การที่เข็มหอมต้องอุ้มท้องและเลี้ยงเด็กเล็กจึงไม่อาจออกไปทำงานนอกบ้านได้ งานที่เคยทำแม้ไม่มั่นคงก็ต้องลาออก ซึ่งถือเป็นการดีเพราะหล่อนไม่ชอบนายจ้างที่ทำหมาหยอกไก่ เกี้ยวพาราสีลูกจ้างสาวๆ ไปทั่ว คนไหนหน้าตาดีก็จะถูกหมายตาแต่ไม่ใช่อันดับต้นๆ คนที่ถูกหมายตาเป็นเบอร์แรกต้องคนที่มีลักษณะดึงดูดทางเพศ แต่งเนื้อแต่งตัวขับเน้นสัดส่วนเจ้านายจะรีบเข้าไปจีบ เรียกว่าจีบคงไม่ผิดเพราะพูดจาแทะโลมเปิดเผย ทว่าผู้หญิงพวกนั้นไม่เล่นด้วย อย่าคิดว่าคนแต่งตัวโป๊แล้วจะสลัดผ้าขึ้นเตียงเพื่อแลกกับเศษเงินหรือของใช้ฟุ่มเฟือยราคาแพงง่ายๆ
ดูอย่างหล่อนสิ เห็นหงิมๆ ติ๋มๆ อย่างนี้ ยังแอบมีผัวตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย
เข็มหอมไม่รู้ว่าไฟรัสบอกเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าของเงินรู้หรือไม่ว่าในแต่ละเดือนนั้นต้องจุนเจือใครบ้าง และไม่รู้ว่าท่านจะทราบไหมว่ามีลูกสะใภ้ตามกฎหมายและหลานปู่แล้วด้วย
“หม่ำอะไรดีคะ” หล่อนถามเจ้าตัวตุ้ยนุ้ยที่อุ้มอยู่ แต่ใช่จะทำตามหากข้าวสวยบอกจริงเพราะหล่อนเตรียมของไว้ทำอาหารล่วงหน้าทุกมื้อของแต่ละวันแล้ว และแม่หนูรู้อยู่คนนี้ก็เลี้ยงง่ายทำอะไรให้กินก็กินหมด กินจนหล่อนแอบภูมิใจว่าตนเองทำอาหารอร่อย ทั้งที่อาหารของเด็กนั้นแทบไม่ต้องปรุงรสเพิ่มแต่อย่างใด
“นั่งรอมามี๊ตรงนี้นะคะ เดี๋ยวมามี๊ทำอาหารเช้าให้” หล่อนวางข้าวสวยบนพื้นที่ปูพรมทั่วห้องแล้วหยิบของเล่นมาส่งให้ แต่หนูน้อยส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นมาเกาะขา
“ไปหม่ำ ไปหม่ำ”
“จ้า แม่รู้ว่าหิว รอแป๊บเดียว นั่งรอนะคะ” หล่อนบอกแต่หนูน้อยส่ายหน้า แล้วเดินเตาะแตะนำไปในครัว เข็มหอมยิ้มเอ็นดูแล้วเดินตามไปหยิบข้าวต้มเปล่าที่ต้มไว้ทีละมากๆ แล้วค่อยนำมาแบ่งอุ่นทีละมื้อพร้อมกับใส่เนื้อสัตว์สลับวนเวียนกันไปไม่ให้น่าเบื่อและได้สารอาหารครบถ้วนสำหรับเด็กตามวัย หล่อนไม่มีที่ปรึกษาในการเลี้ยงเด็กเล็ก
เพราะนี่คือการมีผัวหลบๆ และลูกซ่อนๆ
