ตอนที่ 2

1053 Words
            ไวทย์ตวัดสายตาเครียดๆ มองปูรณ์ หนุ่มใหญ่หน้าหล่อคมเข้มและรวยเป็นอันดับ 1 ของอำเภอ เขาลืมไปว่าในห้องคาราโอเกะนี้ คนด้านนอกมองไม่เห็นคนด้านใน แต่คนด้านในมองเห็นคนด้านนอกตลอด และ 2 พี่น้องคงเห็นเขาก้อร่อก้อติกกับเจ๊แหม่มหมดแล้ว             ปูรณ์ส่งรอยยิ้มเย้าก่อนจะหันไปถามญาติผู้น้อง “หรือว่าเราจะไปกินหญ้าอ่อนของนายไวทย์ดี ว่าไงปัถย์”             ปัถย์หัวเราะร่วน ตามองเพื่อนจับสังเกต “พี่ปูรณ์ถามเจ้าของหญ้าอ่อนก่อนนะ ดูหน้าไอ้หมอมันซิ หน้าแบบนี้มันหวงก้างชัดๆ แหม… ทำมาเป็นกลุ้มที่พี่สาวเอาหญ้าอ่อนมาฝากไว้ ที่แท้เอ็งก็กังวลใจว่าจะกินแบบไหนมากกว่ามั้ง จะเล็มนิดเล็มหน่อย ชิมวันละน้อย เซาะวันละนิด หรือจะกินทีเดียวแบบถอนรากถอนโคนไปเลย”             “พูดมากน่า ข้ายิ่งกลุ้มๆ อยู่”             ไวทย์ทำหน้าเซ็งกระแทกตัวพิงพนักโซฟา คว้าแก้วเปล่าใส่น้ำแข็งแล้วก็เติมเหล้าลงไปก่อนจะกระดกเข้าคอเร็วๆ นั่นคืออาการของคนใช้น้ำเมาดับทุกข์ชัดๆ แต่ที่เขาเป็นอยู่มันทุกข์จริงไหม ทุกข์เพราะสิ่งที่เป็น หรือว่าทุกข์จากการไม่ยอมรับความจริง             “เอ็งจะมากลุ้มทำไมวะ หนูหน่อยเธอก็น่ารักดี และถ้ามันจะเป็นอย่างที่พี่วิวอยากให้เป็น ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่หว่า เอ็งก็ไม่ได้มีผู้หญิงที่ไหนซุกซ่อนอยู่ เมียเป็นตัวเป็นตนก็ไม่มี เมียเก็บเมียเล็กเมียน้อยก็ไม่มี ก็มีแต่ที่นี่ เสียวเสร็จแล้วก็แยกทาง แล้วเอ็งจะกลัวอะไรวะ เป็นหมอวัวได้เมียเป็นว่าที่หมอวัวเหมือนกันก็ดีอยู่แล้ว ประเภทผัวหาบเมียคอน ทำงานส่งเสริมกันจะได้เฮงๆ รวยๆ และเอ็งก็จะได้มีโมเมนต์หวานๆ ในฟาร์มม้า ฟาร์มหมู คอกวัว อูย… บนกองฟางนี่ ข้าอยากสุดๆ”             ไวทย์มองเพื่อนที่ทำท่ากอดตัวเองสั่นสะท้านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะกดเลือกเพลงบนจอมอนิเตอร์ไปด้วย ไม่สนใจว่าเขาจะโกรธมากแค่ไหน ก็แหงล่ะ เขาไม่เคยโกรธปัถย์ได้สักครั้ง เพราะคำหยอกเย้าของเพื่อนนั้นคือรู้ใจ             เขากับปัถย์เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมัธยมจนแยกย้ายกันเมื่อเรียนมหาวิทยาลัย เขาสอบติดสัตวแพทย์ ส่วนปัถย์สอบติดบริหาร แต่ไปๆ มาๆ เขากลับโคจรมาพบกับปัถย์อีกครั้ง เมื่อปัถย์เป็นทายาทของฟาร์มปศุสัตว์ที่เขาดูแลอยู่ รวมทั้งฟาร์มวัวของปูรณ์ด้วย             ความสนิทสนมนั้นไม่แค่แต่ปัถย์กับปูรณ์ แต่เขาสนิทสนมไปถึงพ่อแม่ของทั้งสองคนด้วย เพราะพ่อแม่ของปัถย์รู้จักกับพ่อแม่เขามานานหลายปี แต่ท่านกลับเห็นแย้งกับสิ่งที่พ่อแม่เขาคิด พวกท่านตามใจไม่ว่าลูกจะเลือกเรียนอะไร ผิดกับพ่อแม่ของเขา ท่านไม่พอใจที่เขาเลือกเรียนสัตวแพทย์ ท่านอยากให้เขาเรียนหมอรักษาคนมากกว่า