เขายิ้มมุมปากขยิบตาเล็กน้อยให้คนขี้น้อยใจ ก่อนจะดึงร่างเล็กตามตนไปนั่งบนโซฟาอีกมุมหนึ่งในห้องทำงนของเธอ พร้อมดึงเจ้าหล่อนให้ลงไปนั่งทาบทับบนตักของตน เขาโอบสวมกอดเธอจากด้านหลังและเอาคางสากที่มีเครางามประดับเกยไหล่มนไว้
กิ่งมณีนั่งตัวแข็งบดเบียดอยู่บนตักหนาของอีกฝ่าย แม้อยากจะดิ้นขัดขืน แต่หล่อนก็โหยหาอ้อมกอดของเขาเหลือเกิน จึงแสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วพูดสิ่งที่มาคุในอกของตนออกมา
“คุณมายุ่งกับฉันทำไมทั้ง ๆ ที่มีเมียกับลูกแล้ว”
“รักเลยยุ่ง” ตอบสั้น ๆ แต่ความหมายของคำตอบช่างมีอานุภาพร้ายแรงเหลือเกิน เล่นเอาคนที่ถามถามต่อไปไม่ถูกเลยทีเดียว
“ระ...รักบ้าบอคอแตกน่ะสิ คุณตั้งใจมาหลอกฟันฉันมากกว่าทั้ง ๆ ที่มีลูกกับเมียรออยู่ก่อนแล้ว” กว่าหล่อนจะพูดจบประโยคก็แทบหยุดหายใจ ก็มือใหญ่ที่กอดรัดอยู่เอวคอดเริ่มเคลื่อนขึ้นมาสูงบีบเคล้นราวอกของหล่อนอยู่ตอนนี้
“ไม่คอแตกหรอก รักจริง ๆ เมียน่ะมีแล้ว ลูกก็มีแล้วพี่ไม่เถียงพี่มีจริง ๆ และเมียพี่ชื่อกิ่งมณีด้วยนะ” เขาตอบยิ้ม ๆ แม้ว่าคนที่ตนสวมกอดจะไม่เห็นแต่เขาก็ยิ้มได้เต็มปาก มือใหญ่ยังคงสาละวนบีบเคล้นราวอกของหล่อนไปมา แม้ว่าจะถูกมือเล็กจับให้หยุดก็ตามแต่
“เลว! คุณฟันฉันเพราะฉันชื่อเหมือนเมียคุณเหรอ ทำไมคุณ...”
“ไปกันใหญ่แล้วครับ ทำไมโง่และซื่อแบบนี้ เมียพี่พี่ก็กอดอยู่นี้ไง มินตราน่ะเคยเป็นแต่ตอนนี้เราหย่ากันไปแล้ว ส่วนหนูดีน่ะลูกพี่ ส่วนเมียคนปัจจุบันคือกิ่งมณีคนนี้ไง โอเครึยัง แล้วให้กอดให้หอม ให้ทำลูกด้วยได้รึยัง รู้ไหมปลิงทะเลน้ำลึกของกิ่งมันกำลังคึกคะนองนะ ยิ่งกิ่งดิ้นไปมามันยิ่งตื่นเร่า ว่าแต่เราเถอะพอจะให้โอกาสผู้ชายเคยมีอดีตและลูกติดแบบพี่ไหม” ก่อนเรื่องจะไปกันใหญ่ และเสียเวลาไปมากกว่านี้เขาจึงเอ่ยสวนกลับทั้ง ๆ ที่เธอยังพูดไม่ทันสุดประโยคด้วยซ้ำ
กิ่งมณียิ้มหน้าบานทันทีเมื่อกระจ่างชัดใจตัวเองแล้ว หล่อนยิ้มแบบที่ไม่ได้ยิ้มมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ จนคนที่เกยคางกับมนหล่อนอดเอ่ยแซวไม่ได้
“พอใจแล้วใช่ไหมถึงยิ้มกว้างแบบนี้ จริง ๆ มันเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ กิ่งน่าจะถามพี่จะหึงจะหวงอะไรก็ควรจะรู้ให้จริงก่อนนะค่อยหึงค่อยหวงและเสียใจ เฮ้อ! เหนื่อย! กิ่งทำให้พี่พูดเยอะกว่าที่เคยพูด แบบนี้คืนนี้ต้องให้รางวัลปลอบใจพี่นะ ขอนุ่ม ๆ หวาน ๆ ด้วยนะ”
พอได้พูดก็พูดเสียยาวจนกิ่งมณีเริ่มหมั่นไส้คนตัวโต ตอนนี้หล่อนไม่รู้เลยว่าจะเอาไงดี หัวใจมันเต้นรัวพองโตจนแทบจะระเบิดออกมานอกอกอยู่แล้วตอนนี้ แต่ที่รู้ตอนนี้เธอต้องหยุดมือปลาหมึกที่กำลังยุ่งกับหน้าอกของเธอก่อน ขืนปล่อยให้ทำแบบนี้หล่อนได้เสียหายไปมากกว่านี้แน่
มือเล็กดึงมือใหญ่ที่กำลังไม่ทำแค่บีบเคล้นเต้า แต่มันกำลังจะปลดกระดุมเสื้อของเธอออก
และเหมือนว่าคนหน้านิ่งจะไม่ได้แคร์หรือสนใจเธอเลยด้วยซ้ำ เขายังคงดึงดันจะปลดกระดุมเสื้อของเธอออกจนเธอเริ่มไม่โอเคกับตอนนี้แล้ว
“พอสักทีเถอะ! คุณพูดอะไรมาก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะฉันไม่ได้รักหรือชอบคุณ ฉันเกลียดคุณ! เกลียดผู้ชายไม่ให้เกียรติฉันที่สุด”
มือใหญ่ที่กำลังฟอนเฟ้นเต้าของคนตัวเล็กบนตักหยุดชะงัก แล้วดันร่างน้อยลุกห่างออกจากตน
“ฉันขอตัว” เมื่อเป็นอิสระกิ่งมณีก็ขอตัวทันที ทิ้งให้ขุนพิทักษ์นั่งนิ่งอยู่กับที่ และครั้งนี้เขาไม่ได้ร้องเรียกหรือฉุดรั้งเธอไว้ แต่ปล่อยให้เธอไปตามที่ต้องการ
ด้านสาวเจ้าเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานของตัวเองปิดประตูห้องทำงานสนิทก็หันหลังพิงประตูห้องแล้วเอามือทาบอกของตนไว้ เพราะตอนนี้มันเต้นแรงเหลือเกิน เต้นแรงจนหล่อนกลัวว่าตัวเองจะช็อกตายได้
“คุณกิ่งเป็นอะไรรึเปล่าคะ แล้วประธาน...”
“อยู่ในห้องน่ะ เดี๋ยวคงออกมาแหละ วันนี้กิ่งขอกลับก่อนนะคะ พอดีว่ามีนัดกับยัยแอลน่ะค่ะ แต่ก่อนไปกิ่งขอสั่งเลยนะคะถ้าใครจะเข้าห้องกิ่ง คุณพิไลต้องโทร.เข้าไปแจ้งกิ่งก่อนไม่ใช่ปล่อยเข้าไปแบบนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นประธานก็ไม่มีสิทธิ์ เพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของกิ่งค่ะ”
“ค่ะคุณกิ่ง พิไลขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ วันนี้กิ่งจะไม่ถือ แต่อย่าให้มีครั้งหน้าอีกค่ะ กิ่งไปนะคะ”
“ค่ะคุณกิ่ง”
กิ่งมณีเดินจากไปด้วยหัวใจที่เต้นร้อนไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าสวยร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย เมื่อถูกสารภาพรัก อยากเจอกีรณาเร็วกว่านัด เพราะตอนนี้หล่อนแน่นอกอึดอัด ไม่รู้ว่าที่ตนพูดก่อนหน้านี้มันถูกต้องหรือยัง หรือจะทำยังไงต่อไปดี เพราะหัวใจของหล่อนมันเรียกร้องหนุ่มพ่อหม้ายลูกติดเข้าให้เสียแล้วสิตอนนี้
"อุ้ย!"
ยังไม่ทันได้เดินพ้นตึกก็เดินชนเข้ากับร่างสูงใหญ่เข้าที่ลานจอดรถ จนเธอเกือบล้ม แต่โชคดีที่มีมือใหญ่ของใครก็ไม่รู้ตวัดเกี่ยวเอวของหล่อนไว้
“เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ” น้ำเสียงสุภาพเอ่ยถามหญิงสาวในอ้อมกอดด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรค่ะ” หล่อนบอกพร้อมกับดันร่างตัวเองออกจากอ้อมกอดของชายไม่รู้จักขึ้นมายืนด้วยสองเท้าที่มั่นคงของตนโดยที่ไม่มองหน้าของอีกฝ่าย