จนป่านนี้ทางครอบครัวของหล่อนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เข็มหอมใช้วิธีการค้นหาและอ่านวิธีการเลี้ยงและพัฒนาการของเด็กจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นแหล่งรวมความรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรงทดแทนการขอคำแนะนำจากคนรู้จัก ที่จะนำมาซึ่งคำถามมากมายที่หล่อนกระดากใจจะพูดความจริง
เข็มหอมคิดว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนจะยอมปริปากว่าตนเองถูกหลอก ถูกฟันแล้วทิ้ง ซ้ำยังทิ้งลูกไว้ในท้องอีกคน แต่หากกล้าบอกกล่าวก็คงมีคำถามตามมาว่าทนรับภาระเช่นนี้ได้อย่างไร ทำไมไม่เอาออก ส่วนคนโตนั่นก็เอาไปส่งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าสิ ไหนๆ พ่อแม่มันก็ไม่เอาแล้วนี่ ซึ่งหล่อนทำไม่ได้แน่นอน
เพราะรักไปแล้ว รักทั้งเด็กและพ่อเด็กไม่เสื่อมคลาย
ระหว่างรอข้าวต้มเดือด หล่อนก็เตรียมเนื้อสัตว์ วันนี้เป็นเนื้อปลาสับผสมแครอทต้มสุกและฟักทองที่หั่นชิ้นเล็กๆ ให้เหงือกแข็งๆ ของข้าวสวยได้ทำงานในการบดเคี้ยว หล่อนก้มลงมองหนูน้อยที่กอดขารออยู่หน้าเตาไม่ยอมไปไหนแล้วยิ้มเอ็นดู ขยี้ผมสีอ่อนที่นุ่มแวววาวเหมือนเส้นไหม
“ทำไมผมเหมือนลูกฝรั่งหัวแดง แดดดี๊หนูผมดำสนิท คมเข้มเป็นเจ้าชายแขกเบอร์นั้น” เข็มหอมสะกิดใจจึงเพ่งมองหน้า ดวงตาแสนสวยที่มองจนชาชินก็เป็นสีอ่อน จะเขียวก็ไม่ใช่เทาก็ไม่เชิงบางคราออกฟ้าๆ หรือเรียกให้ถูกคือดวงตาข้าวสวยเปลี่ยนสีได้ตามแสงสะท้อน ไม่เหมือนพ่อเลยสักนิด
“จ๋าๆ ลูก” เข็มหอมสะดุ้งรีบขานรับเพราะเด็กน้อยเอาหัวโขกขาแล้วร้องหม่ำๆ เสียงดัง ก่อนจะหันไปทางหม้อข้าวต้มที่เดือดพล่านส่งกลิ่นหอมหวนอันเป็นต้นเหตุให้หนูน้อยส่งเสียงโหยหิว เข็มหอมให้ทัพพีคนข้าวให้เดือดทั่วหม้ออีกครั้งแล้วปิดไฟทันที
“โอเค เดี๋ยวก็ได้หม่ำแล้ว ข้าวสวยไปนั่งรอมามี๊ตรงโน้นก่อน เดี๋ยวมามี๊ตักข้าวไปให้ เดินระวังนะคะ เก่งค่ะ เก่งมาก” หล่อนเอ่ยชมเมื่อหนูน้อยเดินช้าๆ ไปนั่งรอตรงที่บอกให้นั่งรอทีแรก แล้วหันมาตักข้าวใส่ชามเตรียมป้อน
แต่ระหว่างหมุนตัวก็รู้สึกปวดจุกที่ท้อง พร้อมผนังท้องขยับไปมา
“ข้าวตอกอย่าเตะแม่ลูก แม่เจ็บนะครับ” หล่อนลูบท้อง หายใจลึกๆ พลางบอกกับลูกในครรภ์ที่รู้ว่าเป็นเพศชายและแข็งแรงดี เด็กน้อยมีพัฒนาการตามวัยที่ดีมากจนหมอที่หล่อนฝากท้องด้วยเอ่ยชม เพราะนั่นหมายถึงคนเป็นแม่ดูแลตัวเองดีสมควรได้รับคำชมเชย