Friend With Benefit : 9

1850 Words
Mafia Part . 'จีบสาวก็ต้องชวนเขาออกเดตสิวะไอ้เพื่อนโง่!’ เพราะคำแนะนำ(หรือด่า?)นั้น วันนี้ผมจึงมาอยู่ตรงนี้ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนักคือตัวเลือกที่ดีสำหรับ ‘เดตแรก’ . . สองวันที่แล้ว ​ . ‘สรุปมึงกับดาวเป็นยังไง’ ’เป็นยังไงอะไรของมึง’ ผมถามพลางเดินนำอีกฝ่ายมาที่โซฟา ก่อนจะนั่งลงทำงานต่อผิดวิสัยเจ้าบ้านที่ควรต้อนรับแขก แต่ก็นะ...แขกแบบมันไม่มีความจำเป็นต้องต้อนรับอะไร แขกไม่ได้รับเชิญไม่ได้สนใจกับท่าทีไม่รับแขกของผม มันอาศัยความหน้าหนาของตัวเองเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นกินเอง ก่อนจะเดินกลับมาหาผมและถามคำถามเดิม ’มึงกับนับดาวเป็นยังไงบ้าง ไม่ต้องมาทำเงียบเลยนะมึง กูอุตส่าห์ขับรถมาตั้งไกลเพื่อมาถามความคืบหน้า วันนั้นกูโทรตามนับดาวให้ขนาดนั้นแล้ว อย่าบอกว่ามึงโง่ปล่อยเขาไปอีกนะ’ คำพูดยาว ๆ ไม่ได้ทำให้ผมสนใจเท่าคำ ๆ เดียวจากมัน ผมเงยหน้าจากงานขึ้นมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนค้ำหัวอยู่ทันที ’มึงมีเบอร์นับดาวได้ยังไง’ ’ไอ้เวร! นี่ใช่สิ่งที่กูอยากได้ยินไหมวะ’ คริสว่าอย่างหัวเสีย ก่อนจะยอมตอบออกมาเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้ล้อเล่นและต้องการคำตอบจริงจัง ’กูค้นในมือถือมึงเองแหละ พอใจยัง ทีนี้ก็ตอบคำถามกูได้ละ’ ‘ก็ดี’ ’หมายความว่ายังไงก็ดีของมึงอะ’ ’เขาจะเริ่มต้นใหม่กับกู’ ’เริ่มต้นใหม่ แบบนี้มึงไม่ต้องตามจีบเขาใหม่เหรอวะ’ ’ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว กูกับเขาข้ามขั้นตอนมาเยอะเกินไป เริ่มใหม่ก็ได้ไม่เห็นเป็นไร’ ’เพื่อนกูโคตรพระเอกเลยว่ะ ได้เขาเป็นเมียแล้วยังยอมเริ่มต้นใหม่อีก’ ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานที่ทำค้างไว้เพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงหมดเรื่องถามแล้ว แต่ก็คิดผิดเพราะไอ้คริสที่วันนี้แปลงร่างเป็นเจ้าหนูจำไมยังคงตั้งคำถามไม่หยุดหย่อน ’แล้วได้ไปเดตกันบ้างหรือยัง’ แต่คำถามนั้นเรียกความสนใจจากผมได้ไม่น้อย ผมยอมละสายตาจากงานกลับไปมองหน้าเพื่อนสนิทอีกครั้ง ’ทำไมต้องเดตวะ” ‘จีบสาวก็ต้องชวนเขาออกเดตสิวะไอ้เพื่อนโง่!’ คริสจงใจเน้นคำว่าโง่ใส่หน้าผม ‘กูล่ะเหลือเชื่อกับมึงเลย ทุกวันนี้ไม่ได้ออกเดตกันแล้วจีบกันยังไงวะ’ ’ส่งข้อความหากันบ้าง คุยโทรศัพท์กันบ้าง’ ’นี่มึงคิดว่าตัวเองอยู่มัธยมเหรอวะ เด็กมัธยมเดี๋ยวนี้เขายังรู้เลยว่าจีบกันต้องออกเดต ไปกินข้าว ดูหนัง ทำกิจกรรมร่วมกัน’ ’...’ ’มึงอย่าชะล่าใจนะเฟีย นับดาวกับมึงยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน ถ้ามึงยังมัวแต่ใจเย็นอยู่แบบนี้ระวังหมาคาบไปแดก แล้วเดี๋ยวจะมาเมาเป็นหมาให้เพื่อนแบกกลับคอนโดอีก’ . . เพราะคำพูดแกมขู่ของคริสในวันนั้น ทำให้วันนี้ผมตัดสินใจนัดนับดาวออกมาที่นี่ ซึ่งนับดาวเองก็ไม่ติดขัดอะไร เธอเพียงแค่บอกว่าให้เจอกันที่ห้างเลยจะสะดวกกว่า เวลานี้ผมจึงมานั่งรออีกฝ่ายในร้านอาหารที่นัดกันไว้ ผมขยับตัวอย่างอึดอัด