“กิ่งลูก ตักผัดเต้าหู้ไข่ให้พี่เขาหน่อยสิลูก” กานดาบอกสั่งลูกสาว
กิ่งมณีเงยหน้าขึ้นมองหน้าของผู้เป็นแม่ก็ต้องจำใจทำตาม เพราะสายตาดุ ๆ นั้นเป็นคำสั่งที่หล่อนไม่อาจปฏิเสธได้
“ค่ะแม่เกด” แล้วหล่อนก็ตัดผัดเต้าหู้ไข่ใส่ถั่วงอกให้ชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ” ขุนพิทักษ์เอ่ยขอบคุณหญิงสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
แล้วการกินข้าวในค่ำคืนนี้กิ่งมณีก็ได้คอยตักอาหารให้แขกตลอดจนอิ่ม และตามด้วยของหวาน เมื่ออาหารเย็นจบลง สาวเจ้าก็ขอตัวออกไปเดินเล่นริมสระว่ายน้ำเพื่อย่อยอาหาร
ขุนพิทักษ์อยู่คุยกับเจ้าของบ้านข้างในบ้านจนดึก
พอท่านทั้งสองบอกง่วงแล้วเขาจึงขอตัวกลับ ระหว่างทางเดินไปยังที่จอดรถเขาก็เหลือบไปเห็นคนตัวเล็กช่างเหน็บแหนมยืนคุยโทรศัพท์อยู่ริมสระว่ายน้ำ เท้าใหญ่จึงเปลี่ยนทิศทางการเดินทันที
“แกไปนอนเถอะตา เดี๋ยวพี่หมอเผือกบอกแกเลิกคบฉัน ข้อหาชวนเมียเขาคุยจนลืมเวลาทำการบ้าน”
“ยัยกิ่งบ้า แค่นี้แหละ”
“อือ!” แล้วก็ตัดสายจากต้องตา พอหมุนตัวจะเดินกลับเข้าไปในบ้านก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่
อือ!” แล้วก็ตัดสายจากต้องตา พอหมุนตัวจะเดินกลับเข้าไปในบ้านก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่
“อุ๊ย! อะไรเนี่ย! มายืนอยู่ตรงนี้ทำไมไม่บอกกันบ้าง หา!” หล่อนตะคอกอีกฝ่ายพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าผากตนเองแรง ๆ ด้วยความหงุดหงิด
“เกลียดขี้หน้ากันขนาดนั้นเลยเหรอน้องกิ่ง” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถาม โดยไม่สนใจคำตะคอกของสาวเจ้า
“ก็เออน่ะสิ! แล้วก็เรียกดิฉันเหมือนอยู่ที่ทำงานด้วยค่ะ เพราะเรา...อะ! อื้อ!”
น้ำคำสาวกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อปากหนาฉกลงมาทาบทับ บดจูบจาบจ้วงเอาแต่ใจ มือใหญ่บังคับท้ายทอยสาวไม่ให้เบี่ยงหลบตน เรียวลิ้นร้ายสอดแทรกควานหาความหวานในโพรงปากช่างพูดก่อนจะผละออกมายิ้มเยาะ เมื่อเจ้าหล่อนน้ำตาคลอและเผลอจูบตอบไม่ไร้เดียงสากลับ
เผียะ!
กิ่งมณียกมือขึ้นตวัดใส่หน้าคมคร้ามทันทีเมื่อสติกลับมา แล้วยกมือขึ้นเช็ดถูปากตัวเองแรง ๆ ด้วยความรังเกียจ
“หึ หึ จูบแรกสินะ” ขุนพิทักษ์เอ่ยพลางหันกลับมาจ้องมองใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา แล้วยกมือหยาบกร้านเช็ดคราบน้ำตาให้เจ้าหล่อน
“ขอบคุณนะ” แล้วก็เดินจากไป ทำให้คนถูกฉวยโอกาสยืนกำมือแน่นตัวเกร็ง ไม่เข้าใจกับคำพูดของเขาก่อนจะเดินจากไป
"เฮ้อ!"
