หน้าที่สำคัญ

1849 Words
'อย่าปล่อยให้ตัวเองเจ็บทั้ง ๆ ที่มีสิทธิ์เลือก' ประโยคนี้ที่ใครคนหนึ่งเคยพูดเพื่อย้ำเตือนในสิ่งหญิงสาวคนหนึ่งนั้นกำลังประสบพบเจอ 'น้ำอุ่น' แต่สำหรับเธอแล้วคำว่า เลือก นั้นช่างห่างไกล ตั้งแต่ที่ชะตาชีวิตได้อยู่ในกำมือของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ช่วยให้เธอนั้นรอดพ้นจากการที่ต้องชดเชยเม็ดเงิน ที่ทั้งชีวิตของเธอคงไม่มีปัญญาหามาได้ "ฮึก อึก..." เสียงสะอื้นร่ำไห้ที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา สิ่งที่พบเจอด้วยต้องจำนนต่อผลที่เกิด นำพาซึ่งความระทมทุกข์แทบทุกวัน ทั้งหนักหนาและบางเบาคละเคล้ากันไป "ฉันต้องเจอแบบนี้อีกนานแค่ไหนกัน ฮึก ฮือ" แม้จะพยายามทำใจยอมรับกับสิ่งที่เจอ แต่เธอก็แค่ผู้หญิงอ่อนไหวคนหนึ่ง ที่มีความรู้สึกนึกได้เจ็บเป็น แม้เพียงคำพูดเย็นชาแสนร้ายที่ได้ยินก็เรียกบ่อน้ำตาของเธอให้รื้นขึ้นมาได้ แกร๊ก~~ เสียงลูกบิดประตูดังแทรกความเศร้า น้ำตาที่คลอเคล้ารินไหล คนที่อยู่ใต้ผ้าห่มร้องไห้รีบเช็ดน้ำตาแบบลวก ๆ แสร้งหลับนิ่งไม่ไหวติง "นี่ยังไม่หยุดร้องไห้อีกเหรอ อะไรของเธอน้ำอุ่น" เสียงเข้มเอ่ยขึ้น น้ำเสียงชายเพียงคนเดียวที่คาดเดาได้ไม่ยาก เขายืนกอดอกมองเธอด้วยสีหน้าติดรำคาญ "หนูขอโทษค่ะที่ทำให้รำคาญ" น้ำอุ่นที่ได้ยินคำตำหนิ เธอรีบลุกนั่งตัวตรงแล้วก้มหน้ากล่าวด้วยความเศร้า "มาทำหน้าที่ของเธอ เพราะฉันนอนไม่หลับ" ความหมายของประโยคนี้เธอรู้ดี หน้าที่ ที่หมายความว่าต้องสร้างความสุขให้แก่เขา แม้ตัวเราจะระทมขมขื่น เพราะไม่อาจที่จะฝืนคำสั่งเขาได้ "ค่ะ" เธอตอบรับอย่างว่าง่าย แต่ในใจนั้นอยากปฏิเสธ แต่มันก็ยาก! เพราะเธอนั้นไม่สามารถออกเสียงพูดใด ๆ นอกจากทำตามอย่างจำยอมเท่านั้น ...คนที่ยืนนิ่งดั่งคนไร้ความรู้สึก จ้องมองร่างเสลาที่ก้าวลงจากเตียงช้า ๆ แสงไฟฟ้าสีเหลืองอร่ามสลัวขลับลับใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก ยิ่งยากนักที่จะทานทนต่ออารมณ์ได้ไหว น้ำอุ่นจัดการจับงัดความเป็นชายที่ตระหง่านคับแน่น เพียงสายตาเห็นก็ทำให้เธอนั้นมือไม้สั่นเทา ทั้งกลัวว่าจะทำให้ชายตรงหน้านั้นไม่พอใจกับท่าทางเงอะงะที่เป็น "ตั้งใจหน่อยสิ" "หนูขอโทษค่ะ" คำตำหนิที่ทำเธอสะดุ้ง สองเข่าค่อย ๆ สัมผัสลงกับพื้นแข็ง เธอลอบกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ หลับตาสนิทแล้วจัดการครอบครองความเป็นชายไว้ในปาก ผงกหัวขึ้นลงเป็นจังหวะ สร้างกระสันในกายชายให้แล่นพล่าน "อ่า อื้ม แบบนั้นแหละ ซี๊ด~~" ชายที่ถูกปรนเปรอถึงกับส่งเสียง ยิ่งหญิงสาวขับขานจังหวะสวาทเร็วขึ้น ยิ่งปลุกไฟเสน่หาในลุกโชติช่วงชัชวาล "อ่อก อื้อ อื้ม" "ซี๊ด ดีมากหนู อื้อ...ใกล้แล้ว" ความกระสันซ่านที่แล่นพล่านในกายชาย อารมณ์สวาทมากมายที่ไม่อาจทานทนได้ไหว มือหนาของไฟกำแน่นเส้นผมยาวสลวย บ้างขยับโยกอำนวยช่วยตัวเองให้ปลดปล่อย "อ่า ซี๊ด...กลืนมันลงไป" "อึก! อื้อ" และแล้วก็สุขสม น้ำรักสีขาวขุ่นทุกหยาดหยดพุ่งทะลักอัดแน่นเต็มปากสาว เขาเชยคางเธอให้เชิดเงยสบตา ใบหน้าที่ดูพะอืดพะอมจำนนต่อคำสั่ง เธอกระทำตามดั่งที่เขาว่าอย่างไม่อิดออด จนทำให้เขานั้นเกิดรอยยิ้มอ่อนมุมปากอย่างพอใจ "ต่อไปหน้าที่ฉัน" เขาว่าดังนั้นก็จับร่างบางเหวี่ยงใส่เตียงนอน พื้นที่นอนนุ่มยุบตัวตามแรงปะทะ ร่างหนาแกร่งตามคาบคร่อม และซุกไซร้ตามแรงปรารถนาที่มี...เวลานาทีนับจากนี้ล้วนเข้าสู่พายุสวาทที่โหมกระหน่ำตลอดค่ำคืนเป็นแน่... “.......ทำแบบนี้เหมือนกับหนูสำคัญ” เสียงสั่นเครือสะอื้นพยายามเอ่ยถาม มันเป็นคำถามที่ไม่ต้องเดาคำตอบให้ยาก แต่เธอก็ยังอยากจะถามออกไป "อย่าสำคัญตัวให้มาก ก็แค่อยากแก้เ..ี่ยนเฉย ๆ" ปากที่ยังคงครอบครองยอดถันเอื้อนเอ่ยอย่างไม่คิดรักษาน้ำใจคนฟัง เขาทาบทับร่างบอบบางจนไม่สามารถไหวติงได้ แม้เธอจะอยากขัดขืนแต่ก็ไม่อาจฝืนน้ำหนักที่มากกว่าของเขา ปล่อยให้เขาซุกไซ้ตามเรือนกายของเธอด้วยความจำยอม มีเพียงหยาดน้ำตาเท่านั้นที่รินไหลเงียบ ๆ เจ็บปวดคณานับกับสิ่งที่ได้ยิน "..........." น้ำตาที่มีไหลรินลงหางตา มือสองข้างถูกกดตรึงเหนือหัว เมื่อไม่อาจฝืนแรงห้ามเขาได้ จึงยอมให้เขากอบโกยตามอำเภอใจ เพราะที่เป็นมันคือหน้าที่ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน เงื่อนไขที่ไม่อาจหนีพ้นเมื่อคนอย่างเธอนั้นทำผิดพลาด จนทำให้งานได้รับความเสียหายนับล้านบาท จนไม่มีปัญญาจะใช้คืนนอกจากร่างกายที่เป็นเครื่องต่อรอง "ร้องไห้เหรอ หึ ไม่ได้สะเทือนหัวใจของฉันหรอกเด็กน้อย" เขาเมินเฉยต่อความเสียใจที่หญิงสาวถ่ายทอดออกมาผ่านม่านน้ำตาสีใส พูดออกมาอย่างคนใจดำ และเริ่มกระทำตามอารมณ์สวาทที่หมายปอง ...