เพราะสายตาจากผู้หญิงตั้งแต่มัธยมยันวัยทำงานที่พากันจ้องมองมาอย่างไม่ปิดบังทำให้ผมอยากลุกออกจากร้านนี้ให้รู้แล้วรู้รอด นี่เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ผมไม่ชอบออกมาเที่ยว พูดตรง ๆ ว่ารำคาญสายตาที่จ้องมองมาอย่างไร้มารยาทแบบนี้ ปกติผมไม่ค่อยเข้าหาผู้หญิงก่อนอยู่แล้ว พอรู้ว่าหัวใจตัวเองอยู่ที่ใครผมยิ่งไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นเข้าไปอีก “ขอโทษที มาสาย” เสียงหวาน ๆ ทำให้ผมเงยหน้าจากเมนูขึ้นมอง อารมณ์หงุดหงิดที่มีจางหายไปอย่างรวดเร็ว ผมยิ้มออกมาบาง ๆ เมื่อเห็นร่างบอบบางในชุดนักศึกษาพอดีตัวยืนอยู่ตรงหน้า “ไม่เป็นไร ฉันก็เพิ่งมาถึง” ผมโกหก ที่จริงผมมาถึงตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว เพราะไม่เคยออกเดตกับใครเลยกังวลไปทุกอย่าง กลัวเลือกสถานที่ไม่ดี กลัวรถติดแล้วไปนัดสาย กลัวทำให้ฝ่ายหญิงต้องนั่งรอ เลยกลายเป็นว่าผมมาถึงก่อนเวลานัดเป็นชั่วโมง แต่ผมจะไม่มีทางให้นับดาวรู้เด็ดขาด มันน่าอายไม่ใช่เหรอ? “สั่งอะไรหรือยัง” “ยัง ฉันรอเธอมาก่อน” “อ๋อ งั้นฉันสั่งนะ หิวมาก” “ตามสบาย” ผมตอบก่อนจะนั่งมองคนหิวที่เรียกพนักงานมารับออร์เดอร์ด้วยความคิดถึง หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีก เพราะต่างฝ่ายต่างต้องเคลียร์งานของตัวเอง ผมไม่อยากรบกวนจึงเลือกที่จะส่งข้อความหาและโทรคุยกันในบางครั้ง ไม่ได้ฉุกคิดเลยว่ามันน้อยเกินไปสำหรับการจะจีบใครซักคน โดยเฉพาะใครคนนั้นเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยที่มีแต่คนอยากครอบครองเป็นเจ้าของอย่างนับดาว พอได้มาเจอหน้ากันแบบนี้มันทำให้ผมรู้ว่าตัวเองโหยหาคนตรงหน้ามากแค่ไหน ถ้าไม่ใช่ที่สาธารณะผมคงดึงเธอมากอดให้หายคิดถึงไปแล้ว ผมยอมรับกับตัวเองว่ากำลังชอบนับดาวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เจอหน้าก็อยากกอด อยากหอม อยากจูบ อยากทำทุกอย่างเหมือนเป็นหนุ่มคลั่งรัก ผมเลิกแปลกใจที่ตัวเองมีความรู้สึกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแบบนี้ไปแล้ว ทั้งหมดมันเป็นเพราะนับดาว เพราะเธอคือข้อยกเว้นทุกอย่าง “มีคนมาจีบเธอบ้างไหม” “แค่ก! แค่ก!” นับดาวสำลักน้ำที่กำลังดื่มทันทีเมื่อผมถามคำถามนั้นออกไป ผมรีบเข้าไปลูบหลังบางจนเธออาการดีขึ้น เหลือเพียงใบหน้าที่ยังคงแดงจัดเพราะอาการสำลักเมื่อครู่ “จู่ ๆ มาถามอะไรแบบนี้” “ฉันแค่อยากรู้ว่าตัวเองมีคู่แข่งมากแค่ไหน” “ถ้าบอกไปจะถอดใจหรือเปล่าล่ะ” “ไม่มีวัน” “อ่า...” คำตอบที่แสนหนักแน่นของผมทำให้นับดาวตอบไม่ถูก เธอยกแก้วขึ้นดื่มน้ำพร้อมกับแก้มที่ขึ้นที่ชมพูจาง ๆ ผมเคยบอกไปหรือยังว่าผู้หญิงแบบนับดาวเวลาเขินน่ารักน่าแกล้งมากแค่ไหน? ถ้าไม่เคยบอก ผมก็อยากจะบอกให้ทุกคนรู้ว่านับดาวเวลาเขินจนทำตัวไม่ถูกน่ารักมาก น่ารักจนผมอยากแกล้งให้เธอเขินอยู่แบบนี้ทั้งวัน ไม่ต้องทำอะไรอะไรก็ได้ แค่ได้นั่งมองหน้าสวย ๆ ที่ขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาตินี้ตั้งแต่ตื่นยันนอน แค่นั้นผมก็มีความสุขแล้ว อ่า...ผมกลายเป็นหนุ่มคลั่งรักจริง ๆ แล้วสินะ “ไม่มีหรอก มีแค่นายคนเดียวที่กล้าจีบฉัน” “ทำไมล่ะ” “ฉันเป็นผู้หญิงน่าจีบหรือไง หน้าแบบนี้...” นับดาวถามกลับพร้อมชี้หน้าตัวเองที่บึ้งตึงให้ผมดู ผมหลุดขำออกมาเพราะเข้าใจที่เธอต้องการจะสื่อ นับดาวเป็นผู้หญิงสวยที่หน้าไม่รับแขกเอาเสียเลย ถ้าไม่จำเป็นเธอมักจะทำหน้านิ่ง ๆ เท่านั้น ซึ่งหน้านิ่ง ๆ ของเธอในสายตาคนอื่นก็คือหน้าที่บึ้งตึงดูอารมณ์เสียตลอดเวลานั่นแหละ “ก็หัดยิ้มเยอะ ๆ สิ” “อยากให้ฉันโดนจีบเยอะ ๆ เหรอ” “งั้นไม่ต้องยิ้มแล้ว ยิ้มให้ฉันคนเดียวพอ” “ไม่ใช่แฟน สั่งฉันไม่ได้หรอกนะ” “พยายามจะเป็นอยู่นี่ไง” ผมว่าพลางเลื่อนมือไปกุมมือบางที่วางอยู่บนโต๊ะไว้หลวม ๆ “อย่าจีบยากนักนะ เห็นใจคนไม่เคยจีบใครมาก่อนด้วย” “...” นับดาวพูดไม่ออก เธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วก็หุบลงอยู่แบบนั้นหลายครั้ง แต่แก้มใสขึ้นสีแดงจัดกว่าที่เคยทำให้ผมรู้ว่าเธอกำลังเขิน “ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ” “คะ...ค่ะ” นับดาวดึงมือออกจากการกอบกุมทันทีที่มีบุคคลที่สามเดินเข้ามา ก่อนจะแสร้งทำเป็นสนใจพนักงานที่เอาอาหารมาเสิร์ฟ แต่กิริยาที่พยายามหลบสายตาผมพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อซ่อนแก้มแดง ๆ ของเธอนั้นทำให้ผมอดยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้ ใครจะเชื่อว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งนับดาวจะน่ารักได้ขนาดนี้ อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่ได้เห็นนับดาวในมุมนี้ มุมที่น้อยคนจะได้เห็น “เลิกมองได้แล้ว” เธอทำเสียงดุแก้เขิน “กินข้าวเถอะ เดี๋ยวไม่ร้อนจะไม่อร่อย” “กินข้าวเสร็จแล้วจะไปไหนต่อไหม” “ไม่ไป” “งั้นไปดูหนังกันนะ” “อื้อ” . . โชคดีที่รสนิยมดูหนังของเราเหมือนกัน หนังที่เราเลือกดูเป็นหนังแอคชั่นที่กำลังโด่งดังในตอนนี้ ความโรแมนติกในโรงหนังลืมไปได้เลย เพราะเราทั้งสองตั้งใจดูหนังตาแทบไม่กระพริบจนจบ ป็อปคอร์นหรือแม้แต่น้ำที่ซื้อเข้าไปไม่ถูกแตะเลยแม้แต่ครั้งเดียว “หนังสนุกมากกกกก ไม่ผิดหวังเลย” นับดาวดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด เพราะหลังจากออกมาจากโรงเธอก็แต่พูดถึงหนังไม่หยุดแถมยังยิ้มร่าเริงอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน “ทำรายได้หลายพันล้านนี่นะ” “อื้อ สมควรทำรายได้ซักหมื่นล้าน” “อวยเก่ง” “ก็ของเขาดี” นับดาวตอบพลางถ่ายรูปตั๋วหนังในมืออยู่หลายรูปหลายมุม ก่อนจะเลือกรูปที่คิดว่าสวยที่สุดมารูปหนึ่งแล้วอัพลงอินสตราแกรมของตัวเอง “เธอชอบหนังแอคชั่น ชอบกินอาหารญี่ปุ่น และชอบน้ำเปล่าที่สุดในบรรดาเครื่องดื่ม” “หืม?” “เปล่า ฉันแค่อยากจำไว้ว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง” ผมหันไปบอกนับดาวที่มองมาด้วยความสงสัย “จะได้เอาใจถูก” “ขับรถไปเลย!” นับดาวดันไหล่ผมเบา ๆ ก่อนจะทำทีเป็นสนใจมือถือของตัวเอง ผมมองใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นอีกครั้งก่อนจะหันกลับมาสนใจท้องถนน ไม่ต้องส่องกระจกผมก็รู้ได้ว่าตัวเองกำลังยิ้มอย่างมีความสุขแค่ไหน เดตแรก จบได้ดีกว่าคิดไว้เยอะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD