"จะร้องไห้อะไรหนักหนา...ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง" ไฟยืนนิ่งจ้องมองแผ่นหลังบาง หลังจากที่เขานั้นจัดการกับตัวเองเมื่อจบสิ้นพายุสวาทลงแล้ว
"........." หญิงสาวที่จบสิ้นหน้าที่ของวันยังคงหันหลังไม่พูดตอบ นอกจากกำลังปลอบใจด้วยเองผ่านม่านน้ำตาของความเสียใจ เสียใจที่เลือกเงื่อนไขอันเจ็บปวดนี้
"เลิกบีบน้ำตาแล้วก็นอนซะ" ไฟเอ่ยบอกพร้อมกับสอดแทรกตัวเองเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับเธอ
"จะทำอะไรคะ?" ความตกใจทำให้เธอนั้นหันกลับมามองเขา ที่กำลังเข้ามากกกอดและนอนเคียง แถมยังห่มผ้าผืนเดียวกันทั้งที่เขาไม่เคยจะทำมาก่อน เสร็จสมก็จากไปทิ้งเธอไว้เพียงลำพังจนเริ่มคุ้นชิน...การกระทำที่เป็นตอนนี้มันทำให้เธอไม่เข้าใจ
"นอนไง...ถามมากอยู่ได้ดึกแล้วฉันง่วง" ไฟเอ่ยบอกเสียงแข็งและดึงร่างที่เปลือยเปล่าเข้ามากกกอด
"ปล่อยหนู จะกอดทำไมมันอึดอัด" น้ำอุ่นพยายามขัดขืนและฝืนแรงให้ขยับตัวออกห่าง พร้อมบอกออกไปอย่างขัดใจเมื่อเขานั้นเอาแต่ได้และบังคับเธอทุกวิถีทาง
"จะสดีดสะดิ้งทำไมเนี้ย อยู่เฉย ๆ ได้ไหมหรือว่าไม่อยากนอน" ไฟต่อว่าพร้อมกับเอ่ยวาจาข่มขู่ ซึ่งการกระทำแบบนี้เธอไม่เข้าใจอารมณ์เขาจริง ๆ บทจะนิ่งก็นิ่งใจหาย บทจะร้ายก็ร้ายเหลือแสน บางทีก็เหมือนจะดีก็ตามแทบไม่ทัน เหมือนดั่งเขานั้นเริ่มเป็นประสาท
"ปกติเมื่อคุณเสร็จสุขก็กลับไปนอนที่ห้องตัวเอง แล้ววันนี้ทำไมถึงไม่ไป" น้ำอุ่นเอ่ยถามออกไปด้วยความใสซื่อ ทั้งที่นอนตะแคงหันหลังให้ ลมหายใจอุ่นของไฟกระทบเข้ากับผิวกายของเธอจนระอุร้อนรุ่ม
"มีปากก็ช่างพูดช่างถามเนอะ บอกให้นอน นี่มันบ้านของฉัน...ฉันจะนอนที่ไหนก็ได้ใครจะทำไม" ไฟที่เริ่มหงุดหงิดออกบอกออกไป และกอดกระชับเอวบางให้แนบชิด
"....ขอโทษค่ะที่ลืมตัว ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันคือสิ่งที่ต้องชดใช้ให้และต้องทำตามเงื่อนไขโดยไร้ปากเสียง" เธอเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้า เมื่อย้อนนึกถึงสิ่งที่เป็นว่าไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ในการต่อกลอนเขา
"ก็รู้ดีนี่ แต่ทำไมชอบทำอะไรเกินตัว...ฉันไม่ได้ชอบหรอกนะอะไรที่เรื่องมากไม่เชื่อฟัง" ไฟเอื้อนเอ่ยชิดหู ลมปากที่พ่นใส่หัวเธอจนต้องเบี่ยงหลบเพราะไม่อยากได้รับการสัมผัสนั้น ไม่ได้รังเกียจแต่มันกลับทำให้เธอนั้นใจสั่นไหวไม่รู้ตัว
"หนูจะไปห้องน้ำค่ะ" หญิงสาวบอกกล่าวในสิ่งที่ต้องการ
"ก็ไปสิ ใครรั้งขาเธอไว้" ไฟพูดออกไปอย่างไม่ได้คิดตรองต่อการกระทำที่เป็นอยู่ในตอนนี้
"คงไปได้หรอกกอดอยู่แบบนี้" น้ำอุ่นยอกย้อนตาใส
"เดี๋ยวเถอะ..ระวังจะโดนดีอีกรอบ กล้ายอกย้อนฉันเหรอ" ไฟจับพลิกกายสาวให้ประจันหน้า ปล่อยกอดเธอให้หลวมแต่ไม่ปล่อยให้เอวบางเป็นอิสระ ต่อว่าตำหนิเธออยู่แบบนั้นทั้งที่เธอพยายามดันแผงอกแน่นให้ออกห่าง
"หนูไม่เอานะคะ หนูเจ็บตามตัวไปหมดแล้ว" น้ำอุ่นที่น้ำตาคลอเธอเอ่ยบอกออกไปหวังให้เขานั้นเห็นใจ ร่างกายของเธอที่เขาใช้งานแทบทุกวัน แม้ว่าจะออกไปบำเรอกามข้างนอกมาแต่เธอก็ยังเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกเช่นเดิม
"อย่าเถียง! อย่าดื้อ! อยู่ในโอวาทของฉัน! เพราะไม่อย่างนั้นฉันจะตะบี้ตะบันเอาเธอจนฟ้าเหลือง...จุ๊บ!...ไปได้ละ" ไฟพูดข่มขู่เสียงกร้าว จ้องมองหน้าหญิงสาวไม่วางตา บีบแก้มของเธอจนปากย่นก่อนจะแตะจูบลงแผ่วเบาและบอกกล่าวถึงอิสระที่เธอนั้นต้องการ การกระทำอ่อนไหวทำให้ใจสาวนั้นเต้นแรงดั่งกลองเพล จึงละสายตาหลบและลงจากเตียงนอนตรงไปยังห้องน้ำทันทีพร้อมกับใจสาวที่สั่นระรัว...ไม่เข้าใจเขาเลยจริง ๆ ว่าจะดีหรือจะร้ายกันแน่
...การกระทำแม้จะหยาบกระด้าง แต่ทุกอย่างก็ทำให้เธอใจสั่นไหว ยิ่งใบหน้าของเขาที่แทบคาดเดาอายุไม่ได้ หากไม่คลุกคลีใกล้ใครจะเดาออกว่าเขานั้นอายุขึ้นเลขสี่แล้ว เพราะยังดูหนุ่มแน่นดูดีอย่างกับคนอายุสามสิบต้น ๆ
...เมื่อจัดการชำระร่างกายจนเสร็จสรรพ เธอจ้องมองร่างกายที่แดงช้ำเป็นแห่ง ๆ ย้อนนึกถึงการกระทำก่อนหน้า แม้ว่าเธอจะเจ็บปวด แต่ก็มีบางอากัปกิริยาของเขาที่แอบซ่อนไว้ เพียงแค่เธอไม่มั่นใจเท่านั้น
"ฉันจะอดทนได้อีกนานแค่ไหนกันนะ...แต่จะทำไงได้ล่ะ ฉันเลือกเองนี่นาจะมาโทษอะไรตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์"
ปัง ปัง ปัง!!...
(จะนอนในห้องน้ำหรือไง!)
เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังระรัว พร้อมกับเสียงกร้าวที่เรียกขาน คนที่อยู่ในภวังค์ความคิดถึงกับสะดุ้งตัวตกใจ สติที่นึกตรองหลุดหายไปทันตา
"อีตาบ้านี่! ... ตกใจหมด" น้ำอุ่นสบถต่อว่า จ้องสายตาไปยังประตูห้องน้ำ ใส่เสื้อคลุมให้เรียบร้อยจึงผลักประตูออกไป
"เข้าห้องน้ำนึกว่าลื่นหัวกระแทกพื้นตายไปละ" ปากยังคงปีจอเหมือนเดิม
"...ก็หนูเจ็บทำอะไรมันก็ไม่สะดวก" น้ำอุ่นแย้งด้วยเหตุผล เพราะเธอก็รู้สึกดั่งปากว่าจริง ๆ
"สำออยกระแทกนิดกระแทกหน่อยทำบ่นเจ็บ...ไปนอนได้แล้วฉันง่วง" คนขี้โวยวายพูดขึ้นหน้าตายไม่คิดอายปาก และสั่งเสียงเข้มดุดันจึงหันหลังแล้วเดินขึ้นเตียงนอน
"แล้วใครดึงเปลือกตาไว้วะ" น้ำอุ่นกรอกสายตามองเพดาน และพึมพำออกไปอย่างระอา แหงนหน้ามองสูงเพื่อยับยั้งม่านน้ำตาที่เอ่อคลอ เพราะเริ่มสะเทือนหัวใจต่อคำพูดที่ไม่คิดรักษาน้ำใจเธอแม้แต่น้อย
"บ่นอะไร! รีบมานอนอย่าให้ฉันต้องเรียกถึงสามครั้งนะ" และเขาก็ไม่วายต่อว่าและข่มขู่อีกตามเคย เหมือนกับเธอนั้นเป็นเชลยของเขาก็ไม่เชิง
"ถามจริง ๆ เถอะค่ะ ที่ทำอยู่ตอนนี้เหมือนรักหนูหรือคะ......" เมื่อเดินออกจากห้องน้ำมา ความสงสัยต่อการกระทำที่ใจเธอนั้นสั่นไหว บางครั้งก็เหมือนใจดี แต่บางทีทำไมร้ายกาจดั่งอสูรร้ายก็ไม่ปาน
"หุบปาก!! อย่าคิดว่าฉันรักเธอ แล้วอย่าเผลอหลุดปากพูดเรื่องนี้ไป อยู่ในพื้นที่ที่ฉันจัดให้เป็นพอ เข้าใจไหม?" ไฟพูดสวนขึ้นทันใดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
"...ถึงแม้หนูจะพยายามยอมรับได้ แต่ถึงยังไงหนูก็เสียใจเป็น ทีกับคนอื่นไม่เห็นใจร้าย แต่ทำไมกับหนูถึงเหมือนคนละคน " คำพูดที่ทิ่มแทงก้อนเนื้อข้างซ้าย คำพูดที่ตอกย้ำให้เสียใจ น้ำอุ่นพยายามเก็บเสียงสะอื้นร่ำไห้ ปล่อยให้เพียงน้ำตารินไหลอาบแก้ม แล้วพูดบรรยายออกไปตามสิ่งที่เธอนั้นรู้สึก
"มานอน! เลิกเวินเว่อ ... อย่ามาวิจารณ์ฉัน...แล้วก็เช็ดคราบน้ำตาของเธอซะ เห็นแล้วหงุดหงิด" เขาโยนกล่องกระดาษทิชชูบนโต๊ะหัวเตียงให้เธอ จ้องมองหน้าและออกคำสั่งเสียงแข็ง จนน้ำอุ่นนั้นต้องทำตามเพราะถึงยังไงเธอก็คงขัดต่อคำสั่งของเขาไม่ได้
...ผ้าห่มถูกดึงคลุมกาย ชายตัวใหญ่โอบกระชับเอวบางเข้ากกกอดภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน การกระทำที่เป็นจะไม่ให้เธอคิดเข้าข้างตัวเองได้อย่างไร
"อยู่นิ่ง ๆ แล้วนอน...ถ้าไม่หลับตาฉันจะจับแทงทั้งคืนเลย!"
"ขู่ฟอด ๆ อย่างกับอสรพิษ" น้ำอุ่นบ่นยุบยิบในใจ
"ด่าฉันในใจหรือไง" ไฟแย้งขึ้นทั้งที่นอนหลับตา มือหนาจับคลึงเนื้อนุ่มตรงอกไปพลาง เหมือนการขับกล่อมให้เขานั้นหลับง่ายขึ้นด้วยการจับต้องอกอิ่ม
น้ำอุ่นที่ได้ยินเสียงที่ชิดหู เธอรีบหลับตานิ่งทันใด หัวสมองก็คิดไปไกลต่าง ๆ นานาจนเวลาเนิ่นนาน จึงคล้อยหลับไปในอ้อมกอดอุ่นของอสูรเถื่อน
*****(6)