ถงอวี้ออกจากเรือนมาด้วยชุดทะมัดทะแมง การขึ้นเขาไม่สมควรใส่ชุดรุ่มร่ามนางจึงสั่งให้อาหยวนจัดการเย็บชุดแบบนี้ให้ตนเองสองสามชุด เพราะนอกจากใส่ขึ้นเขาเพื่อเก็บฟืน หาของป่ากับอาหยวนแล้ว นางยังสวมชุดเช่นนี้ในการเกษตรขนาดย่อมในจวนหลังเก่า
ช่วงเช้าอากาศไม่ร้อนนักจึงทำให้นางรีบออกเดินทางพร้อม
อาหยวน ทั้งสองแบกตะกร้าสานคนใบขึ้นหลังหวังว่าวันนี้คงได้ฟืนกันมาเต็มตะกร้า หม่าหย่งเต๋อที่วนเวียนอยู่รอบกายถงอวี้พยายามหาคำตอบว่าเพราะเหตุใดวิญญาณของเขาถึงไม่กลับจวนหรืออยู่ใกล้ร่างของตน ปกติเท่าที่เขาเคยได้ยินมาจิตสุดท้ายก่อนตายจะต้องไปยังที่ตนระลึกถึง หรือว่า...ไม่จริง! เขาไม่เคยคิดถึงนาง
เขาเคยหลับตานึกถึงจวนนั้นแต่ก็มิอาจไปได้ เขาท้อคงต้องรออาศัยถงอวี้พาไป ยิ่งนางกล่าวว่าจะไปเยือนจวนนั้นเขายิ่งมีความหวังได้แต่นั่งนับวันว่านางจะไปเมื่อใด
“ข้าล่ะสงสารเจ้าเหลือเกิน ถงอวี้เอ๊ย” ซุ่ยกวนเดินมายืนหน้าลาน แววตาที่ทอดมองหลานสาวอย่างเวทนาสงสาร “สามีเจ้าจะรู้ไหมว่าเจ้าลำบากถึงเพียงนี้ ส่วนพ่อเจ้าน่ะรึ! ข้าหลงดูคนผิดไปจริงๆ” เขากล่าวจบก็เหลียวกายเดินเข้าด้านในปล่อยให้หม่าหย่งเต๋อทอดมองตามแผนหลังที่ค่อยๆ ลับสายตาไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ความละอายใจค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจนเขารู้สึกได้ชัดเจน
ราวสามชั่วยามถงอวี้และอาหยวนได้ลงจากเขาพร้อมกับไม้ฟืนจำนวนหนึ่งบนหลังที่แบกมาในตะกร้า ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลอยู่เต็มกรอบหน้าทว่าดวงตายังเปล่งประกายสดใสราวกับเรื่องที่ทำนั้นหาได้เหน็ดเหนื่อยแต่กลับสนุกยิ่ง
ถงอวี้วางตะกร้าที่แบกมาและทอดตัวลงนอนแผ่หลาบนแคร่อย่างเหน็ดเหนื่อยนางไม่สนใจกิริยาว่าจะไม่สำรวมอีกต่อไป
“เหนื่อยเสียจริง อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าออกแรง”
“บ่าวล่ะสู้คุณหนูไม่ได้เลย ไหนจะแบกฟืนแล้วยังเก็บผลไม้กลับมาอีก” พอพูดถึงผลไม้ ถงอวี้ดีดตัวเอื้อมมือหยิบสาลี่มาเช็ดลวกๆ ใช้ฟันกัดกินพร้อมกับพูดเสียงใส
“ข้าบอกพี่แล้วไงเล่า คนเราต้องแข็งแรง ไปเถอะ...เก็บฟืนเข้าข้างในกัน”
“เจ้าค่ะ ดีนะเจ้าคะที่จวนเราไม่ปลูกสาลี่ คุณหนูกินเสียอร่อยเชียว” อาหยวนเอ่ยอย่างเอ็นดู
“ทำไม? สาลี่ [1] ไม่ดีตรงไหน?”
“ก็...” นางยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ ถงอวี้รีบแทรกทันที
“ไร้สาระน่า ไม่พานพบจะกลัวการจากลาได้อย่างไร” อาหยวนได้แต่เม้มปากยอมรับนายสาวที่ไม่เคยคิดลึกซึ้งสิ่งใดเลย ด้านหม่าหย่งเต๋อที่มาปรากฏกายตรงหน้านางอดที่จะตริตรองคำพูดนี้ไม่ได้
‘เจ้าไม่กังวลเรื่องลาจาก?’
[1] สาลี่ ภาษาจีน พ้องเสียงกับคำว่า **ที่แปลว่า ออกห่างจากกัน