หญิงสาวครวญครางอย่างรัญจวนใจสุดขีด มือที่ยันหน้าอกหนาบึกบึนของราเมธในตอนแรกๆ กลับกลายเป็นโอบกอดรอบคอหนาของเขาแทน เธอพ่ายแพ้ต่อร่างกายของตัวเองที่ทรยศเบียดชิดเรือนร่างเข้าหากายแกร่งที่อุดมไปด้วยเลือดเนื้อความเป็นชายชาตรีของเขา
วงแขนที่เปลี่ยนเป็นคล้องไปที่รอบคอของชายหนุ่มแน่นขึ้นเพราะมัวเมากับรสจูบของเขา ราเมธจุมพิตปากหญิงสาวจนริมฝีปากบวมเป่ง เขาเลื่อนใบหน้าระเรื่อยลงมายังซอกคอหอมกรุ่นและหยุดที่อกอวบอิ่มที่ตอนนี้โดนมืออุ่นๆ ของเขาปลดกระดุมเพียง 1 เม็ด พร้อมด้วยการกระตุกอยู่สองสามครั้ง บราตัวจิ๋วก็หลุดออกมาในทันที ทุกอย่างปรากฏแก่สายตาเขาอย่างไม่ปิดบังซ่อนเร้น ราเมธซุกซบลงไปหาอย่างหักห้ามใจไม่อยู่
“พี่ราม...อย่าค่ะ! อ๊า...” หญิงสาวครางไม่เป็นส่ำ มือเสยเข้าไปในเส้นผมดกหนา กดให้เบียดชิดมากยิ่งขึ้น ราเมธใช้มือที่เหลือบีบเคล้นปทุมถันอีกข้างอย่างหนักมือ สร้างความวาบหวามแก่หญิงสาวอย่างร้ายกาจ อารมณ์ของเขาในตอนนี้กระเจิดกระเจิงจนกู่ไม่กลับ เขายกสะโพกกลมกลึงวางบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะกวาดแฟ้มทำงานบนโต๊ะออกไปให้พ้นทาง ร่างสูงคร่อมทับคู่หมั้นแสนหวานเอาไว้ ท่อนบนที่ตอนนี้กำลังเปลือยเปล่าถูกมือหนาสัมผัสแนบชิดสนิทเสน่หา
“พี่ราม...” หญิงสาวเรียกชื่อคู่หมั้นหนุ่มอย่างตกใจโดยสัญชาตญาณ เมื่อสะโพกงามสัมผัสกับพื้นโต๊ะ มือหนาถลกกระโปรงสั้นขึ้นมาบนเอวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปลดตะขอด้านหลังและดึงออกให้พ้นร่างบาง เหลือเพียงชั้นในตัวจิ๋ว ซึ่งบางจนเห็นเนินเนื้อสาวรำไร วาโยกำลังสับสนทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากแรงอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน จนไม่มีแรงต้านทานและป้องกันตัวเองจากชายคู่หมั้น ได้แต่ประท้วง อือๆ อาๆ ไปตามเรื่อง
ราเมธเริ่มจูบคู่หมั้นสาวอีกครั้งอย่างเรียกร้องอ่อนหวาน เหมือนจะสูบเอาลมหายใจทั้งหมดออกจากร่างของเธอ ตอนนี้สติสัมปชัญญะของวาโยเริ่มรางเลือนและเผลอไผลไปกับสัมผัสที่เขาหยิบยื่นให้ เสียงครวญครางขาดเป็นห้วงบอกถึงความทรมานอันแสนวาบหวาม
ชายหนุ่มจูบระเรื่อยลงมายังซอกคอหอมกรุ่น เรื่อยลงมายังอกอวบที่ชูชันรอรับการสัมผัสจากเขา หญิงสาวแอ่นอกให้ปากหนาอุ่นร้อนอย่างเชิญชวน ก่อนที่เขาจะกลืนกินปทุมถันเข้าไปในปากร้อนชื้นนั้น ราเมธลากลิ้นเลียและดูดเม้มผ่านหน้าท้องแบนราบละเลยไปถึงกายสาวที่กำลังยั่วยวนให้เขาสัมผัส ตอนนี้ถึงแม้ห้องจะเย็นด้วยเครื่องปรับอากาศสักเท่าไหร่แต่หาทำให้ร่างสองร่างที่กำลังร้อนระอุอยู่เย็นลงเลย หญิงสาวขณะนี้ร่างเปลือยเปล่าเพราะโดนเขาดึงชั้นในและซับในตัวจิ๋วออกจากกาย เธอกำลังนั่งครวญครางอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่มีร่างของคู่หมั้นหนุ่ม แต่เสื้อผ้ายังครบชุดบดจูบอย่างเร่าร้อน
วาโยครวญครางอย่างกระสันซ่านก่อนจะผวาเยือก เมื่อเขาจูบลงมายังเนินเนื้อแห่งสตรีเพศ ลิ้นหนาสอดแทรกเข้าไปภายในเร่งเร้าอย่างหนักหน่วง หญิงสาวใช้นิ้วสอดเข้าไปในผมดกหนาของคู่หมั้นหนุ่มทำท่าเหมือนจะดึงออกห่าง แต่ร่างกายกลับทรยศให้ดึงใบหน้าของเขาเบียดเข้ามาอย่างถนัดถนี่ ราเมธดูดซับกายสาวอย่างหักห้ามใจไม่อยู่ก่อนใช้นิ้วสอดเข้าไปภายในอย่างเนิบนาบ หญิงสาวกระถดสะโพกหนีตามสัญชาตญาณด้วยความเจ็บ เขาจึงรั้งสะโพกเอาไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้
“รู้ไหมว่าอย่าเล่นกับไฟ” ราเมธกระซิบไปที่ใบหูเล็กๆ หอมกรุ่นเพื่อสั่งสอน เริ่มขยับนิ้วเข้าออกอยู่หลายครั้งเป็นจังหวะรัก หญิงสาวรับรู้ถึงคำพูดของเขาแต่รางเลือนเต็มที สติกระเจิดกระเจิง ได้แต่ครางรับสิ่งที่เขาปรนเปรอให้เหมือนคนทรมานเหลือเกิน อยากให้เขาช่วยจึงร้องขอจนลืมความอับอาย
“ว่าไง” ราเมธถามหญิงสาวเสียงพร่า เขายังเล่นลิ้นถามกลับแต่ไม่สนใจจะฟังคำตอบ หญิงสาวผวาเยือกตอดรัดนิ้วเรียวยาวของเขาไม่หยุดหย่อน เขาปวดร้าวไปหมดทั้งร่างเช่นเดียวกับหญิงสาวตรงหน้า อยากจะสอดประสานกายเข้าไปในกายสาวที่กำลังยั่วยวนเขาเหลือเกินแต่ต้องหักห้ามใจเอาไว้ เพราะนี่เป็นการสั่งสอน หาได้อยากล่วงเกินจริงๆ ไม่
หญิงสาวกระตุกร่างรัดนิ้วเรียวยาวของเขาด้วยความเสียว ราเมธระรัวนิ้วถี่ยิบเพื่อเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ก่อนจะพาคู่หมั้นสาวสวยไปพบสรวงสวรรค์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต
วาโยผวากอดรัดราเมธแน่นและหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างบางระทดระทวยในอ้อมแขนของเขา แต่แตกต่างจากราเมธที่ตอนนี้เขาเจ็บปวดรวดร้าวจนอยากระบาย แต่เขาจะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาดชายหนุ่มคิด หญิงสาวค่อยๆ ได้สติกลับคืนมา รู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงและแดงทั้งตัวด้วยความอาย เมื่อพบว่าคนที่กำลังมองอยู่ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออกสักชิ้นเดียว แตกต่างจากเธอที่ตอนนี้แก้ผ้าล่อนจ้อนและยังทำเป็นหญิงร้อนสวาทจนน่าอับอายขายหน้าที่สุด
“คนบ้า ลามก เซ็กซ์จัด โรคจิต” หญิงสาวสาดคำพูดที่คิดว่าจะเจ็บแสบใส่คู่หมั้นหนุ่ม แต่เขาไม่สะทกสะท้าน กลับแสดงสีหน้าเฉยเมยอย่างไม่แยแส
วาโยผลักไสร่างของคู่หมั้นหนุ่มออกห่าง พยายามปิดป้องร่างกายอย่างอับอายขายหน้าที่สุด เขาถอยห่างอย่างไม่แคร์ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงมองเธอด้วยสายตาเย็นเยียบ
“ใครกันแน่เซ็กซ์จัด” ราเมธปล่อยร่างเปลือยเปล่าให้เป็นอิสระ ก่อนยืนกอดอกเพ่งพินิจร่างบางที่ตอนนี้แดงไปทั้งตัว เขาพยายามควบคุมอารมณ์ต้องการเธออย่างยิ่งยวด
“คนบ้า!” หญิงสาวร้องอย่างขัดใจ เมื่อทำอะไรเขาไม่ได้ ก็โมโหโถมร่างบางเปลือยเปล่าเข้ามาทุบตีหน้าหล่อของคนที่ยืนมองหล่อนแก้ผ้าอย่างบ้าคลั่ง ราเมธรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง
“รู้ไหมว่าทำกับพี่แบบนี้จะโดนอะไรอีก” ราเมธขู่หญิงสาวอีกรอบ ได้ผล...วาโยเลยหยุดทุบตีเขา เพราะกลัวว่าเขาจะทำให้เธออายเหมือนเมื่อสักครู่อีก
“ไปใส่เสื้อผ้าซะ” เขายังอุตส่าห์เดินไปเก็บเสื้อผ้าที่หล่นกระจัดกระจายทั่วห้อง ตามที่เขาถอดและโยนทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจเมื่อสักครู่ให้คู่หมั้นสาวสวย
“ห้องน้ำอยู่โน่น” ราเมธชี้ไปที่ห้องน้ำในห้องทำงานของตัวเอง หญิงสาวยืนกัดริมฝีปากจนห้อเลือด กระชากเสื้อผ้าของตัวเองที่เขาหยิบมาให้อย่างอับอายเต็มที
“ยังไม่ไปอีกหรือไง หรือจะให้พี่จัดชุดใหญ่ให้อีกหลายๆ รอบ คราวนี้อาจจะไม่ใช่แค่นิ้วนะ” เขาพูดพร้อมสาวเท้าก้าวเข้าหา หญิงสาวเผ่นเข้าห้องน้ำจนแทบไม่ทัน วาโยยืนหอบหายใจอยู่ในห้องน้ำก่อนที่จะก่นด่าคู่หมั้นหนุ่มอย่างขัดใจ แต่ลึกๆ เธอก็ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของเขาเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวพยายามสลัดความคิดบ้าๆ นั่นออกไป ปฏิเสธตัวเองว่าเธอรังเกียจสัมผัสของเขามากแค่ไหน ผิดกับราเมธที่ตอนนี้เขากำลังหน้าเครียด เนื่องมาจากสาเหตุอะไรเขารู้ตัวเอง คือ...เขาอารมณ์ค้าง จนอยากหาทางระบาย ราเมธเพ่งมองคู่หมั้นสาวสวยตรงหน้าที่ออกมาจากห้องน้ำในขณะที่เธอก้มหน้างุดไม่ยอมสบตากับเขาเหมือนคราแรก
“พรุ่งนี้พี่จะให้เราเริ่มงานวันแรกในตำแหน่งเลขาและ...” ชายหนุ่มพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ ก่อนชะงัก
วาโยนั่งเฉย จะให้เธอพูดอะไรล่ะ ตอนนี้รู้สึกอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี ประโยค “และ” ที่เขาพูดค้างไว้ ทำให้ต้องเงยหน้ามองเขาอย่างตั้งคำถาม แต่กลับหน้าแดงเพราะเขากำลังมองเธอด้วยสายตาเป็นประกาย เหมือนเธอจะเสียรู้เขาเข้าให้แล้ว
“บ้า! พี่รามบ้า มองทำไม โรคจิตหรือไง” หญิงสาวว่าเขาอย่างอับอายไม่หาย
“พี่ก็มอง…” พูดได้แค่นั้น เขาก็มองสำรวจร่างเธออย่างไม่เกรงใจ หญิงสาวลุกขึ้นคว้ากระเป๋าเตรียมสาวเท้าออกจากห้องทันที เพราะไม่อยากนั่งทนอยู่ตรงนี้แล้ว ราเมธไม่เหมือนพี่ชายใจดีเมื่อในอดีต แต่เขาร้ายกาจที่สุด ใครจะคิดว่าผู้ชายขรึมๆ เข้มๆ บ้างานจะทำอะไรกับเธอแบบนี้ นึกว่าตายด้านเสียอีก...ชิส์! คนบ้า ลามก เธอเกลียดเขาที่สุด