เพราะเรียนหนักพอกัน จบมาทำงานพ่อแม่ก็มีหน้ามีตา แต่เขาไม่ชอบ เขาอยากเป็นหมอรักษาสัตว์ เขาชอบอยู่กับสัตว์ สัตว์ไม่พูดมากให้น่ารำคาญ แล้วก็ไม่นินทาว่าร้ายใครด้วย             แต่ก็นั่นแหละจะมีพ่อแม่ที่ไหนที่จะยินดีเมื่อลูกไม่ยอมสานต่อกิจการโรงแรม 5 ดาวของครอบครัว ซึ่งตรงนี้พ่อกับแม่ของปัถย์ก็ทราบเรื่อง เพราะท่านปรับทุกข์ให้กันฟังเสมอ             แต่พ่อแม่ของปัถย์กลับคิดต่าง ท่านมักเอ่ยชมเขาเสมอว่าเป็นคนหนุ่มไฟแรงมีอุดมการณ์แน่วแน่ ทั้งที่ต้องขัดใจพ่อแม่ เพราะอาชีพที่เขาเลือก เมื่อจบออกมาก็อาจหางานยากเพราะเป็นงานที่กินอุดมการณ์ เงินเดือนไม่ได้สูง เพราะเหตุนี้ท่านจึงรักและเอ็นดูเขาไม่ต่างจากลูกชาย ดังนั้นเมื่อเรียนจบท่านจึงเสนอให้เขามาเป็นสัตวแพทย์ประจำฟาร์มของครอบครัวทันที รวมทั้งยังแนะนำเขาให้กับฟาร์มของปูรณ์อีกด้วย             แต่เขาก็ทำสิ่งขัดใจพ่อแม่มากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากจะเป็นสัตวแพทย์ประจำฟาร์มของปูรณ์กับปัถย์แล้วนั้น เขายังอุทิศตัวให้กับสัตว์ป่าน้อยใหญ่ เพราะอำเภอที่เขาอยู่ยังถือว่ามีป่าไม้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าจึงมีมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งเข้ามาว่ามีสัตว์ป่าบาดเจ็บ หากเขาสะดวกหรืออยู่ใกล้ก็จะรีบไปโดยด่วน เรื่องลำบากไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหนเขาก็ไม่เคยท้อเพราะถือว่านั่นคือสิ่งที่เขาเลือกทางเดินเอง แต่ตอนนี้เรื่องที่สร้างความหนักใจสุดๆ กลับเป็นเรื่องของครอบครัว             เพราะจู่ๆ ‘วิเวียน’ พี่สาวของเขาก็พาลูกติดของสามีมาฝากให้ฝึกงาน โดยบอกว่า ‘หนูหน่อย’ เด็กสาววัย 18 ปีนั้นกำลังจะเข้าเรียนต่อในคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ ทั้งวิเวียนและ ‘พี่โน้ต’ สามีจึงอยากให้ลูกได้เรียนรู้งานจริงๆ ก่อนจะเริ่มเรียน ก็เลยส่งให้มาอยู่กับเขา หวังว่าการทำงานจริงจะทำให้ลูกสาวมีความเข้าใจเนื้อหาที่เรียนมากขึ้น และอาจตอบตัวเองได้ว่าชอบหรือไม่ชอบการเป็นหมอรักษาสัตว์กันแน่ เพราะหากไม่ชอบจะได้เปลี่ยนใจทัน เขาจึงจำใจรับหนูหน่อยมาอยู่ด้วยเพราะเลี่ยงคำขอร้องของวิเวียนไม่ได้             สุดท้ายจึงต้องมานั่งกลุ้มใจอยู่แบบนี้ เพราะหนูหน่อยไม่ใช่เด็กสาวขี้ริ้วหรือเป็นเด็กวัยกำลังโต แต่หนูหน่อยโตเกินตัวโตมากๆ ทั้งโตและมโหฬาร จนเขาแทบจะอดใจไม่ได้หลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังต้องอยู่ใกล้ชิดกับหนูหน่อยทั้งวันทั้งคืน แค่สัปดาห์ที่ผ่านมา สติสตังเขาก็ปั่นป่วนไปหมด จะหลับจะตื่นก็เห็นแต่ริมฝีปากเผยอน้อยๆ เต้าล้นทรวง ความอวบอัด เอิ่ม… น่ากิน น่าลงลิ้นเลียไล้ไปทุกสัดส่วน  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD