ตีห้าของเช้าวันใหม่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังอยู่นอกห้องพัก
ใบหน้าที่ฟุบอยู่บนเตียงนอนฝั่งตรงกันข้ามในลักษณะนั่งกับพื้นค่อยๆ รู้สึกตัวพลางเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ เมื่อจางเพ่ยอันกลายร่างเป็นพยาบาลกะกลางคืนนอนเฝ้าคนเจ็บหลังจากทำหน้าที่เป็นหมอผ่าตัดด้วยสถานการณ์บังคับ
“อันอัน! อยู่ห้องนี้หรือเปล่า! ฉันมาแล้ว!” เสียงของเพื่อนสนิทดังอยู่ด้านนอกได้ยินอย่างชัดเจน
และนั่นทำให้ร่างระหงดีดตัวลุกขึ้นยืนทันที
“เสี่ยวหงมาแล้ว! มาถึงเร็วเหมือนกันแฮะ รวดเร็วทันใจดีจริงๆ เลย” หญิงสาวกล่าวพร้อมมองร่างคนเจ็บจากโลกอดีตยังคงนอนหลับสนิทอยู่เช่นเดิม
“ท่านแม่ทัพยังไม่หายไปแฮะ ป่านนี้ทางนั้นไม่วุ่นวายกันใหญ่แล้วเหรอ” หญิงสาวเอ่ยพึมพำพร้อมเสียงของเพื่อนสนิทดังขึ้นมาอีกครา
“อันอัน!!!” ครานี้เสียงดังกว่าเดิม
“มาแล้ว! มาแล้ว!” หญิงสาวส่งเสียงขานรับรีบก้าวออกจากเตียงเดินตรงไปทางประตูห้อง พร้อมเปิดต้อนรับเพื่อนสนิทของเธอทันใด
ทันทีที่ประตูเปิดออก
“เธอนอนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไรอันอัน ปล่อยให้ฉันเรียกอยู่ได้ตั้งนานสองนาน” แม่เภสัชกรสาวเพื่อนสนิทของจางเพ่ยอัน นามว่าอู๋หง กล่าวพร้อมเดินแทรกกลางเข้ามาภายในห้องพักทันใด
“ดะ... ดะ... เดี๋ยว... สะ... เสี่ยว... เสี่ยวหง” หญิงสาวพูดได้เพียงแค่นั้นก็หยุดลง
เมื่อเพื่อนสาวคนสนิทของเธอเดินตรงไปยังเตียงนอนที่มีร่างใหญ่ของบุรุษจากยุคอดีตนอนเจ็บอยู่ในขณะนี้ ก่อนจะทรุดกายลงนั่งบริเวณช่วงขาท่อนล่างทั้งสอง ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของจางเพ่ยอัน ยืนมองด้วยความตกใจเมื่อเห็นเพื่อนกำลังนั่งทับขาของแม่ทัพใหญ่จากยุคอดีต
“ธะ... เธอนั่งทับอะไรอยู่ไม่เห็นเลยเหรอ” หญิงสาวตัดสินใจถามกลับไป ในขณะที่เพื่อนสาวคนสนิทของเธอขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อถูกถามเช่นนั้น
“ฉันนั่งทับอะไรเหรอ... บนเตียงนี้ไม่เห็นมีอะไรวางไว้เลย ของสำคัญของเธอก็ไม่มี เห็นแต่เตียงเปล่าโล่งๆ” กล่าวพร้อมใช้สายตาสำรวจไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะทำจมูกฟุดฟิดไปมาเมื่อภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ล้างแผล
“เธอได้รับบาดเจ็บอะไรมาเหรออันอัน ฉันได้กลิ่นแอลกอฮอล์ล้างแผลฟุ้งเต็มห้องไปหมดเลย”
ครั้นจางเพ่ยอันได้ยินเพื่อนสนิทของเธอถามกลับมาเช่นนั้น จึงทำให้แน่ใจมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมว่ามีเพียงเธอเท่านั้นเห็นแม่ทัพใหญ่จากยุคอดีตและสามารถแตะต้องสัมผัสได้เพียงผู้เดียว นอกเหนือจากนั้นหามีใครเห็นตัวตนของเขาได้แต่อย่างใด แม้กระทั่งสายน้ำเกลือระโยงระยางพร้อมขวดยาหลายกระปุกและน้ำเกลือที่แขวนอยู่บนราวผ้าอเนกประสงค์ เพื่อนของเธอก็ไม่เห็น ทั้งๆ ที่ทุกอย่างยังตั้งอยู่ข้างเตียงนอนไม่ได้หายไปไหน
“อะ... เออฉันเอามาล้างทำความสะอาดพื้นห้องน่ะ เมื่อวานรู้สึกได้กลิ่นไม่สะอาด แล้วนี่เธอเอาของที่ฉันสั่งมาด้วยหรือเปล่า” หญิงสาวพูดตัดบทพร้อมเข้าประเด็นสิ่งที่ต้องการทันใด
แม่เพื่อนสาวคนสนิทฉีกยิ้มกว้างออกมาโดยพลัน พร้อมยกกระเป๋าผ้าชูขึ้นให้เพื่อนของเธอได้เห็น
“ของที่เธอสั่งอยู่ในนี้หมดแล้ว ยาแก้อักเสบ ฆ่าเชื้อ แก้ปวด แก้ไข้ มีทั้งแบบฉีดและแบบกินรวมไปถึงอุปกรณ์ทำแผลทุกอย่างมีใช้ตลอดทั้งเดือน ทั้งหมดนี้ราคากันเองแค่ห้าพันหยวนเท่านั้น” แม่เพื่อนรักบอกราคามาเสร็จสรรพ
“อะไรนะ! ห้าพันหยวนเลยเหรอ... ทำไมถึงได้แพงแบบนี้!” หญิงสาวโวยวายขึ้นมาทันที
“เอ้า! เธอบอกว่าจะต้องใช้ยาพวกนี้ประมาณหนึ่งถึงสองอาทิตย์มิใช่เหรอ ฉันก็จัดมาให้สองอาทิตย์เลยง่ายดี เพียงพอตามระยะเวลาเหลือดีกว่าขาด ตัวยาพวกนี้ได้รับรองจากศูนย์วิจัยถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ตระกูลฉันเป็นตัวกลางในการจัดจำหน่ายตัวยาทุกชนิดรับรองปลอดภัย ราคาขนาดนี้พิเศษสุดๆ” แม่เพื่อนรักสาธยายจนเสร็จสรรพ
“โอเค! โอเค! ข้อนั้นฉันเชื่อเธออยู่แล้ว ถึงได้โทรหา เอาเป็นว่าผ่อนจ่ายเดือนละห้าร้อยหยวนได้ไหม” หญิงสาวต่อรองการจ่ายทันใด
“โอ๊ย! ทำการค้ากับเธอฉันโคตรขาดทุนเลย” แม่เพื่อนสาวบ่นกระปอดกระแปดออกมา
“เอาแบบนี้แล้วกันค่ายาพวกนี้เธอไม่ต้องจ่าย ฉันล้อเล่นนะ แต่มีข้อแม้ว่าเธอจะต้องไปที่บริษัทของคุณพ่อฉันเพื่อดูฮวงจุ้ย ปรับเปลี่ยนทิศทางให้ร่ำรวยมากยิ่งขึ้นไปอีกและทำนายดวงชะตาปีนี้ของท่านว่าจะเป็นยังไงต่อไป หากไม่ดีจะได้หาทางแก้ไขและป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ” เพื่อนสาวยื่นข้อเสนอให้ทันที
จางเพ่ยอันรีบพยักหน้าขึ้นลงติดๆ กันครั้นได้ยินเช่นนั้น
“โอเค! ค่อยดูสมน้ำสมเนื้อหน่อย ตกลงตามนั้นเดี๋ยวฉันว่างเมื่อไรจะเข้าไปที่บริษัทคุณพ่อของเธอดูตำแหน่งฮวงจุ้ยสำหรับปีนี้ให้ไม่ต้องห่วง” หญิงสาวรับปากเพื่อนสนิท
“อีกนานไหมกว่าจะเข้าไป แม่หมอคนดังอย่างเธอคิวยาวเหยียด บางคนต้องรอเป็นปีกว่าจะถึงแบบนั้นไม่เอานะ”
“เอาน่ะ! เดี๋ยวลัดคิวให้แต่ต้องหลังจากที่ฉันกลับจากออกนอกพื้นที่ก่อนนะ เพราะตอนนี้มาสำรวจสุสานแห่งใหม่และจะต้องพักที่นี่ประมาณหนึ่งอาทิตย์” หญิงสาวตอบเพื่อนสนิทกลับไป
แม่เพื่อนสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น
“ก็ไม่นานนะ! เดี๋ยวฉันจะรีบโทรบอกคุณพ่อให้ท่านรู้ล่วงหน้า ว่าซินแสคนดังจางเพ่ยอัน ลัดคิวเข้าไปพบคุณพ่อที่บริษัท ท่านจะได้เตรียมการต้อนรับเธอเอาไว้ล่วงหน้า” เพื่อนสนิทบอกด้วยความดีใจท่ามกลางสายตาของหญิงสาว
“ไม่เห็นต้องดีใจถึงขนาดนี้เลย ฉันก็แค่ดูหมอและจัดวางฮวงจุ้ยธรรมดาเหมือนซินแสคนอื่น อันที่จริงให้คนอื่นเข้าไปดูก็ได้ไม่จำเป็นต้องรอฉันเลย”
“จะเหมือนกันที่ไหนล่ะยะ ใครๆ ก็รู้ว่าเรื่องความแม่นยำและการจัดวางฮวงจุ้ย ไม่มีใครทัดเทียมจางเพ่ยอันเพื่อนรักของฉันคนนี้ไปได้ ทั้งแม่นยำเหมือนกับตาเห็น ตระกูลของฉันทำการค้าจนพลิกสถานการณ์วิกฤตจากหน้ามือเป็นหลังมือก็เพราะได้เธอช่วย หาไม่แล้วจะลืมตาอ้าปากอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้เหรอ”
“อ่อ... ก็ต้องขอบคุณพ่อของเธอด้วยเหมือนกันที่เปิดโอกาสให้กับฉันได้เข้าไปช่วยเหลือท่าน” หญิงสาวกล่าวถ่อมตนพร้อมส่งยิ้มให้เพื่อนสนิท
ทันใดนั้นเอง
แค่ก! แค่ก! แค่ก! เสียงไอติดต่อกันดังออกมาจากร่างของคนเจ็บในยุคอดีต
จางเพ่ยอันมองหน้าเพื่อนสนิทของเธอเขม็ง เมื่อเสียงไอของผู้ชายตัวโตมหึมา ดังจนได้ยินไปทั่วทั้งห้องเสียขนาดนั้น ทว่าเพื่อนของเธอหามีอาการแสดงออกแต่อย่างใด ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองร่างใหญ่ที่แม่เพื่อนสาวของเธอกำลังนั่งทับอยู่เสียด้วยซ้ำ
“เอาละ... เห็นทีฉันต้องกลับก่อนนะอันอัน เดี๋ยวจะเข้างานสาย ห้องยาที่โรงพยาบาลยุ่งอยู่ตลอดเวลาเสียด้วยสิ แถมมีหัวหน้างานโคตรโหด แม่บ่นได้ตลอดเวลาและทั้งวันเลยทีเดียว” เพื่อนรักของเธอบ่นพึมพำในขณะที่อีกฝ่ายมีอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเพื่อนของเธอเตรียมตัวกลับ
“กะ... กลับแล้วเหรอ... ดะ... ดี... รีบกลับไปเลย” หญิงสาวพึมพำออกมาเบาๆ
