“เป็นอะไรมากไหม” กรฉัตรที่พาริชาลงมาข้างล่างก็ถามขึ้นพร้อมกับสำรวจริชาไปด้วย แน่นอนว่ากรฉัตรได้เห็นรอยแดงเป็นรอยนิ้วมือที่หน้าของริชาทั้งสองข้าง
“ไม่เป็นไรมากหรอก ริชาคงใจร้อนเกินไปเลยทำให้ตัวเล็กโกรธเอาได้”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นถึงขั้นลงไม้ลงมือขนาดนี้” เพราะปกติแม้จะมีปากเสียงกันบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นลงไม้ลงมือกันแบบนี้ แต่ดูรูปนี้สิ
“ริชาผิดเองแหละที่ดันไปพูดว่ายังไงงานแต่งของริชากับพี่ฉัตรก็ไม่มีทางยกเลิก เพราะว่าเรารักกันมาก มันก็เหมือนกับไปยั่วโมโหน้องมั้งคะ ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้” ริชาพูดขึ้นด้วยท่าทางเหนื่อยใจและท้อใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งที่มันเป็นเพียงคำโกหกจากเธอ
“ช่างเถอะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง ยังไงก็ต้องขอโทษแทนตัวเล็กด้วยนะ”
“ริชาก็ฝากขอโทษน้องด้วยนะคะถ้าพูดอะไรที่ทำให้น้องไม่พอใจ”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งริชาดีกว่า จะได้กลับไปพักผ่อน”
“ให้คนของพี่ฉัตรไปส่งก็ได้ค่ะ พี่ฉัตรจะได้ไปคุยกับตัวเล็กด้วย” เพราะตอนนี้กรฉัตรยังมีอารมณ์อยู่ ถ้าเกิดเขาไปพูดอะไรกับหทัยยาตอนนี้ แน่นอนว่ามันคงจะมีแต่อารมณ์ของทั้งคู่ และความรุนแรงก็จะมากกว่าเดิม แบบนั้นก็จะทำให้ทั้งสองสาดคำแย่ๆใส่กัน จนกรฉัตรอาจจะพลั้งไม้พลั้งมือหรือพลั้งปากไล่หทัยยาออกจากบ้านได้นั่นเอง
“เอาแบบนั้นหรอ”
“ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งหน้าบ้าน” ว่าจบกรฉัตรก็เดินไปส่งริชาหน้าบ้าน
“ยังไงก็ค่อยๆคุยกันนะคะ ริชาไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ไปกว่านี้” ริชาเอ่ยขึ้นอย่างกังวลนั่นทำให้กรฉัตรพยักหน้ารับและรอจนคนขับรถของเขาขับรถออกไป เท้ายาวของกรฉัตรก็มุ่งไปยังชั้นสองของบ้านทันที
ปัง! เสียงประตูกระแทกใส่ผนังห้องอย่างแรงหลังจากกรฉัตรผลักดันมันเข้ามาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวกับการกระทำของหทัยยา
“คุณ” น้ำเสียงสะอื้นปนน้อยใจดังขึ้นเรียกกรฉัตรทันทีเมื่อเห็นหน้าเขา เธอรู้ว่าเขาจะต้องมาด่าว่าเธออย่างแน่นอน ดูแค่สีหน้าเขาตอนนี้สิ แต่เธอก็อยากรู้ว่าเขาจะถามเธอสักคำไหมว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเขาจะ...
“เมื่อไหร่จะเลิกทำนิสัยแบบนี้สักที!” คำถามของกรฉัตรดังขึ้นอย่างดัง นั่นทำให้หทัยยาหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้งทันที เธอก็แค่หวังสักนิดว่าเขาจะถามเธอว่าเรื่องเป็นมายังไงถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ถามและด่าว่าเธอจริงๆสินะ สุดท้ายก็มีแค่เธอที่ผิดและไร้เหตุผลคนเดียว
“ตัวเล็กไม่เลิก! จนกว่าตัวเล็กจะทำให้คุณเลิกกับผู้หญิงคนนั้นได้!” และด้วยความน้อยใจที่แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธทำให้หทัยยาไม่ควบคุมตัวเองเช่นเคย และเอ่ยประชดออกไปอย่างที่เธอคิดและหวังไว้ ว่ายังไงก็ต้องทำให้กรฉัตรเลิกกับริชาให้ได้นั่นเอง
“หทัยยา! อย่าให้ฉันต้องส่งเธอไปอยู่ที่อื่นนะ!” กรฉัตรพูดขึ้น และนั่นก็ทำให้หทัยยาถึงกับชะงักนิ่งเหมือนถูกสาปไปทันที
คำพูดของริชาก่อนหน้านี้มันดังขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง คำที่ริชาพูดว่าจะให้กรฉัตรไล่เธอออกจากบ้านตอนไหนก็ได้เพราะกรฉัตรรักและหลงริชา แต่นี่พวกเขาทั้งสองยังไม่แต่งงานกันเลย แต่กรฉัตรกลับเอ่ยปากจะไล่เธอออกจากบ้านแล้วหรอ
“ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ต่อไปก็ทำตัวดีๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศ!” มันไม่ใช่คำขู่ แต่มันคือสิ่งที่กรฉัตรคิดไว้ เพราะอย่างน้อยถ้าเกิดส่งหทัยยาไปจริงๆนอกจากจะได้เรียนที่ดีๆและเจริญกว่า อีกอย่างที่สำคัญเลยก็คือ จะได้ดัดนิสัยของเธออีกด้วย ถ้าเธอโตขึ้นมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ตอนนั้นก็ค่อยกลับมา
“คุณ ฮึก จะไล่ตัวเล็กออกจากบ้านหรอคะ” เสียงสะอื้นที่เอ่ยถามมาด้วยความเสียใจอย่างมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าการที่เธอจะถูกกรฉัตรไล่ออกจากบ้านมันง่ายมากแบบนี้ ง่ายอย่างที่เธอไม่คิด ทั้งที่เธอคิดว่าสิ่งที่ริชาพูดนั้นมันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ง่ายๆ หรืออาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย แต่ตอนนี้หทัยยาได้คำตอบใหม่แล้ว...ว่ามันง่ายนิดเดียว
“สิ่งที่เธอทำวันนี้มันเกินขอบเขตไปแล้วนะหทัยยา พรุ่งนี้เธอจะต้องไปขอโทษริชา”
“ไม่มีทาง! ตัวเล็กไม่มีทางขอโทษผู้หญิงอย่างยัยนั่นเด็ดขาด!”
“หทัยยา!...”
“ฉันใจดีกับเธอเกินไปใช่ไหม ฉันตามใจเธอมากเกินไปใช่ไหมเธอถึงได้นิสัยแบบนี้!”
“นี่คุณใจดีกับตัวเล็กแล้วหรอ! ตั้งแต่คุณคบกับผู้หญิงคนนั้นคุณก็เปลี่ยนไป ใจร้ายกับตัวเล็กทุกอย่าง อะไรก็เอาแต่ดุตัวเล็ก อะไรก็เอาแต่โทษตัวเล็ก ต่างจากเมื่อก่อน ฮึก...”
“เมื่อก่อนที่คุณจะถามตัวเล็กตลอดเวลาที่ตัวเล็กเสียใจ เศร้าใจ ว่าเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น ใครทำตัวเล็ก แต่ดูตอนนี้สิ ฮึก...”
“คุณไม่เคยแม้แต่จะถามตัวเล็กเลยด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเล็กถึงได้ทำแบบนี้ คุณไม่เคยนั่งฟังเหตุผลของตัวเล็กเลยสักอย่าง แค่เกิดเรื่องระหว่างตัวเล็กกับผู้หญิงคนนั้น คนแรกที่ถูกด่าก็คือตัวเล็ก คนแรกที่ถูกดุก็คือตัวเล็ก ถูกด่าต่อหน้าคนอื่นโดยที่คุณไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของตัวเองเล็กเลยสักนิด”
“.....” กรฉัตรถึงกับเงียบไปหลังจากถูกหทัยยาพูดแทงใจดำอย่างจัง เพราะเมื่อก่อนเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อก่อนเวลาหทัยยามีปัญหาอะไรจากโรงเรียน เขาจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆเธอแล้วถามเธอว่าเป็นอะไร มีปัญหากับเพื่อนหรือเรื่องเรียนหรือเปล่า เล่าให้เขาฟังสิ
“ตัวเล็กรู้แล้ว ว่ายังไงคนนอกสายเลือดอย่างตัวเล็กที่แม้จะได้ชื่อว่าน้องบุญธรรมของคุณ ฮึก มันก็ไม่ได้มีค่าหรือความสำคัญเท่ากับผู้หญิงที่คุณกำลังจะแต่งงานด้วยเลยสักนิด อีกไม่นานตัวเล็กก็ต้องกลายเป็นส่วนเกิน สักวันตัวเล็กก็ต้องถูกไล่ออกจากบ้านใช่ไหม!”
“มันไม่ใช่...”
“ตัวเล็กไปก็ได้ ตัวเล็กจะไม่ยุ่งกับคุณแล้วก็ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วก็ได้!...”
“คุณเองก็เหมือนกัน ต่อไปนี้ไม่ต้องยุ่งกับชีวิตตัวเล็กอีก!”เมื่อพูดจบหทัยยาก็ก้าวเพื่อวิ่งออกจากห้องตัวเองทันที แต่ก็ถูกกรฉัตรจับไว้ได้ก่อน
“จะทำอะไรของเธอ!”
“ทำอะไรมันก็เรื่องของตัวเล็กไม่ใช่หรอคะ ในเมื่อคุณอยากไล่ตัวเล็กออกจากบ้านอยู่แล้ว ตัวเล็กก็จะออกไปอยู่นี่ไง”
“เลิกงี่เง่าเอาแต่ใจตัวเองสักทีได้ไหมตัวเล็ก!”
“ปล่อย! ตัวเล็กจะทำอะไรก็เรื่องของตัวเล็ก ปล่อย!” หทัยยาพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากมือของกรฉัตร แต่เขาก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือเธอมากขึ้น ก่อนที่ทั้งสองจะฉุดกระชากกันไปมาไม่หยุด
“ถ้าเธอยังไม่หยุดอย่าหาว่าฉันใจร้ายนะตัวเล็ก!”
“คุณมีสิทธิ์ด้วยหรอ มีสิทธิ์อะไรที่จะมาใจร้ายกับตัวเล็ก!” หน้าเล็กเชิดขึ้นถามทั้งน้ำตาอย่างไม่ยอมแพ้ออกมา และนั่นก็ทำให้กรฉัตรรู้สึกโมโหกับการท้าทายนี้ของเธออย่างมาก
“ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างในชีวิตเธอ!” เสียงรอดไรฟันเอ่ยออกมาพร้อมกับแรงบีบที่เพิ่มมากขึ้น
“งั้นคุณก็จำไว้ให้ขึ้นใจ ว่าต่อไปนี้คุณจะไม่มีสิทธิ์อะไรในชีวิตตัวเล็กอีก ชีวิตตัวเล็กเป็นของตัวเล็ก และจะเป็นของคนที่ตัวเล็กอยากให้เป็นเท่านั้น”
“หทัยยา!”
“ทำไมคะ!” ร่างบางไม่ยอมแพ้สวนถามกรฉัตรที่เรียกชื่อเธอออกไปทันที และใช่มันเป็นการประชดประชันจากร่างบางนั่นเอง
“ทั้งชีวิตและร่างกายของเธอ ชาตินี้มันเป็นของฉัน!”
ตุบ!