บบที่ 4 : คู่หมั้นของท่านประธาน 2

1607 Words
ในเย็นวันนั้น ทันทีที่ภูดิสก้าวเข้ามาในคฤหาสน์หรู เสียงประมุขเอกของบ้านก็ดังขึ้น “อ้าว…ตาภู กลับมาแล้วเหรอ มานั่งนี่สิน้องลิดามานั่งรอทานข้าวนานแล้ว ป่านนี้คงหิวแย่” “ทำไมต้องรอด้วยละครับ ถ้าหิวแล้วก็ทานก่อนเลย ผมขอตัวก่อน” ภูดิสบอกอย่างไม่สนใจ นัยน์ตาคมกริบกวาดมองดาราสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะก้าวไปอีกทางหมายจะกลับขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นบน แต่แล้วเท้ายาวๆก็ต้องชะงักหยุดอยู่กับที่ “อย่าเสียมารยาทนะตาภู พ่อบอกให้มานั่งไง!” เสียงเข้มห้วนของบิดาทำให้ภูดิสต้องพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยอาการเซ็งๆ ร่างสูงสง่าหมุนตัวเดินตรงมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีมารดาและนางเอกสาวนั่งรออยู่ด้วย แต่กระนั้นก็ไม่ยอมนั่งลงตามคำสั่งของบิดา “คุณพ่อทำราวกับผมอายุสิบขวบต้องอยู่ใต้บังคับบัญชาตลอด เวลา ขนาดทานข้าวผมยังต้องโดนบังคับจิตใจเลย” “ตาภู น้องอุตส่าห์มาหา ทำตัวเป็นผู้ใหญ่หน่อย” คราวนี้เสียงของมารดาเอ่ยปรามเมื่อเห็นว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกำลังทำตัวเสียมารยาทต่อหน้าทุกคน “ผมบอกคุณพ่อคุณแม่แล้วไงครับ ว่าผมไม่ยอมรับการหมั้นหมายวัยเด็ก ถ้าจะให้ผมคบกับลินดาเหมือนคนรักผมทำไม่ได้ เพราะผมเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว” คำประกาศชัดของชายหนุ่มทำให้ดาราสาวหน้าถอดสีไปอย่างถนัด และนั่นก็ยิ่งทำให้ประมุขเอกของบ้านโมโหหนัก “ตาภู!” “ผมขอตัวก่อนนะครับ วันนี้มีนัดกับเพื่อน” ภูดิสบอกกับบิดาอย่างไม่เกรงกลัวเสียงคำรามนั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องอาหารไปทันที ปล่อยให้ผู้เป็นพ่อต้องกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ “ดูลูกคุณสิ ดูมันทำ!” “ใจเย็นๆนะคะคุณ เรื่องนี้ไว้เราค่อยๆพูดค่อยๆจากับลูกทีหลังแล้วกันนะคะ”คุณนายนิดาบอกกับสามีด้วยน้ำเสียงอ่อน พลางบีบมืออีกฝ่ายเบาๆเพื่อทำให้อารมณ์โมโหนั้นสงบลง จากนั้นก็หันมาบอกกับสาวน้อยผู้น่าสงสารที่ถูกคู่หมั้นเมินใส่อย่างไม่ใยดี “หนูลินดาก็อย่าคิดมากเลยนะคะ พี่ภูเขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ” “ค่ะคุณแม่” ลินดารับคำอย่างนอบน้อม ใบหน้างดงามยิ้มอ่อนหวานทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ในใจกลับคับแค้นใจจนแทบจะระเบิด ทีแรกเธอเข้าใจว่าภูดิสจะเกรงกลัวบิดา เธอเลยมาที่นี่เพื่อที่จะได้ทานอาหารร่วมกัน แต่ดูเหมือนนอกจากภูดิสจะไม่เกรงกลัวท่านแล้ว ยังต่อต้านการหมั้นหมายวัยเด็กหัวชนฝาอีกด้วย สงสัยงานนี้คงต้องคิดหาวิธีอื่นจับเขาแทนเสียแล้ว ………………………………………. “เป็นอะไรวะไอ้ภู มาถึงก็ดื่มเอาดื่มเอาราวกับมีเรื่องกลุ้มใจอย่างนั้นแหละ” ปราบยุทธเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่ยกแก้วเหล้าดื่มตั้งแต่มาถึงอย่างไม่คิดจะพักหายใจหายคอ “มีเรื่องหงุดหงิดใจนิดหน่อย” “เรื่องอะไรระบายกับฉันได้นะ เผื่อจะช่วยให้นายรู้สึกดีขึ้นได้บ้าง” “เรื่องเดิม ลินดายายตัวแสบ!” พูดถึงเจ้าหล่อนแล้ว ภูดิสก็ต้องกำแก้วเหล้าไว้แน่นด้วยความคับแค้นใจ การที่เธอคิดว่าเข้าทางพ่อแม่เขาแล้วจะเอาเขาอยู่หมัดนั้นฝันไปเถอะ! คนอย่างภูดิสไม่เคยคิดที่จะอ่อนให้ใคร หากไม่ใช่สิ่งที่ตนต้องการ “ทำไมวะ คราวนี้เธอทำอะไรอีก” “เธอก็ไปแสดงบทสาวไร้เดียงสาและน่าสงสารเพื่อให้พ่อแม่ฉันเร่งรัดงานแต่งไง นี่ถ้าฉันมีตุ๊กตาทองในมือจะมอบให้เธอไปครองเลย คนอะไรแสดงละครเก่งทั้งนอกจอและในจอ” “นายก็อคติกับน้องเขาเกินไป เท่าที่ฉันเห็นน้องเขาก็เป็นผู้หญิงน่ารักดีนะ แถมเธอยังมีแฟนคลับทั่วบ้านทั่วเมือง” “น่ารักกับผีนะสิ! ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอใครร้ายเท่าเธอเลยจะบอกให้” ภูดิสไม่อยากจะเล่าวีรกรรมแสบๆของเจ้าหล่อนในเพื่อนฟังมาก เพราะตั้งแต่แตกเนื้อสาวมาเธอมักหาโอกาสอ่อยเขาเวลาได้อยู่กันตามลำพัง ต่างกับตอนอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ที่เธอมักแสดงบทไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกราวกับเป็นคนละคน ผู้หญิงแบบไม่คู่ควรจะมาเป็นภรรยาของเขาในอนาคตหรอก “เอาน่า…ดื่มต่อเถอะ ไว้เรื่องนี้เราค่อยหาทางออกกันอีกที” ปราบยุทธว่าพลางตบไหล่เพื่อนเบาๆเป็นกำลังใจ เพราะรู้ว่าภูดิสนั้นไม่ชอบการจับคู่ครั้งนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นโต๊ะของกลุ่มสาวๆที่พรางหน้าด้วยหน้ากากก่อนจะเอ่ยขึ้น “สาวโต๊ะนั้นน่าสนใจดีนะ” ปราบยุทธบอกกับเพื่อนที่กำลังเอนหลังพิงโซฟาตัวใหญ่ในท่าสบายๆ ก่อนจะหันไปมองตามสายตาเพื่อน “มาริกา” เสียงทุ้มพึมพำเบาๆ มือใหญ่ที่กำลังควงแก้วในมือหยุดชะงักลงอย่างอัตโนมัติ เมื่อพบว่ากลุ่มสาวๆที่เพื่อนมองอยู่นั้นมีมาริกานั่งอยู่ด้วย ถึงแม้เจ้าหล่อนจะพรางใบหน้าด้วยหน้ากากแมวสุดเซ็กซี่ และนั่งในมุมสลัวแต่เขาก็จำเธอได้แม่นยำ “นายรู้จักพวกเธอด้วยเหรอ” “เป็นพนักงานในบริษัท” “ไม่ยักจะรู้ท่านประธานบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างนาย ที่มีลูกน้องเป็นร้อยเป็นพัน จะจำหน้าและชื่อของพนักงงานในบริษัทได้” “เธอไม่เหมือนคนอื่น” “ยังไง?” ปราบยุทธเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย ทว่าภูดิสกลับไม่ตอบคำถาม ก่อนจะเอ่ยขอตัว “ฉันขอตัวก่อนนะ คืนนี้แยกกันตรงนี้แล้วกัน ฉันมีธุระต้องไปทำต่อ” “เฮ้ย! เพิ่งจะมาถึง จะรีบไปไหนกันวะไอ้ภู” ปราบยุทธร้องถามเพื่อนที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วหมุนตัวก้าวยาวๆไปที่โต๊ะกลุ่มสาวๆโดยไม่หันมามองอีก ร่างสูงสง่าในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินพับแขนกับกางเกงสแล็คพอดีตัว เดินผ่านหน้าทำให้มาริกาที่มานั่งดื่มย้อมใจอยู่นานเป็นชั่วโมงต้องสะบัดศีรษะพลางพึมพำกับตัวเองเบาๆ “สงสัยฉันจะเมาอีกแล้วนะ ถึงได้เห็นใครหน้าคลายเขาไปหมด” ก็เพราะวันนี้รู้สึกเหมือนอกหักซ้ำสองจากท่านประธานหนุ่มหล่อ มาริกาเลยเลือกที่จะดื่ม เพื่อให้ลืมความเจ็บหน่วงๆในใจ แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่ เพราะขนาดดื่มจนมึนแล้วยังมิวายตาฝาดเห็นคนอื่นเป็นเขาอยู่ดี “ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ อารยา จะไปตามเมธีด้วยหายไปนานแล้วไม่เห็นกลับมาสักที” “แล้วไปไหวหรือเปล่าเจ๊ ให้ฉันพาไปไหม” “ไม่เป็นไร แค่นี้สบายมาก…” มาริกาปฏิเสธ พร้อมกับลากเสียงยาวเพราะเธอคิดว่ายังครองสติได้อยู่ แต่พอลุกขึ้นก็มิวายเดินเซไปเซมาจนเกือบจะชนใครต่อใครไปหลายรอบ กระทั่งพยุงกายโซเซมาถึงหน้าห้องน้ำจนได้ “อ้าวเมธี มาอยู่ที่เอง ว่าแต่ทำไมแกถึงไปเปลี่ยนหน้ากากเป็นหน้าท่านประธานมาละเนี่ย!” หญิงสาวว่าพลางตบไหล่คนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนด้วยอาการมึนๆ ก่อนจะเซถอยหลังเหมือนจะล้ม เลยได้มือใหญ่คว้าเอวเล็กไว้ได้ทัน “คืนนี้ฉันขับรถกลับไม่ไหว แกไปส่งฉันหน่อยนะเมธี” พูดจบร่างอรชรก็หลับคอพับไป ทำให้ภูดิสต้องเขย่าร่างบางแรงๆเพื่อปลุกให้อีกฝ่ายตื่น แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เมื่อเธอยังคงแน่นิ่งไม่ไหวติงใดใด “คงดื่มหนักละสิท่า กลิ่นเหล้าฉุนเชียว” ภูดิสพึมพำเบาๆเมื่อได้กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนๆจากคนในอ้อมกอดแตะจมูก “เป็นผู้หญิงมาเที่ยวสถานบันเทิง แต่ปล่อยตัวเองให้เมาหนักขนาดนี้ได้ยังไง มาริกา” ชายหนุ่มคำรามเสียงต่ำ พลางจับร่างอรชนช้อนขึ้นบนแขนแข็งแรง แล้วพาออกจากไนต์คลับหรูไปทันที ทางด้านเมธีที่มึนพอสมควร กลับมาถึงโต๊ะแล้วไม่เจอเพื่อนรุ่นพี่ก็เอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยความแปลกใจ “เจ๊ล่ะ อารยา?” “อ้าว…ไม่เจอกันเหรอ เมื่อกี้เจ๊บอกจะไปเข้าห้องน้ำแล้วไปตามแกด้วย” “ไม่เห็นนะ ฉันก็เพิ่งเดินกลับออกมาจากห้องน้ำ” “หรือว่าเจ๊จะกลับไปแล้ว” อารยาตั้งสมมติฐานเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาริกาชอบกลับก่อนโดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า “ลองโทรตามสิ” อารยาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรตามอีกฝ่าย แต่ก็ไม่มีคนรับสาย กระทั่งสายตัดไปเอง “ไม่มีใครรับสาย” “เป็นแบบนี้ทุกทีเลย เวลาเมาชอบทิ้งเราให้กลับกันเองตลอด” เมธีบ่นพึมพำด้วยความเอือมระอา กับนิสัยที่แก้ไม่ตกของสาวรุ่นพี่ แต่กระนั้นก็ไม่คิดอะไรมากเพราะมาริกานั้นอายุสามสิบปีแล้ว และเธอก็สามารถประคองสติกลับบ้านได้เองทุกครั้งไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD