ตอนที่ 5
กันต์กนิษฐ์หัวเราะแห้งๆ ยกมือลูบไล้หลังคอเบาๆ ก้มหน้าซ่อนยิ้มขวยเขินระคนกระดากอายลงมองพื้น อยากสวยและน่ารักในวันที่ได้เจอโดโนแวน แต่พอได้ยินว่าเขามากลับลือสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง วิ่งมาหาอย่างเร็วๆ เสียนี่
“หนีพ่อมาวิ่งเล่นอีกละสิ”
“เปล่าสักหน่อย คุณป๋าอย่ามาหาเรื่องกลบเกลื่อนความผิดของตัวเองนะคะ” กันต์กนิษฐ์ตอบกลับพลางค้อนตาคว่ำ ดวงหน้าผุดผ่องงอง้ำ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากลำคอแกร่ง
“หือ...คุณป๋าทำผิดเรื่องอะไรหรือ” โดโนแวนแกล้งถามทั้งที่รู้อยู่เต็มอก กันต์กนิษฐ์หมายถึงเรื่องที่เขาไม่ยอมอยู่พบหน้าเธอ รู้ว่าเมื่อเธอกลับบ้านมาเมื่อไหร่ เขาจะรีบกลับในทันที
“คุณป๋าน่ะ รู้อยู่แล้วยังจะมาแกล้งถามอีก” กันต์กนิษฐ์เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ในตอนนี้เรื่องที่เขาหนีหน้ายังไม่เท่ากับการเห็นโดโนแวนอยู่กับผู้หญิง! แต่ถ้าถามไปในตอนนี้ คำตอบที่ได้รับอาจทำให้เธอระงับโทสะที่ทำให้ใจร้อนรุ่มอยู่ไม่ได้ เผลอปล่อยอารมณ์ร้ายๆ ไปให้คนที่ชอบเห็นจะยิ่งทำให้ดูแย่ในสายตาเขา
“คุณป๋าไปเดินอีท่าไหนเข้าล่ะคะ ถึงได้ถูกยำเละแบบนี้” เธออยากยื่นมือไปทาบบนบาดแผล แบ่งเบาความเจ็บปวดจากชายหนุ่มมา แต่ก็ทำได้เพียงแค่เฝ้ามองด้วยใจละห้อยโหยหาระคนเจ็บปวด เมื่อสายตาโดโนแวนที่เคยมองเธอด้วยความรักใคร่ระคนเอ็นดู ตอนนี้ได้เผื่อแผ่ไปถึงผู้หญิงอีกคนที่ยืนยิ้มหวานอยู่เบื้องหน้า เหมือนถูกแก้วบาดใจให้เป็นร่องแผลลึก มีเพียงแค่ความรักจากเขาคนเดียวเท่านั้น จะช่วยผสานกลับมาเป็นเฉกเช่นเดิมได้
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” ชายหนุ่มตอบกลับ ยกมือวางบนศีรษะทุยเขย่าขยี้เบาๆ ด้วยรักใคร่และระอาในเวลาเดียวกัน
“กระถินไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ” กันต์กนิษฐ์ตอบกลับน้ำเสียงกระเง้ากระงอด ใบหน้านวลเปล่งปลั่งงองุ้ม มองโดโนแวนตาเป็นประกายหวานเชื่อม
“โตพอจะเป็นเมียคุณป๋าได้แล้วด้วย” หญิงสาวกระซิบตอบเสียงเบา ก่อนตวัดค้อนด้วยสายตาใส่ชายหนุ่มอีกวงโต ก่อนจะสาวเท้าก้าวถอยไปด้านหลัง แต่เปลี่ยนใจเดินเข้าไปยืนเคียงข้างโดโนแวน
‘เรื่องอะไรจะยอมให้โดโนแวนอยู่ใกล้ผู้หญิงคนอื่นง่ายๆ ล่ะ’ จมูกโด่งยู่ย่น สอดสองแขนกระชับท่อนแขนแกร่งดึงรั้งไม่ให้ชายหนุ่มหันไปหาหญิงอีกคนที่ยืนยิ้มอยู่
‘จะยิ้มอะไรหนักหนา ปัญญาอ่อนหรือไง ยิ้มกับลมกับใบไม้อยู่ได้’ เมื่อไม่ชอบใจ ไม่ว่าเขาทำอะไร ให้ดีแค่ไหนก็ไม่ดีไม่ชอบไปเสียหมด ใบหน้านวลเกลี้ยงเกลาถึงได้บูดบึ้งตึงขึงเครียด ตวัดสายตาแข็งกระด้างดุส่งให้ไปกับหญิงอีกคนที่เธอยังไม่รู้จักชื่อ
“คนโตแล้วเขาไม่ทำนิสัยอย่างนี้หรอกนะกระถิน” โดโนแวนจิ้มนิ้วไปบนหน้าผากกว้างอย่างมันเขี้ยว “ไม่น่ารักเลยรู้ไหม”
“ทำอะไรกัน กระถินยังไม่ได้ทำอะไรเลย คุณป๋านั่นแหละหาความกระถิน” หญิงสาวทำแก้มป่องงอนตุ๊บป่อง ทอดมองโดโนแวนด้วยความภักดีและรักสุดหัวใจ
“น้องกระถินน่ารักอย่างที่คุณเคนว่าจริงๆ ค่ะ” คนที่ยืนเงียบๆ อยู่นานเอ่ยสอดขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กับคนถูกกล่าวถึงยิ่งนัก
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันคะคุณป๋า” ถ้ายกมือชี้หน้าได้เธอทำไปแล้ว แต่อย่างน้อยการถูกอบรมบ่อยครั้ง ทำให้รู้จักคำว่ามารยาทอยู่บ้าง จึงทำได้เพียงแค่ริมฝีปากสีชมพูสดเบ้ไปมาอย่างไม่สบอารมณ์เท่านั้น
“กล้าดียังไงถึงขับรถคุณป๋าได้...คะ” กันต์กนิษฐ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก แต่ก็มีคำลงท้ายตามด้วยเพื่อไม่ให้ห้วนสั้น ด้วยรู้ดีถ้าไม่ใส่คำลงท้าย เธอจะไม่ได้รับคำตอบจากโดโนแวนแน่นอน
กันต์กนิษฐ์ขบกัดเขี้ยวจนแก้มนวลป่องขึ้นสัน นัยน์ตาเป็นประกายกร้าวแข็ง เธอเคยอ้อนวอนขอให้เขาสอนขับรถให้ เพราะรักในตัวเขา จนคิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสขับรถคันนี้ไปชมนกชมไม้ตามประสาคนมีใจให้แก่กัน แล้วตอนนี้...มีคนนั่งในตำแหน่งที่เธอคิดไว้ ช่างเจ็บใจนัก!
“พูดจาอย่างนี้ได้ยังไงกระถิน ไม่น่ารักเลยรู้ไหม” โดโนแวนจับมือเล็กออกจากแขน ขณะก้าวเดินไปยังอีกหนึ่งสาว ซึ่งยืนเงียบๆ มองทุกอย่างด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ละเอียดถี่ถ้วน อย่างไม่ให้มีสิ่งใดหลุดรอดสายตาไป
“คุณบัวเป็น...” โดโนแวนยังไม่ทันได้ตอบก็มีรถอีกคันตรงเข้ามาจอดแนบท้าย แล้วคนที่ก้าวลงมาจากฝั่งด้านข้างของคนขับก็ปิดปากเขาชะงักนัก
“ข้าวฟ่าง!” โดโนแวนยิ้มกว้าง นัยน์ตาแวววาวระยับยามทอดมองหญิงสาวที่ได้ครอบครองดวงใจเขาอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
“ไหนบอกจะคราวนี้จะไปนานไงเคย แต่นี่ไม่กี่วันก็...” คำว่ากลับมาแล้วยังไม่ทันออกจากปาก เพราะได้เห็นสภาพของหนุ่มรุ่นน้อง ดวงตามนต์สิกานต์เบิกกว้าง อ้าปากค้าง
“เคน!! ไปทำอะไรมา ทำไมถึงได้เป็นแบบนั้น” มนต์สิกานต์ถามอย่างตกใจยิ่งยวด รีบสาวเท้าไปหาชายหนุ่ม แต่ถูกสามีคว้ามือเอาไว้เสียก่อน
“ไปห่วงพวกอันธพาลทำไมกันข้าวฟ่าง” โตยธรเดินไปยืนแนบข้างเมียรัก ยกแขนแกร่งพาดบนลาดไหล่กว้าง
“ถ้าไม่ไปพูดผิดหู กวนตีน...ใครเข้า ก็คงไม่ถูกเขายำเละเป็นหมูปั่นขนาดนี้หรอก” โตยธรคลี่ยิ้มยียวนประสาทใส่โดโนแวน ไม่แค่นั้นเขายังตวัดสายตาไปมองหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ หนุ่มรุ่นน้องจอมลามปาม
“อ้าว! แล้วพาใครมาด้วยล่ะนั่น หรือว่ากลัวเหงา เพราะมาทีไรเห็นเป็นส่วนเกินของคนอื่นทุกที” โตยธรถามพลางกลั้วหัวเราะในลำคอ ตวัดสายตามองปราดเดียวก็รู้ว่าหญิงคนที่โดโนแวนพามาด้วยต้องมีความสำคัญมาก แต่เอ๊ะ...เพราะถูกรุมสกรัมมาหรือเปล่า ถึงได้ยอมให้ผู้หญิงขับรถให้นั่ง ขนาดบอกว่ารักเมียเขามาก จนยอมเจ็บแทนได้ ก็ยังไม่เคยยอมให้มนต์สิกานต์ขับรถให้นี่นา
เป็นอย่างนี้แล้ว...ดูเหมือนเรื่องนี้เริ่มจะน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ ผู้หญิงคนนี้จะต้องมีความสำคัญไม่ใช่น้อย โตยธรตวัดนัยน์ตาเข้มดุไปมองลูกสาวซึ่งยืนหน้าบึ้งตึง นัยน์ตาวาวจ้า กลีบปากอิ่มขบเม้มเข้าหากัน
เขายังรับรู้ถึงเพลิงโทสะเลยนะ แล้วโดโนแวน...เพียงหันไปมอบสบสายตากับไอ้คุณป๋ากำมะลอ ซึ่งสะบัดศีรษะอย่างเหนื่อยหน่ายใจ พร้อมสายตาที่บ่งบอกว่า...
“ลูกสาวแกนะ จัดการเอาไปเก็บด้วย ไม่อยากยุ่งเกี่ยวโว้ย! ขี้เกียจรบกับไอ้พ่อตัวดีจอมหวงลูกอย่างแก” แม้การได้เห็นกันต์กนิษฐ์ที่ใบหน้าละม้ายคล้ายผู้เป็นมารดา สวยและน่ารักจนแทบจะละสายตาไม่ได้ จนทำให้ใจเขาแกว่งอย่างไร้เหตุผล แต่โดโนแวนก็คิดว่าเพราะเขายังรักฝังใจในตัวมนต์สิกานต์เลยเกิดความสนใจคนเป็นลูกมากกว่าเด็กคนอื่น
ฮึ...โตยธรผุดยิ้มที่มุมปาก แม้เขาหวงลูกสาวอย่างกับจงอางหวงไข่ แต่ก็ใช่จะไม่มีเหตุผล การได้เห็นบุตรสาวถูกหมางเมินอย่างนี้คล้ายเขาถูกตบหน้าเหมือนกัน ก็ลูกสาวเขาทั้งสวยทั้งน่ารัก เก็บทั้งส่วนดีของเขาและของมนต์สิกานต์ไปทุกส่วน แต่กลับถูกโดโนแวนเมินไม่มอง อย่างนี้ต้องเอาคืนสักหน่อย!
“แกนี่เก่งนะเคน ตอนกลับไปก็พกคนหนึ่ง มาวันนี้ก็พาคนใหม่มาอีก หาแฟนเก่งมาก แต่ละคนสวยแจ่มทั้งนั้น แต่ทำไมถึงยังไม่ลืมคนเก่า แล้วรีบแต่งงานไปเสียให้หมดเรื่องวะ มาทำตัวเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วง เฝ้าหมายปองของรักของหวงของคนอื่นทำไมกัน” ถ้าคนมีใจให้กัน มีหรือที่จะไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดเขา จนต้องรีบเคลียร์กันน่ะ