชะงักค้างไปด้วยความตกใจ เขาพูดว่ามันน่าอายเหรอ?
“อายก็ไม่ต้องอยู่ใกล้ แค่นั้นเลย จัดการอารมณ์ความรู้สึกตัวเองสิ ไม่ใช่ต้องให้คนอื่นมาคอยทำตามใจ” รู้แหละว่าคำพูดที่บอกเขามันดูตึง ๆ ก็แอบนอยด์อยู่นี่นาตอนที่ได้ยิน แต่ฉันจะไม่ยอมให้คำพูดของคนอื่นมาทำลายความสุขและความมั่นใจของฉันเด็ดขาด ถึงแม้จะเป็นคนที่ชอบก็ตาม
“มายด์ ขอโทษ...ไม่ได้จะหมายความว่าแบบนั้น”
“พอ ๆ เราไม่อยากฟังแล้ว ออกจากห้องเราได้แล้ว เราจะไปแล้ว” ฉันบอกปัดทันทีเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะแก้ตัวกับคำพูดไม่ยั้งคิดนั้น
“มายด์ อย่าโกรธเลยนะ เรา...เราแค่เป็นห่วง”
“ออกมาได้แล้ว” ฉันยังยืนยันคำเดิมและเรียกให้อีกฝ่ายออกมา นับว่าเป็นเรื่องดีที่อาทิตย์ยอมทำตามอย่างง่ายดาย ถึงแม้จะยังส่งสายตาดุ ๆ จ้องกันยามเห็นชุดฉันก็เถอะ ส่วนฉันน่ะปล่อยวางแล้วค่ะ ช่างเขาแล้วกัน ไม่อยากสนใจอะไรแล้ว
ตลอดการเดินทางจากคอนโดฯ ไปยังร้านอาหารตามที่น้องขวัญให้พิกัดมา ระหว่างเราก็มีเพียงความเงียบปกคลุม ไม่สิต้องบอกว่าฉันต่างหากที่เงียบ ส่วนอาทิตย์ก็มีชวนคุยบ้าง เขาพยายามเล่านู่นเล่านี่ให้ฟังตามปกติ ใครจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วคนพูดน้อยคนนี้น่ะชอบแชร์เรื่องราวที่เจอให้ฉันฟังบ่อย ๆ ในบางครั้งก็คอยถามความคิดเห็นฉัน ทั้งที่เรื่องพวกนี้เขาถามอดัมหรือเคลวินก็ได้เพราะพวกเขาสนิทกันที่สุด แต่ทำไมต้องเป็นฉันทุกทีเลยนะ?
“ถึงแล้ว มายด์วันนี้อย่าดื่มเยอะนะ” คนที่รั้นจะมาส่งเอ่ยย้ำเป็นรอบที่สิบ เมื่อมาจอดรถรอที่ลานจอดรถของร้าน ฉันไม่ได้ตอบรับอะไรทำเพียงเดินลงจากรถไปเงียบ ๆ ระหว่างที่เดินเข้าร้านก็เห็นว่าน้องมาลีมาถึงแล้วเช่นเดียวกัน น้องเพิ่งจะก้าวลงจากรถสีขาวคันหนึ่งที่ขับมาจอดเยื้อง ๆ กับหน้าร้าน
“มาลี” เห็นน้องเอาแต่ก้มหน้าควานหาโทรศัพท์ ก็เลยส่งเสียงเรียกไปแต่ไกล
“พี่มายด์! หนูเพิ่งถึงเอง” มาลีรีบเอ่ยบอกแล้วส่งยิ้มให้อย่างน่ารัก
“พี่ก็เพิ่งถึง ไป ๆ เข้าไปกัน” ฉันเดินเข้าไปควงแขนน้อง แล้วพากันเดินเข้าไปในร้าน แอบชะเง้อมองหาโต๊ะที่จองไว้ จนเห็นพิมพ์ใจกับน้องขวัญนั่งอยู่ก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
พอเดินเข้าไปใกล้ ๆ ถึงเห็นว่าวันนี้เพื่อนสนิทฉันมีคนตามมาดูแลด้วยนะ เป็นน้องลมที่มาด้วยกันแต่เลือกที่จะไม่ดื่มเพราะต้องขับรถ ส่วนอาทิตย์ที่เดินตามหลังฉันมาก็เลือกนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ ฉันแน่นอนว่าวันนี้เขาก็ไม่ดื่มเช่นเดียวกัน
ฉันนั่งดื่มและคุยกับทุกคนอย่างสนุกสนาน นาน ๆ จะได้ออกมาสังสรรค์ทั้งที มีบ้างที่นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ จะฝากเครื่องดื่มมาให้และส่งยิ้มให้อย่างชื่นชม ฉันเองก็ส่งยิ้มกลับไปตามมารยาท