บทที่๖ กาฝาก
เข็มหอมรู้สึกเหมือนกำลังจะเผชิญกับพายุที่เริ่มก่อตัวรอวันพัดถล่ม หลังจากฟารุสต้องรีบเดินทางกลับประเทศอย่างเร่งด่วนเพราะภรรยาคนปัจจุบันเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์บาดเจ็บสาหัส จากที่คิดจะอยู่ช่วยดูแลเด็กและฟื้นความทรงจำให้ไฟรัสอีกสักพัก กลายเป็นต้องรีบเดินทางกลับโดยทันที โชคดีที่นิกรสามารถหาตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินที่เร็วที่สุดให้ได้แม้จะต้องบินไปต่อเครื่องอีกประเทศก็ตาม นิกรจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและมารับฟารุสไปส่งที่สนามบินด้วยตนเอง
“ชายชู้” ไฟรัสง้างหมัดเป็นการต้อนรับแขกผู้มาเยือน เมื่อเขาเป็นคนเปิดประตูรับด้วยตนเอง
“เฮ้ย! อย่าครับ” นิกรยกมือกัน พลางถอย ตาก็สอดส่ายเข้าไปด้านในและดีใจที่เห็นเจ้าของห้องสาวสวยรีบเดินมาดึงสามีตนเองกลับไป
“นายแขกนี่คุณนิกรไง เขาเป็นล่ามเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างให้พ่อนายนะ”
“สวัสดีครับคุณนายกิลานิ” นิกรทักทายยิ้มแย้ม แต่ทำให้เจ้าของนามสกุลหันกลับมามองเขาตาขุ่น ก่อนหันไปพูดกับคุณนายกิลานิ
“ทำไมต้องยิ้มกับผิง ทำไมทำท่าเหมือนสนิทสนมกันแบบนี้”
ผิง? นิกรเก็บความสงสัยในคำเรียกนี้ไว้ในใจ
“เอ้า! ก็เขาเคยมาหลายครั้งแล้ว”
“มาทำไมหลายครั้ง” ไฟรัสจ้องตาคาดคั้นจนเข็มหอมอยากทิ่มให้ตาบอดเสียเหลือเกิน ก่อนถอนหายใจ
“ถามแปลกๆ ก็มาธุระสิ เรื่องเกี่ยวกับนายทั้งนั้นรู้ไว้ด้วย หลีกทาง” หล่อนตัดบทด้วยการดันเขาออกให้พ้นประตู แต่ไฟรัสขืนตัวไว้เข็มหอมจึงต้องออกแรงมากขึ้น ก่อนหันไปเชื้อเชิญนิกร
“นั่งรอก่อนนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมขนกระเป๋าลงไปรอที่รถดีกว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวไปพร้อมกัน คือเราจะไปส่งคุณพ่อด้วย นั่งก่อนค่ะ” เข็มหอมคะยั้นคะยอแล้วมองไฟรัสที่ยังยืนปักหลักไม่ไปไหน
“นายแขกเอาน้ำมารับแขกหน่อยสิ”
“ทำไมต้องใช้ผม” ไฟรัสถามน้ำเสียงกระเง้ากระงอดแต่ทำตามแต่โดยดีจนเข็มหอมต้องหันไปยิ้มกับนิกรที่มองอยู่ตลอดเวลา ก่อนนิกรจะถามเบาๆ
“ทำไมเขาเรียกคุณเข็มว่าผิงละครับ” นิกรรู้ทุกอย่างเท่าที่เข็มหอมบอกฟารุส และรู้ว่าผิงคือใครจึงแปลกใจพอสมควร
“เขารักผิงมากจึงจำแต่ชื่อนี้ ปล่อยไปสักพักเน้อ” หล่อนพูดเหมือนปลอบใจตัวเองมากกว่า และท่าทางที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เมื่อพูดกระซิบกระซาบนั้นทำให้คนที่กำลังนำน้ำมาให้แขกถึงกับหน้าร้อน รีบวางแก้วน้ำลงกระแทกโต๊ะอย่างแรง
“ผิงไม่ไปเตรียมตัวหรือ เราจะไปส่งพ่อกันทุกคน พ่อ แม่ ลูก ไม่ใช่หรือ” ไฟรัสพูดเสียงเข้ม มองตาขุ่น และยิ่งไม่พอใจมากขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าทั้งคู่ ก่อนที่เข็มหอมจะลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนอน ไฟรัสมองนิกรเหมือนเป็นศัตรูอีกครั้งแล้วรีบเดินตามเข็มหอมไป สวนกับฟารุสที่ออกมาจากห้องพร้อมกระเป๋าเดินทาง
“เดี๋ยวผมหิ้วให้ พ่อวางไว้ตรงนี้ก่อน” ไฟรัสบอก
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเอาไปเก็บในรถก่อน” นิกรบอกพร้อมเดินมา
ไฟรัสหันไปมองขัดหูขัดตาไปหมดแต่ไม่ได้พูดอะไรแค่รีบเดินไปที่ห้อง พอเขาเคาะประตูให้สัญญาณคนข้างในก็เปิดออกมาพอดี ไฟรัสรีบส่งมือไปรับเจ้าตัวแบเบาะมาอุ้ม ปล่อยให้เข็มหอมจูงเด็กหญิงแก้มยุ้ยเดินตามมา
“ที่จริงไม่ต้องลำบากก็ได้นิกรไปส่งพ่อแล้ว” ฟารุสเอ่ยอย่างเกรงใจ แม้ตื้นตันที่ลูกบอกจะไปส่งที่สนามบิน นั่นเพราะไฟรัสลืมเรื่องในอดีตจึงลืมไปว่าไม่ชอบครอบครัวใหม่ของท่าน ไฟรัสคิดว่าภรรยาใหม่ของท่านเป็นต้นเหตุทำให้พ่อกับแม่ต้องเลิกกัน
โดยลูกไม่รู้ว่าแม่ทำอย่างไรกับความรักและภักดีที่พ่อมอบให้ แม่ทรยศ หักหลัง ย่ำยีศักดิ์ศรีของความเป็นสามีจนพ่อต้องตัดสินใจเดินจากไปเอง และเมื่อพ่อตัดสินใจแต่งงานใหม่อย่างเปิดเผยก็ถูกประณามทันทีว่าเป็นคนทรยศ
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากออกไปไหนมาไหนกับผิงบ้าง ขากลับผิงบอกว่าจะแวะซื้อของให้ลูกด้วย”
“ค่ะ ไม่ลำบากเลย เรามีรถเข็นสำหรับข้าวสวยแล้วมีกระเป๋าหน้าท้องสำหรับข้าวตอกแล้ว ขนาดเอาลูกสองคนไปช้อปคนเดียวหนูก็ทำมาแล้ว ไม่ลำบากจริงๆ ค่ะ” เข็มหอมยืนยันใบหน้ายิ้มแย้ม
“ต่อไปเราจะไปกันเป็นครอบครัว ผิงไม่ต้องลำบากคนเดียวอีกแล้วนะครับ” ไฟรัสพูดยิ้มให้หล่อนแต่เห็นแววสะท้อนบางอย่างในดวงตาที่หล่อนพยายามจะบิดเบือนด้วยการเมินแล้วเดินหนี
“ไปเถอะ นิกรลงไปรอที่รถแล้ว” ฟารุสเอ่ยชวน เมื่อมาถึงประตูข้าวสวยก็วิ่งมาจูงมือปู่แล้วยิ้มหวานให้ ฟารุสจึงจูงไปจนถึงรถ