เสียงถอนหายใจแล้วถอนหายใจเล่า ตั้งแต่ต้องตาแต่งงานไปเจ้าหล่อนก็ไม่มีเพื่อนเลย เพราะเกรงใจสามีเพื่อน จะว่าไปเพื่อน ๆ ในกลุ่มก็แต่งงานกันหมดแล้ว ปีใหม่ปีนี้ทุกคนจึงอยู่ฉลองกับครอบครัว ก็เล่นแต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว แล้วเธอละมีใครบ้าง นอกจากครอบครัว คือชีวิตสาวโสดแบบเธอก็ได้แต่ถอนหายใจวันละหลาย ๆ รอบ
กิ่งมณี สว่างเกิด
หรือ
กิ่ง
วัยย่าง 31 ปี นั่งรับประทานลาบยโสธรเจ้าโปรดเจ้าเก่าเจ้าประจำที่ชอบมากินกับเพื่อน ๆ เมื่อก่อน คนอื่นแต่งงานมีครอบครัวหมดหล่อนก็มักมานั่งกินฉลองคืนข้ามปีกับต้องตา แต่ปีนี้ไม่ได้แล้ว ต้องตามีสามีและลูกแล้ว ฉะนั้นหล่อนจึงมานั่งโซ้ยลาบก้อยคนเดียวที่ร้านบนฟุตปาธขาประจำ
ส่วนพีรดา สามีพาไปเที่ยวต่างประเทศ ประภาก็อยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด และอีกคนก็กีรณาต้องดูแลสามีป่วยในคืนข้ามปี ฉะนั้น เคาท์ดาวน์ปีนี้ หล่อนถึงมาคนเดียว เพราะทุกคนต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว หล่อนเกรงใจทุกคนจึงเลือกไม่บอกใครแล้วมาเคาท์ดาวน์ร้านลาบยโสธรร้านประจำที่มากับเพื่อน ๆ ทุกปีในคืนข้ามปีแบบนี้
“ไม่เห็นอร่อยเหมือนมีเพื่อนมาด้วยเลย”
หล่อนมองอาหารตรงหน้าแล้วฝืนกลืนลงท้อง จริง ๆ อาหารอร่อย แต่มันหมดรสอร่อยเมื่อต้องนั่งกินคนเดียว เมื่อมองไปโต๊ะรอบ ๆ ต่างก็มากันเป็นคู่ ครอบครัวบ้างแหละ ส่วนพ่อกับแม่หล่อนก็ไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัด หล่อนไม่ถูกกับวัดจึงมานั่งเคาท์ดาวน์ที่ร้านลาบ
“ลุงคะ เก็บตังค์เลยค่ะ” เมื่อกินคนเดียวไม่อร่อยเหมือนมีเพื่อนทานเลยเรียกเจ้าของร้านมาคิดเงินตัวเอง เมื่อคิดเสร็จและจ่ายเงินเสร็จหล่อนก็ก้มมองนาฬิกาข้อมือ เหลืออีกครึ่งชั่วโมงจะเที่ยงคืน จึงสะพายกระเป๋าแล้วลุกเดินไปยังรถยนต์ของตนที่จอดอยู่ริมฟุตปาธ เพื่อขับกลับบ้าน ไปนอนดูซีรี่ส์เคาท์ดาวน์ที่บ้าน
“ลุงคะ เก็บตังค์เลยค่ะ”
เมื่อกินคนเดียวไม่อร่อยเหมือนมีเพื่อนทานเลยเรียกเจ้าของร้านมาคิดเงินตัวเอง เมื่อคิดเสร็จและจ่ายเงินเสร็จหล่อนก็ก้มมองนาฬิกาข้อมือ เหลืออีกครึ่งชั่วโมงจะเที่ยงคืน จึงสะพายกระเป๋าแล้วลุกเดินไปยังรถยนต์ของตนที่จอดอยู่ริมฟุตปาธ เพื่อขับกลับบ้าน ไปนอนดูซีรี่ส์เคาท์ดาวน์ที่บ้าน
เวลาไม่นานก็มาถึงบ้าน ด้วยรถไม่ติด ถนนโล่ง ก็ทุกคนกลับต่างจังหวัดกันหมด จึงใช้เวลาขับรถกลับบ้านไม่นาน พอมาถึงบ้านก็แปลกใจเมื่อเห็นรถยนต์คันหรูคุ้นเคยจอดอยู่
เขามาทำไมกัน พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ แล้วไหนบอกจะกลับสเปน แล้วทำไมถึงมาอยู่บ้านเรา
หล่อนคิดในใจ ก่อนจะดับเครื่องยนต์แล้วก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน
“คุณกิ่งคะ คุณขุนมานั่งรออยู่ในบ้านสักพักแล้วค่ะ” ทันทีก้าวเท้าเข้ามาในบ้านจะเดินขึ้นไปชั้นสองเด็กรับใช้ก็เดินเข้ามาขวางทางพร้อมบอกว่ามีแขกมารอ
“ใครเชิญเขามาจ๊ะน้อย”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณกิ่ง แต่ว่าเขามารอคุณกิ่งสักพักใหญ่ ๆ แล้วค่ะ”
“อือ! เดี๋ยวฉันไปถามเขาเอง พวกเธอไปพักผ่อนหรือไปเคาท์ดาวน์เถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้ เดี๋ยวคุยไม่นานเขาคงกลับแหละ”