เปลือกตาของเธอหลับพริ้มอย่างจำยอมด้วยความทุกข์ระทมในคำพูดที่ไร้เยื่อใย ปล่อยให้เขาระดมจูบร่างกายอย่างช้า ๆ เสื้อผ้าที่สวมใส่หลุดหายทันตา จนร่างกายของเธอนั้นเปลือยเปล่า "ฮึก อึก..." เธอสะอื้นร่ำไห้นอนนิ่งบนพื้นที่นอนนุ่มนิ่ม ชายตัวใหญ่จัดการเปลื้องอาภรณ์ห่มกายจนหมดสิ้นไม่เหลือซาก "หน้าที่ของเธอนับจากนี้ รู้ดีใช่ไหมว่าต้องปฏิบัติยังไง" ไฟเอ่ยถามพร้อมคาบคร่อมร่างบอบบางและจ้องมองหน้า แม้ดวงตาของเธอจะไม่สบจ้องก็ตามที เขาก็ยังมีคำพูดที่บีบหัวใจคนฟังได้เสมอ "ค่ะ หนูรู้ดี...และไม่มีสิทธิ์ต่อรองใด ๆ นอกจากยินยอมเท่านั้น" น้ำอุ่นเอ่ยออกมาแม้ว่าจะเจ็บปวดในทรวงแทบเจียนตาย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อทุกอย่างเธอนั้นยอมรับตั้งแต่แรกที่เขาเสนอเงื่อนไขให้ ...ใบหน้าคมคายซอกซอนตรงร่องคอระหง จูบพรมตามผิวกายสาวที่เปลือยเปล่าอย่างน่าหลงใหล มือใหญ่ค่อย ๆ ลูบไล้สัมผัสเคล้นคลึงเนินนุ่มนิ่มของเธออย่างสนุกมือ ก่อนจะไล้ปลายลิ้นสากลากเลียไปตามเรือนกายขาวผ่องลงต่ำสู่เนินสาว ขบเม้มจนคนใต้ร่างนั้นเจ็บแปล๊บแต่ก็ยังกัดฟันอดทน อารมณ์สวาทที่ค่อนไปทางดิบเถื่อนเธอต้องรองรับมันให้ได้ แม้จะต้องระทมเพียงใดก็ตามที เพราะสิ่งที่เป็นอยู่นี้เธอเลือกตัดสินใจเอง "อึก ฮึก" คนที่นอนใต้ร่างไม่ต่อต้านใด ๆ เพราะแม้จะฝืนไปก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เธอจำต้องทำเพียงปล่อยให้ธารน้ำตารินไหลด้วยความเศร้า สองขาเรียวถูกแยกออกสุดความกว้างด้วยแขนแกร่งที่มีแรงมากกว่า ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ไร้การป้องกันพยายามสอดใส่เข้าสู่ความสาวอย่างช้า ๆ ความคับแน่นที่เป็นทำให้คนใต้ร่างนั้นถึงกับใบหน้าเหยเกเจ็บปวด แม้จะเคยโดนสัมผัสด้วยกายชายที่ยิ่งใหญ่มาแล้ว แต่มันก็ยังไม่คุ้นชินเสียที “หนูเจ็บ...” น้ำเสียงสั่นเครือเมื่อรู้สึกถึงการสัมผัสตรงกลางกายสาว ที่ทำเอาเธอนั้นถึงกับน้ำตาร่วงหล่นมากมาย แต่ก็ยังอดทนเพื่อให้มันผ่านพ้นไป ในเมื่อปรามไม่ได้ก็คงต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง "ทำอย่างกับไม่เคย ทั้งที่ก็โดนมาแล้วหลายครั้ง" คนที่กำลังอารมณ์แล่นพล่าน เริ่มพาลหงุดหงิดและต่อว่าอย่างตำหนิ แม้จะรู้ดีในความพยายามในการสอดใส่ว่ามันทำให้เขาทรมานเช่นกัน สวบ! กึด  ในที่สุดความยิ่งใหญ่ของชายชาตรีก็เข้าประสานในกายสาวของเธอได้ ใบหน้าคมคายที่เหมือนสุขใจ ลมหายใจที่พ่นออกมาอย่างเสน่หา แต่กลับอีกคนนั้นทรมานยิ่งกว่าสิ่งใด “อึก...ฮึก” “น้ำตาไม่ได้ช่วยให้ฉันหยุดความต้องการหรอก ซี๊ด แน่นฉิบ!" เอวสอบเนื้อแน่นเริ่มขยับเขยื้อนโยกย้ายสวนเข้าออกตรงกลางกายสาวอย่างช้า ๆ ทุกอย่างค่อย ๆ ไล่ระดับความเร็วในการสวนเอวขึ้นเรื่อยๆ เรือนร่างบอบบางเริ่มตอบสนองความต้องการในแรงสวาทแต่จิตใจนั้นอยากต่อต้านผลักไส ชายวัยเคี้ยวยากใช้ปากสัมผัสกับยอดอกที่มันน่าดึงดูดให้ครอบครอง ดูดดึงอย่างกับคนหิวโหยทั้งที่เพิ่งได้ปลดปล่อยไปไม่นาน บ้างก็ดูดตามเนื้อผิวจนเป็นรอยช้ำแดงตามตัวเป็นแห่ง ๆ ...จังหวะการกระแทกเน้น ๆ ช้า ๆ สลับกันไปมา เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นทุกจังหวะ เมื่อความซ่านเสียวในกายไม่อาจทนทานได้ไหวอีกต่อไป หญิงสาวเริ่มรู้สึกจุกท้องทุกครั้งที่โดนจังหวะหนักเน้นอย่างไร้ปรานี "หนูจุก อื้อ เบา ๆ ได้ไหม"  "....อ่า ซี๊ด ร่างกายเธอมันน่ารัก อื้ม ฉันพอใจ" ตั่บ ๆ ๆ พลั่บ ๆ ๆ “.................” เธอเงียบไม่ปริปาก เก็บกลั้นเสียงที่มีไว้ในลำคอ สิ่งที่ปลดปล่อยออกมาได้คือหยาดน้ำตาของความระทมที่เป็น ปึก ปึก ปึก เขากระแทกเน้นทุกจังหวะ มันทั้งเสียวและจุก จนหญิงสาวต้องกัดฟันแน่นและเริ่มที่จะทนไม่ไหว สองมือกำหมอนแน่นอย่างต้องการระบายความซ่านเสียว "อ๊ะ!!..เบา ๆ หนูจุก อื้อ" "ใกล้แล้วอีหนู ซี๊ด อื้ม" ตั่บ ๆ ๆ พลั่บ ๆ ๆ เมื่อพายุสวาทที่ร้อนแรงใกล้ถึงฝั่ง เอวหนาเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นดั่งลมพายุที่บ้าคลั่ง ทำให้ร่างบอบบางสั่นคลอนและเหนื่อยหอบจนดวงตาแทบลืมมองไม่ไหว เธอจ้องมองหน้าคนที่จัดการระบายอารมณ์กับเธอด้วยความเจ็บปวด ยิ่งมองยิ่งตอกย้ำความสำคัญที่มี...ว่าเธอไม่มีอะไรดีให้เขานั้นชายตามองสักนิด นอกจากเป็นคนที่คอยรองรับอารมณ์ให้ยามหิวกระหาย อร๊าย/อ่า ซี๊ด ....และแล้วทุกอย่างก็จบลง บทรักที่ร้อนแรงเริ่มผ่อนปรน ความรู้สึกอุ่นในช่องท้องเมื่อชายตัวใหญ่นั้นปลดปล่อยตัวตนพร้อมกับเหล่าลูกรักพุ่งฉีดอัดแน่นภายในกายสาวทุกหยาดหยด  หญิงสาวที่รองรับแรงสวาทนอนหอบหายใจเหนื่อยอ่อนแรงล้า เนื้อเนินอวบอิ่มกระเพื่อมถี่หายใจเร็วแทบไม่ทัน เขาขยับตัวถอดแกนกายออกปล่อยให้น้ำรักไหลรินออกมาจากความสาว ก่อนที่เธอนั้นจะขยับองศาให้หลีกพ้นสิ่งเปรอะเปื้อน แล้วพลิกตะแคงตัวให้นอนนิ่งและดึงผ้าห่มปิดคลุมร่างกาย นอนนิ่งพร้อมกับธารน้ำตาที่รินไหล โดยไม่คิดสนใจชายที่กระทำเธอด้วยอารมณ์ที่สุขสมแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD