"เสี่ยขาทำไมวันนี้มาไม่บอกนิเลยล่ะคะ..." ในขณะที่ชายวัยเคี้ยวยากก้มหน้าก้มตาเขี่ยโทรศัพท์มืออยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงหวานเอ่ยชื่อเสนาะหู จนทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับคู่นอนที่ใช้งานประจำ
"นิ" เสียงทุ้มละมุนเอ่ยขึ้น เมื่อเธอเดินมาพร้อมกับรอยยิ้มและถือวิสาสะนั่งลงตักแกร่งของไฟ ชายวัยเคี้ยวยากที่ยังไม่คิดลงหลักปักฐานกับหญิงใดเป็นตัวตน
"จุ๊บ...นิคิดถึงเสี่ยนะคะ" หญิงสาววัยขบเผาะแตะชิดริมฝีปากสวยลงกลับปากหยักหนาแผ่วเบา วงแขนโอบรอบคอส่งสายตาอย่างยั่วยวนชวนให้เสน่หา
"ปากหวาน" คนที่เจ้าเสน่ห์เอ่ยชม พร้อมกับระดมชอนไชจมูกลงซอกคอระหง
"อื้อ เสี่ย...ใจเย็น ๆ สิคะ"
"เสี่ยเริ่มอดใจไม่ไหว คืนนี้ไปต่อกับเสี่ยไหมหนู" ไฟที่ร้อนแรงกำลังจะลุกโชน คำหวานที่เปรยออกมาพร้อมสายตาที่สื่อความหมาย บ่งบอกได้ว่าต้องการสิ่งใด
จ๊วบ อื้อ... ก่อนจากมาก็ไม่วายที่จะบดจูบกันอย่างเร่าร้อน ด้วยแรงยั่วที่มีในตัวหญิงตามแบบที่เคยทำ ทั้งสองบดจูบกันอย่างไม่คิดแคร์สายตาของใคร เพราะสถานที่และแสงไฟที่สลัวไม่ได้ชัดเจนจนเป็นเป้าสายตาใคร
"อื้อ~~" ระคนที่สนใจบดเบียดเสียดสีกายให้ดึงดูด เนินนุ่มนิ่มที่ล้นเสื้อสัมผัสเสียดสีกับอกแกร่ง ยิ่งเพิ่มไฟเสน่หาในกายชายให้ร้อนรุ่ม
"เสี่ยไม่อยากเสร็จตรงนี้...เสี่ยมีที่ดี ๆ กว่านี้ให้หนูลอง สนใจไปกับเสี่ยไหม?"
หลังจากที่การบดจูบแบบสูบวิญญาณกันจนอิ่มพอ ทั้งสองจึงละกลีบปากออกจากกัน
"เสี่ยไปไหนนิจะตามไปไม่มีบ่นเลยค่ะ" นิ้วเรียวกรีดกรายลากไล้ลงอกแกร่ง และปรายสายตามองคนตรงหน้าอย่างเย้ายวน
ทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์และความต้องการของคนทั้งสอง และไม่ลืมที่เขานั้นจะป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากการร่วมรักนี้และทุก ๆ ครั้งก็ไม่คิดลืม เพราะคำว่าผูกมัดที่เขานั้นไม่ต้องการ
"อื้ม...อ่า เสี่ยคะ อ่ะ ๆ ๆ ๆ" เวลาเพียงไม่นานหลังจากที่ทั้งสองออกมาสถานที่อโคจรพร้อมกัน ชายวัยเคี้ยวยากที่ทานทนต่อสิ่งเร้าตรงหน้าไม่ไหว ปรี่ประชิดร่างกายอันเเสนยั่วยวนในทันที
แกนกายแกร่งถูกสอดใส่อย่างหนักเน้นโดยไม่ต้องรีรอ เอวหนาควบขยับสับสวนเข้าออกทางด้านหลังของหญิงสาวที่สองมือจับมั่นตรงราวระเบียงในยามราตรีที่มีเพียงแสงไฟสีอร่ามจากภายนอกสาดส่องเป็นเงารำไร
สองมือแกร่งจับมั่นตรงเอวเล็ก กระแทกกระทั้นความเป็นชายอย่างไร้ปรานี ความแรงและเน้นจนทำให้ร่างกายของหญิงสาวนั้นสั่นคลอน จนทนไม่ได้ต้องเปล่งเสียงครวญครางออกมาอย่างไม่อาจยับยั้ง ด้วยตัณหาที่มีนั้นแทบเจียนคลั่ง
"อ่า อ๊าส์"
เพี๊ยะ!!!!! เสียงฟาดฝ่ามือลงแก้มก้นเนียนผ่อง บ่งบอกถึงอารมณ์ดิบที่รุนแรง อีกมือกำผมยาวสีดำขลับแน่นจนใบหน้าสวยเงยแหงนเชิดขึ้น พร้อมเสียงหวานที่ครวญคราง
ตับ ๆ ๆ ๆ พลั่บ ๆ
เสียงเนื้อที่กระทบกันระงม เสียงครางของคนที่รองรับแรงกระแทกที่ร้องแทบไม่เป็นภาษา จากสิ่งที่ชายหนุ่มนั้นประเคนให้เธอ กิจกรรมรักริมระเบียงที่น่าระทึก ตื่นเต้น นานเกือบชั่วโมงกำลังจบลง เมื่อจังหวะสวนเอวนั้นเริ่มหนักและถี่ขึ้น
"อ๊ะ ๆ เสี่ย ซี๊ด~~ไม่ไหว"
"ใกล้แล้วอีหนู อ่า"
ตับๆๆ
เสียงร้องขอทำให้ไฟนั้นเร่งจังหวะถี่ขึ้นด้วยความเสน่หาต้องการปลดปล่อยตัวตน เพราะอีกคนนั้นก็กำลังจะถึงฝั่งฝันเช่นกัน
"อ๊ะ ๆ ๆ อร๊าง อี๊........อร๊าย!"
"อึบ อึก" ทุกอย่างจบลงด้วยความสุขสมของทั้งเขาและเธอ ร่างกายหนาซบใบหน้าลงแผ่นหลังบางอย่างเหนื่อยหอบ สองแขนของหญิงสาวค้ำมั่นรับน้ำหนักที่ไฟเทลงมา ไม่นานนักทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่ แกนกายที่ได้ปลดปล่อยเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ตัวตนถูกถอดถอนออกจากความสาว
เพี๊ยะ!
"เสี่ยไปก่อนนะ"
เมื่อความเหนื่อยทุเลาลงเขาทิ้งท้ายด้วยการฟาดฝ่ามือลงก้นเนียนอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำจัดการทำความสะอาดตัวเองแล้วเดินออกมา
ปึก! เงินจำนวนหนึ่งถูกวางลงกับโต๊ะทุกครั้งที่เสร็จสม
"เสี่ยกลับก่อนนะนั่นค่ารถกลับบ้านของหนู" เขาบอกกล่าวด้วยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ในขณะที่กำลังจัดการใส่เสื้อผ้าให้ตัวเอง โดยไม่ได้มองหน้าหญิงสาวแม้แต่น้อย ผู้หญิงชั่วคราวที่ไม่จำเป็นจะต้องมีไยดีมากมาย แค่น้ำแตกแล้วแยกทางเป็นอันจบสิ้น
"ขอบคุณค่ะเสี่ย" เธอยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน เม็ดเงินที่แลกมาด้วยร่างกายไม่ได้ทำให้เธอนั้นไยดีต่อร่างกายของตัวเองมากมายนัก ทุกอย่างก็เป็นเหมือนเขาเช่นกัน เพราะสิ่งที่กระทำไม่ได้มีความผูกพันธ์อะไรให้ลึกซึ้งมากกว่าความต้องการของกันและกันเท่านั้น
*****
ยามวิกาลที่แสนจะเงียบสงัด บ้านเดี่ยวที่ตั้งตระหง่านอยู่ท้ายหมู่บ้านจัดสรรในพื้นที่กว้างขวาง หญิงสาวที่ยังเฝ้ารอการกลับบ้านของใครคนหนึ่งด้วยคำสั่งก่อนที่เขาจะออกจากบ้านไปเมื่อตอนหัวค่ำ เธอเฝ้ารอด้วยใจจดจ่อตามหน้าที่อันได้รับมอบหมาย
"ง่วงแล้วนะ" เสียงพึมพำพร้อมอาการแสนง่วงของหญิงสาว แต่ยังต้องเฝ้ารออีกคนด้วยหน้าที่ แต่ไม่ใช่หน้าที่เมีย ไม่ใช่คนรักใด ๆ หรือแม้กระทั่งคำว่าแฟนที่ห่างไกล จะเป็นคนรับใช้ก็ไม่เชิง สภาพการณ์ที่เป็นเหมือนดั่งคนในที่ลับไร้ความสำคัญ
หญิงสาวที่นั่งดูโทรทัศน์รอจนดึกดื่น ความง่วงเข้าครอบงำจนเธอนั้นแทบทรงตัวให้นั่งตรงไม่ได้ เอนไปมาจนแทบล้มพับกับโซฟา ดวงตาปรือลืมแทบไม่ไหว แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อไร้สิทธิ์ในการต่อรอง เขาเปรียบเสมือนคนที่มีพระคุณ แต่อีกด้านกลับเหมือนทาสรับใช้ก็ไม่ปาน
"เมื่อไหร่จะมานะ พรุ่งนี้ก็ต้องทำงาน" น้ำอุ่นพึมพำเพียงลำพัง เธอยังคงนั่งจ้องมองรายการโทรทัศน์ยามดึก บางสิ่งทำให้หวนนึกขึ้นมาว่า ทำไมเธอถึงต้องมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ มันคือกรรมลิขิตหรือพรหมลิขิตกันแน่ที่ต้องมาพบเจอและเป็นอยู่เช่นนี้
...เสียงรถยนต์ดังแว่วเข้ามาในหู น้ำอุ่นรีบดีดตัวลุกแล้วเดินไปเปิดประตูด้วยรู้หน้าที่ ร่างเสลาในชุดนอนยาวเหนือเข่าพลิ้วไหว ขาเรียวเล็กก้าวเดินเร็วไว เปิดประตูให้แก่ผู้เสมือนเป็นนายชีวิตในยามนี้
"ชักช้า มัวทำอะไรอยู่กัน" ทันทีที่ไฟก้าวขาลงจากรถ คำต่อว่าก็เปล่งออกมาทันทีอย่างไม่รีรอ
"ขอโทษค่ะ แต่หนูก็ไม่ได้ช้ามากนี่คะ" น้ำอุ่นโต้ตอบทันควัน
"ยังจะมาเถียงอีก...ปิดประตูบ้านด้วยแล้วรีบเข้านอน พรุ่งนี้ออกจากบ้านเจ็ดโมงเช้า ถ้าสายก็ไปเอง" ไฟพูดเสียงแข็งก่อนจะเดินนำเข้าบ้านโดยไม่คิดสนใจรอ ผู้หญิงตัวเล็กก็ได้แต่ก้มหน้าทำตามที่เขาบอก จัดการล็อกบ้านจนแน่นหนาและเดินตามหลังชายวัยเคี้ยวยากขึ้นไปบนบ้าน
ห้องนอนที่อยู่ตรงข้ามกัน หน้าที่ของเธอที่ต้องดูแลเขาจนกว่าจะเข้านอน มันคือข้อตกลงและเงื่อนไขที่ได้ตบปากรับคำกันไว้อย่างไม่มีหลีกเลี่ยง
"จะอาบน้ำเลยไหมคะ หนูจะได้เตรียมน้ำให้" น้ำอุ่นเอ่ยถามเมื่อเธอตามเข้ามาในห้อง รับเสื้อสูทที่เขาถอดเก็บให้เข้าที่ สิ่งที่กระทำเสมือนสามีภรรยา แต่ว่าไม่ใช่น้ำอุ่นที่ได้รับตำแหน่งนี้
"วุ่นวายว่ะ" ไฟบ่นเบา ๆ อย่างคนหงุดหงิด มองคนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้าเหมือนหวาดกลัว
"หนูก็แค่ถามเองนะคะ ทำไมต้องหงุดหงิดใส่หนูด้วยล่ะ" น้ำอุ่นยืนก้มหน้ามองพื้นมือประสานกันแน่น ไม่ว่าตอนไหนทั้งที่เธอนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เขากลับหงุดหงิดใส่เธอได้แทบตลอดเวลา อยู่ ๆ น้ำตาของเธอก็ไหลอย่างไม่อาจหักห้าม บ่อน้ำตารื้นขึ้นมาทันทีทั้งที่ก็ไม่มีสิ่งใดร้ายแรงมากมาย
"มันจะอะไรหนักหนา ด่าสักคำก็ยังไม่มี...หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้นะ" ไฟที่เริ่มร้อนตามอารมณ์ อีกมุมที่น้อยคนนักจะได้เห็น สิ่งที่เป็นเหมือนเหรียญสองด้านที่เก็บซ่อนไว้ ด้านนี้เพียงด้านเดียวที่น้ำอุ่นได้สัมผัส ทั้งคำพูดและอารมณ์ร้าย ๆ มากมายเธอรองรับมันทั้งหมด จนแทบไม่เคยจะมีคำพูดดี ๆ ให้เธอได้ใจชื้นสักครั้ง
"ฮึก อึก หนูขอโทษค่ะ ไม่ได้อยากร้องไห้ อึก อึก แต่ว่าน้ำตามันไหลเอง" น้ำอุ่นเงยหน้ามอง ดวงตาของเธอเอ่อคลอด้วยม่านน้ำตาจนภาพชายตรงหน้านั้นพร่าเบลอ
"จะไปไหนก็ไป...เห็นน้ำตาของเธอแล้วฉันหงุดหงิด" ไฟออกปากไล่ สะบัดเสียงใส่อย่างนึกรำคาญ น้ำตาของหญิงตรงหน้าไม่สามารถทำให้เขานั้นนึกสงสารแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นก็ยิ่งหน่ายใจและพานให้รำคาญหงุดหงิด
"ค่ะ หนูไปนอนก่อนนะคะ" น้ำอุ่นบอกอย่างสุภาพ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่รินไหลอาบพวงแก้มก่อนจะเดินตรงไปยังประตูบานใหญ่พร้อมม่านน้ำตาที่ยังบดบัง
"แล้วพรุ่งนี้ก็ห้ามสายถ้าจะออกไปพร้อมกับฉัน"
"ค่ะ หนูจะไม่สาย"
ไฟสั่งการทิ้งท้ายเสียงแข็ง ทำให้น้ำอุ่นชะงักขาเดินแล้วเอี้ยวตัวหันกลับมามอง ก่อนจะตอบกลับและยืนยันหนักแน่นต่อสิ่งที่เขานั้นบอกกล่าว...
*****(2)