ร่างเล็กๆ ของเพื่อนสนิทลุกขึ้นยืนพร้อมตรงเข้าสวมกอดหญิงสาว ทั้งสองพากันกอดจนตัวกลม ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกจากห้องพักโดยมีสายตาของจางเพ่ยอันมองตามหลังจนลับสายตา ทันทีที่ประตูห้องพักปิดตัวลงตามเดิม
เฮ้อ!!! เสียงถอนหายใจดังออกมาโดยพลัน
หญิงสาวรีบเดินไปที่เตียงนอนซึ่งองค์ชายอิ๋งหยางประทับบรรทมอยู่ในขณะนั้น เธอยืนมองอยู่เพียงครู่ก่อนจะโน้มกายลงไปใกล้ๆ เผื่อจะได้ยินว่าทรงมีรับสั่งสิ่งใดออกมาหรือไม่
“แปลกจังเลย ขนาดเสี่ยวหงนั่งทับขาท่านแม่ทัพกลับไม่รู้สึก แถมอีกฝ่ายก็ไม่เห็นคนตัวเป็นๆ นอนอยู่บนเตียง แสดงว่าข้อสันนิษฐานของเราถูกหมดทุกอย่าง ว่าคนทางนี้ไม่มีใครเห็นคนในอดีต และคนทางนั้นก็ไม่เห็นเราเช่นกัน มีเพียงฉันเท่านั้นที่เห็นใครต่อใครอยู่คนเดียว... ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้นะ” หญิงสาวยืนรำพึงรำพัน
มือเรียวหันกลับไปหยิบปรอทวัดไข้ซึ่งวางอยู่บนผ้าสะอาด นำไปสอดไว้ใต้ลิ้นขององค์ชายหนุ่มพร้อมก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง ก่อนจะดึงออกมาเมื่อครบระยะเวลาวัดไข้
“โอ้โฮ! ไข้ยังไม่ลดเลยแฮะ สี่สิบองศา สงสัยคงมาจากแผลกระสุนฝังในอยู่นาน แล้วเกิดอักเสบมีแต่หนองขนาดนั้นต้องใช้เวลารักษาท่านแม่ทัพนานแค่ไหนนะ”
หญิงสาวกล่าวพร้อมวางปรอทวัดไข้ลงบนผ้าสะอาดตามเดิม ก่อนจะหันกลับมาสาละวนรื้อข้าวของภายในถุงผ้า เพื่อหาตัวยาและน้ำเกลือรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่องค์ชายใหญ่จากยุคอดีต ในขณะที่น้ำเกลือถุงใหม่ถูกนำมาเปลี่ยนแทนถุงเดิมที่หมดไป พร้อมตัวยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบถูกนำมาเปลี่ยนแทนขวดเดิมเช่นเดียวกัน
ยาลดไข้ที่บรรจุอยู่ในขวดเล็กๆ บัดนี้อยู่ในไซริงก์ มีหัวเข็มอยู่ด้านบนเพื่อฉีดให้กับคนไข้ในรายที่หมดสติไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถทานยาลดไข้ผ่านทางหลอดอาหารได้ จางเพ่ยอันแทงเข็มลงไปบริเวณข้อพับอย่างเบามือ คนเจ็บแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย ตัวยาถูกฉีดเขาร่างกายไปอย่างรวดเร็วติดตามด้วยความโล่งอกของคุณหมอจำเป็น
“ถ้าฉันรักษาท่านแม่ทัพหายเป็นปกติ เห็นทีจะมีอาชีพเสริมเป็นหมอรักษาคนได้เสียแล้วเรา” หญิงสาวพูดพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะนึกขึ้นได้
“บ้าแล้วจางเพ่ยอันเธอไม่มีใบประกอบโรคศิลป์จะรักษาคนได้ยังไง ลำพังรักษาท่านแม่ทัพอาศัยเปิดยูทูบเธอก็โคตรเทพแล้ว” หญิงสาวบ่นพึมพำให้กับตัวเองพลางส่ายหน้าไปมา ก่อนจะรีบจัดการตัวเองเพื่อเดินทางไปสำรวจพื้นที่สุสานในเช้าวันนี้
เพียงไม่นานจางเพ่ยอันปรากฏตัวพร้อมเครื่องแต่งกายสบายๆ เสื้อยืดกางเกงยีน สวมแจ็กเกตสีดำทับเรือนร่าง รองเท้าบูทหุ้มข้อสีน้ำตาลเข้มสำหรับลุยเข้าเขตสำรวจพื้นที่สุสานในวันนี้ หญิงสาวดึงผ้าห่มส่วนตัวของเธอนำออกมาจากกระเป๋าเดินทางเดินตรงมาที่เตียงนอน
ก่อนจะคลี่ผ้าห่มออกกว้าง กลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดซึ่งนำมาอบไว้จนแห้งกับเสื้อผ้าและเครื่องนอนของเธอแทนน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีแต่สารเคมี ฟุ้งกระจายตลบอบอวลไปทั่วห้อง หญิงสาวดึงผ้าห่มของโฮมสเตย์ที่มีรอยเลือดของบุรุษจากยุคอดีตเปรอะเปื้อนออก พลางนำผ้าห่มของตัวเองมาคลุมร่างใหญ่ดังกล่าวเอาไว้อย่างมิดชิด พร้อมมือเรียวสวยหันกลับไปปรับระดับความเร็วของตัวยาให้หยดลงอย่างสม่ำเสมอ สายตาสำรวจความเรียบร้อยอย่างพึงพอใจ
“หวังว่ากลับมาจะเห็นอาการกระเตื้องขึ้นกว่าเดิมนะ” หญิงสาวพูดกับตัวเองพลางหันหลังกลับเดินออกจากห้องพักเพื่อเดินทางเข้าพื้นที่สุสานพร้อมกับทีมงาน
ท่ามกลางความเงียบงันที่แผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ พระพักตร์ขององค์ชายหนุ่มจากยุคอดีตปรากฏรอยแย้มเยือนออกมาบางๆ เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรผ่านม่านตาที่มีแต่ภาพพร่าเลือน ทั่วทั้งห้องมีแสงสว่างส่องรำไรมาจากประตูทางเข้าซึ่งปิดทับด้วยผ้าม่าน
ในบางเวลาที่พระองค์อยู่ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น ทรงทอดพระเนตรสตรีสาวร่างบอบบางกำลังสาละวนอยู่กับการรักษา หลายครั้งเข็มเงินถูกทิ่มแทงลงบนพระวรกายอย่างเบามือ แต่ไม่ปรากฏว่าทรงรู้สึกเจ็บแต่อย่างใดตรงกันข้ามกลับไม่รู้สึกแม้แต่น้อย และหลายครั้งทรงได้ยินเสียงคนเรียกชื่อสตรีสาวที่รักษาพระองค์
อันอัน! จางเพ่ยอัน ชื่อเล่นและชื่อแซ่ของสตรีที่คอยดูแลรักษาพระอาการบาดเจ็บขององค์ชายอิ๋งหยางแห่งแคว้นฉินดังก้องอยู่ในโสตประสาท พระโอษฐ์ซีดเซียวค่อยๆ ขยับช้าๆ ติดตามด้วยพระสุรเสียงทุ้มดังเล็ดลอดออกมา
“จางเพ่ยอัน!” สุรเสียงรับสั่งชื่อแซ่ของหญิงสาวออกมาโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าชื่อแซ่ดังกล่าวติดตรึงอยู่ในโสตประสาทของพระองค์อยู่ทุกขณะ