“อืม~ ฮ้าว~” กี่โมงแล้ววะ เมื่อยตัวฉิบ ปวดหลังปวดเอวไปหมด เมื่อคืนไม่น่าเมาหนักเลยไอ้คริช
หมับ~
“หือ?” ผมค่อย ๆ ดึงสติและหัวที่หนักอึ้งจากอาการแฮงค์เหล้าให้มันทำงาน ห้องมืดสนิทจนไม่รู้เวลาข้างนอกแต่ผมสัมผัสได้ว่าผมนอนกอดใครบางคนอยู่ ตัวโคตรนุ่ม ผิวโคตรเนียน ที่สำคัญ...หอม
กูลากผู้หญิงมานอนกอดเหรอวะ หวังว่าเมื่อคืนผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้พยายามปลุกน้องชายผมตอนเมาหรอกนะครับไม่งั้นเธอรู้ความจริงแน่ กิติศัพท์เรื่องบนเตียงของผมยิ่งเลื่องชื่อ ถ้าเธอเอาไปพูดว่าผมไม่ขันตอนเมาผมคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ตัวหอมจังวะ” ผมลูบผิวเธอคนนั้นแล้วก็ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ อยากเห็นหน้าแล้วครับ มากกว่านั้นคืออยากปลุกเธอมาคุยว่าเมื่อคืนพยายามทำอะไรผมรึเปล่าถ้าเธอรู้เรื่องหวังว่าเงินคงจะปิดปากเธอได้
ผมเอื้อมมือไปกดสวิตซ์ไฟที่หัวเตียงแล้วพอหันมามองคนที่นอนข้าง ๆ ผมก็...แทบช็อก
“เฮ๊ย!” นับเงิน...นับเงินมานอนกับผมได้ยังไง
“อื้อ~ อ๊ะ!” เธอครางออกมาเหมือนอารมณ์เสียที่โดนรบกวนเวลานอนแล้วก็ขยับร่างกายพร้อมอุทานและขมวดคิ้วเบา ๆ
“นับเงิน ตื่น เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ผมเขย่าแขนเธอเพื่อปลุก แม่งเอ๊ยอุตส่าห์จะไม่ยุ่งกับเธอ แต่ผมไม่ได้ยุ่งแน่นอนเพราะเมื่อคืนผมเมา ผมจำได้แค่ว่าผมพยุงตัวเองมาที่รถหลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
“อื้อ~” นับเงินร้องออกมาแล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอกระพริบตาช้า ๆ เพื่อปรับสายตาแสงสว่างจนลืมตาได้แล้วก็มองหน้าผม
"คุณ! กรี๊ด!!! คุณข่มขืนฉัน!" พอเธอเห็นผมชัด ๆ ก็ร้องโวยวายพร้อมตะครุบผ้าห่มเอาไว้กับตัวแน่น
“อะไรนะ!” พอเธอตะโกนแบบนั้นผมก็เลยถามด้วยความงงปนตกใจ
“คุณ! คุณข่มขืนฉัน!” นับเงินตะโกนใส่หน้าผมแถมยังชี้หน้าผมซะด้วย
"ฉันไปทำเธอตอนไหน?" พอได้ยินชัด ๆ อีกครั้งผมก็เลยถามเธอออกไป หึ! ข่มขืนเหรอ? ตลกว่ะ
"ตอนไหนเหรอ ก็เมื่อคืนไงไอ้คนทุเรศ!" นับเงินขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วก็ตะโกนใส่หน้าผม หน้าเธอดูโกรธจัด แต่มันก็ทำให้ผมหยุดชะงักไปแล้วก็ใช้ความคิดไปพักหนึ่ง
"เมื่อคืนฉันเมาเละ อย่ามาใช้มุกตื้น ๆ จับฉัน มันไม่สำเร็จ" ผมแค่นยิ้มตอบเธอออกไป เพราะผมรู้จักตัวเองดีว่ามันเป็นยังไงเวลาเมาเพราะฉะนั้นไม่มีทางที่ผมจะข่มขืนเธอแน่นอน คงเห็นผมเมาหนักเลยคิดจะใช้แผนตื้น ๆ มาจับผมสินะ โคตรเป็นแผนที่ไร้ยางอายฉิบหาย
"จับบ้าอะไรฮะ! ฉันโดนข่มขืนฉันเสียหายนะไอ้ชั่ว!" นับเงินดูจะอึ้งไป แล้วก็ตะโกนด่าผมเสียงดัง
"ก็บอกว่าไม่ได้ทำไงวะ" แค่ปฏิกิริยาตอนตื่นก็ไม่เหมือนคนโดนข่มขืนแล้ว ไม่เห็นจะร้องไห้ฟูมฟายเลยหรือถ้าผมทำจริงคนเคย ๆ ไม่ได้บริสุทธิ์อย่างเธอยังไงก็คงบีบน้ำตาไม่ได้อยู่แล้วล่ะ
"เมาเหมือนหมาแล้วจำไม่ได้ว่าข่มขืนผู้หญิงเหรอ!" หน้าเธอตอนนี้เหมือนคนที่กำลังเลือดขึ้นหน้า เออถ้าผมเมาเหมือนหมาแล้วผมจะเอาปัญญาไหนไปข่มขืนเธอวะครับ มุกตื้นแล้วตื้นอีก
"ก็บอกว่าไม่ได้ทำไงวะ!" ผมตอกกลับเพราะขี้เกียจเถียงต่อ อยากได้อะไรถึงต้องทำลายศักดิ์ศรีตัวเองขนาดนี้กัน
"ก็บอกว่าทำไงวะ!!" นับเงินตะโกนลั่นใส่หน้าผมกลับบ้างจนผมชักจะรำคาญเข้าแล้ว
“จะเอาเท่าไหร่” ผมมองหน้าเธอแล้วก็ถามเสียงนิ่ง นับเงินแม่งจะทำให้ผมผิดหวังในตัวเธอไปถึงไหนวะ!
“...อะไรนะ?”
“ฉันถามว่าจะเอาเท่าไหร่ อยากได้เท่าไหร่ก็พูดมา”
“...เลว” นับเงินอึ้งไปสักพักก่อนที่เธอจะด่าผมออกมา เสียงของเธอมันเบาแต่โคตรกระด้าง
“อยากได้เท่าไหร่ก็บอกแล้วกัน อาบน้ำก่อนเดี๋ยวมาเซ็นเช็คให้” ผมบอกเท่านั้นก็ลุกเดินโทง ๆ แกว่งไอ้นกเขาลูกรักที่มันมาช่วยชีวิตผมไม่ให้โดนผู้หญิงจับทำผัวได้เป็นครั้งที่สองเข้าห้องน้ำทันที ไม่ได้อายเธอเลยสักนิด กล้าจับผมแก้ผ้าขนาดนั้นทำไมผมต้องอาย
ผมใช้เวลาในห้องน้ำเกือบ 20 นาที เพื่อให้จิตใจที่มันกำลังฟุ้งซ่านหงุดหงิดผู้หญิงคนนั้นสงบขึ้นแต่ก็ไม่สงบเท่าไหร่ แม่งเอ๊ย! ทำไมนับเงินต้องทำแบบนี้วะ!
พอผมออกมาจากห้องแต่งตัวหลังจากที่เอาน้ำเย็นรดใจจนใจเย็นลงแล้วนิดหน่อยตั้งใจจะออกมาแล้วคุยกับเธอดี ๆ ผมอยากให้เธอใช้ชีวิตให้มีคุณค่ามากกว่านี้แต่พอออกมานอกห้องก็ไม่เห็นเงาของเธอแล้ว เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายก็หายไปหมด
“เฮ้อ! จะเรียกร้องความสนใจรึไง”
ติ๊ง ต่อง!
เสียงออดดังขึ้นหรือจะเป็นนับเงินที่ออกไปข้างนอกแล้วเข้ามาไม่ได้ พอนึกได้แบบนั้นผมก็เลยรีบเดินออกไปเปิดประตูจะได้คุยกันให้รู้เรื่องสักที
แอด~
“อ้าว! ไอ้ตี๋”
“หวัดดีเฮีย ทำไมทำหน้าแบบนั้นคิดว่าใครมา นัดสาวไว้เหรอ” ไอ้เควิน ไอ้น้องชายสุดรักสุดสวาทของผมเองครับที่เป็นคนมา แสดงว่านับเงินคงกลับไปแล้วสินะ
“เปล่า มาทำไมแต่เช้าวะ” ผมถามมันแล้วก็เดินไปหยิบเบียร์มาดื่ม อารมณ์ไม่ค่อยปกติต้องเอาเบียร์หรือเหล้าเข้าปาก
“แต่เช้าส้นตีนอะไรเฮียนี่มันเย็นแล้ว เมาหนักเหรอเมื่อคืน” มันเดินเข้ามานั่งที่โซฟาแล้วก็ถามผมขึ้น นี่ผมนอนจนเย็นเลยเหรอ ท่าทางคงจะเมาหนักมากจริง ๆ นั่นแหละ
“อืม แล้วมาทำไมขนมไล่ออกจากห้องเหรอ” ผมเดินมานั่งโซฟาตรงข้ามมันแล้วก็ถามขึ้น ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นไอ้เควินก็ทำหน้าไม่พอใจใส่ผม
ไปว่ามันโดนขนมไล่ไม่ได้นะครับ ไอ้นี่มันมีปมเคยโดนน้องสะใภ้ผมสั่งให้ขนข้าวของออกจากห้องจนมันต้องลากกระเป๋าซมซานมาหาผมตั้งแต่ไอ้โต้งยังไม่ขันด้วยซ้ำ หลังจากนั้นมามันก็หลอนคำนี้ไปเลย
“ขนมไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อนหนึ่งอาทิตย์ ไม่อยากนอนคอนโดคนเดียว” มันตอบผมมาแบบไม่สบอารมณ์ ไอ้เควินมันคนติดเมียครับ นี่คงจะมานอนกับผมเพราะกลัวนอนไม่หลับแน่นอน ไอ้แมวน้อยวินเอ๊ย
“ทำไมไม่ไปด้วยล่ะ” มันคนติดเมีย ไปทำงานต่างประเทศมันยังบังคับให้ขนมไปด้วยเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะยอมให้น้องไปเที่ยวต่างประเทศนานเป็นอาทิตย์ได้
“ขนมไม่ยอมให้ไปด้วย บอกว่าอยากเที่ยวกับเพื่อน โว๊ย! เลิกถามสักทีเฮีย ไม่เข้าใจหัวอกคนคิดถึงเมียรึไงวะ!” มันโวยวายพร้อมกับเอามือขยี้หัวตัวเองแรง ๆ ท่าทางจะเป็นเอามาก แต่ก็ดีแล้วที่มันรู้จักรักใครเป็น เห็นมันมีครอบครัวก็ดีใจแทนแม่กับป๊า อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีลูกชายมั่วสำส่อนถึงสองคนอีกต่อไป
“เลยต้องมาเป็นเห็บนอนในห้องกู” ผมถามมันก็ตาขวางใส่
“สันดานหมาพึ่งพาไม่ได้ไอ้สัส” มันพูดแล้วก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าไปในห้องนอน ซึ่งไม่ว่าผมหรือมันจะพ่นคำหยาบใส่กันแค่ไหนก็ไม่ได้โกรธกันจริง ๆ หรอก มันรู้สึกดีกว่าการคุยกันแบบผมกับเฮียนาน ๆ ซะอีก
“เชี่ย!” ไอ้เควินเข้าไปได้ไม่นานมันก็อุทานขึ้นมาเสียงดังจนผมต้องเดินเข้าไปดูว่ามันเป็นอะไร
“มีไรวะ” ผมถามมันทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง ส่วนไอ้เควินมันก็ยืนมองเตียงแล้วก็หันมามองผมหน้าตาเหวอ
“เฮีย...เมื่อคืนฟัดเด็ก 14 มาเหรอวะ?” ไอ้เควินถามแล้วก็ทำหน้าอึ้ง อะไรของมันแค่เตียงมันยับยู่ยี่เอง ผมออกมาจากห้องน้ำก็ไปเปิดประตูให้มันเลยยังไม่มีเวลาเก็บก็แค่นั้น
“อะไรวะแค่เตียงมันยับ” ผมพูดแล้วก็ส่ายหน้า
“แค่เตียงยับห่าไรเลือดเต็มที่นอน แดงเดือดมาก ไปเอาใครมาเปิดซิงวะเฮีย” ไอ้เควินพูดด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อแล้วก็ดึงผ้าห่มออกไปกองที่พื้นข้างเตียงทำให้ผมเห็นหยดเลือดเป็นหย่อม ๆ เปื้อนอยู่ที่ผ้าปูที่นอนสีเทาของผม
“จะเอาใครวะ เมื่อคืนกูเมาเละ”
“แล้วเลือดนี่มันส้นตีนอะไรวะเฮีย ริดสีดวงเหรอ?”
“กูปกติไอ้วิน เมื่อคืนมีผู้หญิงมานอน ยัยนั่นคงเมนมาพอดีมั้ง” ผมตอบกลับมันไป พยายามคิดแบบนั้น ซึ่งมันก็คงต้องเป็นแบบนั้นนั่นแหละครับ จากที่ผมเห็นเธอเถียงกับป้าของเธอมันก็บอกอยู่แล้วว่าเธอไม่ได้บริสุทธิ์และถึงแม้ว่าที่เวลาแข็งมันจะใหญ่มากแต่มันก็ไม่ขันเวลาเมา ผมไม่มีปัญญาไปทะลวงเธอจนเลือดสาดหรอก
“ใครเฮีย ปกติเวลาเมาไม่ลากใครมาห้องนี่” ไอ้เควินหูผึ่งทันที
“ไม่เสือก” ผมตอบกลับมันแค่นั้นก็หันหลังกลับ วันนี้ตื่นมาทำไมมันมีแต่เรื่องของนับเงินให้ผมคิดไม่หยุดกันนะ
“เอ้าไอ้สัส เผื่อเขาจะมาเป็นพี่สะใภ้กู” ไอ้เควินพูดไล่หลังขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกวนตีนทำผมต้องหันไปมองหน้ามัน
“ไอ้วินอย่ากวนส้นตีนกู”
“จริง ๆ นะเฮีย ไอ้จ้อนนกเขาน้อยของเฮียมันอาจจะเจอเจ้าของตัวจริงแล้วมันเลยขันได้ทุกเวลาก็ได้”
“เรียกพญามังกรของกูดี ๆ ไอ้เควิน” ผมชี้หน้ามันด้วยความไม่สบอารมณ์ แม่งเรียกพญามังกรของกูว่าไอ้จ้อนนกเขาน้อย
“เออ ๆ ลูกชายเฮียมันอาจจะตื่นแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้วะ”
“มันหลับตอนเมามาตั้งแต่กูแดกเหล้าเอาหญิงเป็นมานานจนกูอายุ 26 เนี่ยนะ” ผมตอบกลับไปด้วยความรำคาญไอ้เควิน เลิกพูดเรื่องมังกรกูสักทีเถอะ มันเป็นปมในใจมึงก็รู้
“ไม่รู้สึกว่าผ่านสมรภูมิมาเลยเหรอเฮีย”
“เวลามึงมาราธอนมึงรู้สึกยังไง” ผมไม่ตอบแต่เลือกที่จะถามกลับ เผื่อจะมีอะไรในร่างกายผมที่มันพอจะยืนยันได้ว่าผมทำอะไรนับเงินจริง ๆ
“ก็ปวดเอวนิดหน่อย ถ้าซอยเยอะ ๆ” มันตอบผมแล้วก็ยักคิ้วข้างหนึ่งใส่
“เหอะ! ไอ้กระจอกกูไม่เคยปวดเอวเพราะซอยเยอะ” ผมบอกมันแล้วก็ทำหน้าเหนือกว่า ไม่มีปฏิกิริยาอะไรในร่างกายที่บอกว่าผมไปทำอะไรผู้หญิงมา หรือจะเอาตามตรงก็คือผมไม่เคยเหนื่อยล้าเลยสักครั้ง เพราะฉะนั้นตัดการพิสูจน์ร่างกายของตัวเองไปได้เลยพูดจบผมก็หันหลังจะเดินออกมาเพราะรู้ว่ามันต้องสบถคำหยาบใส่หน้าผมแน่ ๆ
“ไอ้สัส!” ได้ยินไหมครับมันด่าผมแล้วนั่น ไอ้น้องบังเกิดเกล้า ไอ้ฉิบหายเควิน
...เลือดเหรอ?
พอเห็นเลือดบนที่นอนแล้วผมก็เริ่มคิดหนัก แต่มันจะเป็นไปได้เหรอวะที่อยู่ ๆ นกเขาของผมก็ขันตอนเมาขึ้นมา มันไม่เคยตื่นตอนเมาเลยนะเว๊ย!
แล้วนับเงินยังบริสุทธิ์เหรอ?
ผมมีอะไรกับนับเงินจริงๆ เหรอ??
นี่...นกเขากูขันตอนเมาได้จริง ๆ เหรอวะ???