ตอนที่ 8

1448 Words
ตอนนี้พวกผมสามคนอยู่ที่มหาลัยของไอ้ตินแล้วครับ เพราะวันนี้มันมีประชุมกับหุ้นส่วนของมหาลัย แต่มันบอกให้พวกผมสองคนมาด้วย พวกผมก็เลยมา แต่เหตุเมื่อกี้สิครับที่ทำให้พวกผมตะลึง คือลลินหันไปพูดอะไรกับไอ้มาร์คัสน้องไอ้ตินก็ไม่รู้ แต่จากที่ผมสังเกตก็คือทุกคนดูตะลึง จากนั้นลลินก็กระชากผู้หญิงข้างกายไอ้มาร์คัสมาและตบเธอไปสี่ครั้งติดทำให้น้องคนนั้นถึงกับล้มเลยล่ะครับ นั่นยังไม่พอเธอหันไปหยิบจานข้าวแล้วค่อย ๆ เทลงบนหัวของน้องคนนั้น ผมนี่ตะลึงทำอะไรไม่ถูกเลย จนไอ้ตินมันสะกิด “ไอ้มาร์ทเว้ย มึงไปห้ามสิมึงชอบน้องเขานิ เดี๋ยวน้องลลินของมึงก็มีเรื่องหรอก ผู้หญิงที่น้องลินมึงมีเรื่องด้วยเนี่ยเป็นลูกผู้มีอิทธิพลนะเว้ย” พอได้ยินเท่านั้นแหละผมวิ่งไปหาเธอและตะโกนบอกให้เธอหยุด “ลิน ลินหยุดพี่บอกให้หยุด” แต่ดูเหมือนเธอจะไม่หยุดนะครับ จนผมเข้าไปกอดเธอจากทางด้านหลังแต่เธอผลักผมออกแล้วหันไปพูดกับน้องที่เธอตบเมื่อกี้อีกครั้ง น้ำเสียงเธอนิ่งมาก ๆ และผมเริ่มรู้แล้วว่าเธอน่ากลัวเพราะน้ำเสียงนิ่งก็จริงแต่สายตาของเธอนี่สิ สามารถฆ่าคนได้เลยละครับ บรึ๋ย นึกแล้วผมก็เริ่มกลัวเธอขึ้นมานิด ๆ ล่ะแล้วน้องแพรวอะไรนั่นที่เธอประกาศว่าเป็นน้องก็เหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ลินกับพูดออกมาว่าหยุด ก่อนที่เธอจะขึ้นผมนึกในใจนี่ยังไม่ขึ้นอีกเหรอ ซึ่งตอนนี้เราก็เข้ามาในห้องพักเพื่อรอเวลาการประชุม และสีหน้าของลลินดูนิ่งมาก ผมยังจำตอนที่ผมเข้าไปกอดห้ามเธอได้ ไม่รู้เธอเอาแรงมาจากไหนแต่ที่ผมรู้ก็คือ แรงเธอเยอะมาก ๆ เลยล่ะ พวกเรานั่งอยู่อย่างนั้นไม่มีใครพูดอะไร ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็ได้เวลาเข้าห้องประชุม พวกเราเข้าห้องประชุมทุกคนเลยครับยกเว้นก็แต่น้องที่ชื่อแพรวอะไรนั่นที่ไม่ได้เข้า น้องให้เหตุผลที่ว่าเป็นเรื่องของมหาลัย นักศึกษาอย่างน้องไม่ควรเข้าไป เธอขอนั่งอยู่ในห้องนี้ ซึ่งพวกผมก็ไม่ขัด แต่ผมเห็นสีหน้าของไอ้มาร์คัสนะครับเหมือนมันอยากขอโทษน้องแพรวอะไรนี่มากเลยล่ะ แล้วการประชุมก็เริ่มขึ้น ก็ไม่มีอะไรมากก็คุยเรื่องทั่วไป เกี่ยวกับการปรับปรุงมหาลัย การบริหารไรแบบนี้ ส่วนใหญ่ผมก็นั่งฟังเฉย ๆ ส่วนคนที่คอยเสนอหรือแย้งก็มีแต่ไอ้ตินกับปรางค์เพื่อนของลลินนั่นแหละครับ ในที่สุดการประชุมก็สิ้นสุดลง พวกเราทั้งหมดเดินมาที่ห้องพักทันที นั่งพักไม่ถึงสิบนาที ลลินก็เปิดประเด็นทันที “ไหนเล่ามาสิ มันเกิดอะไรขึ้น ห้ามปิดปังด้วย” ลลินหันไปถามแพรว “คือเขาเข้ามาหาแพรวแล้วถามชื่อ แพรวก็บอกว่าใช่ แล้วยัยแพมอะไรนั่นก็เทน้ำใส่ตัวเองแล้วก็ตบตัวเองจากนั้นก็ดึงแพรวไปคร่อมตัวเองไว้ทั้ง ๆ ที่แพรวยังไม่ทำอะไรเลย แพรวได้แต่อึ้งจน จนพี่มาร์คัสเข้ามากระชากแพรวออกแพรวถึงรู้สึกตัวค่ะ” น้องแพรวอธิบายให้ฟัง “แล้วนายล่ะ มาร์คัสใช่ไหม เล่าสิ” ลลินหันไปถามมาร์คัส “เอ่อ คือผมเข้ามาก็เห็นแพรวคร่อมแพมอยู่ ผมก็เลยผลักแพรวออกจากแพม แต่ที่ผมบอกให้แพรวขอโทษแพมเพราะพ่อแพมเป็นคนมีอิทธิพล ผมไม่อยากให้แพรวมีปัญหาจึงตัดปัญหาด้วยการให้แพรวขอโทษอย่างที่พวกพี่เห็นล่ะครับ” ไอ้มาร์คัสอธิบาย ตอนนี้เหมือนทุกคนกลัวลลินเลยแฮะ ขนาดเพื่อนเธอยังเกร็งเลย “นายเลยไม่เลือกที่จะถาม แต่เลือกที่จะตัดปัญหางั้นสิ ให้ตายเถอะ” เสียงนี่เป็นเสียงของปรางค์พูดขึ้นบ้าง “อ้าวนี่คุณ แต่ผมว่าน้องผมก็ทำถูกนะที่จะตัดปัญหาแบบนั้น ไม่งั้นน้องแพรวมีอันตรายแน่” ไอ้ตินพูดทำให้ปรางค์จ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง “พอหยุด ฉันจะถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก นายควรสอบถามก่อนตัดสินใจนะมาร์คัส นายเป็นผู้ชายแถมยังเป็นรุ่นพี่ด้วย ไม่งั้นน้อง ๆ มันจะว่าเอาว่าเป็นคนไม่มีเหตุผล ไม่ยุติธรรม ใช้แต่อำนาจ แล้วมันจะไม่มีคนนับถือนาย เขาจะเข้าหานายเพราะเงิน เพราะฉะนั้นให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนทีหลังก็คิดก่อนเข้าใจไหม” ลลินหันไปหาไอ้มาร์คัส และพูดด้วยเหตุผลจนผมกับเพื่อนตะลึงไม่คิดว่าเธอจะมีเหตุผลขนาดนี้ “เข้าใจครับ แล้วพี่เอ่อ ไม่โกรธผมแล้วใช่ไหมครับ” ไอ้มาร์คัสรับคำก่อนจะถาม “โกรธ แต่ช่างมันเถอะครั้งแรกหนิ ส่วนเธอแพรว เราไม่ใช่คนอ่อนแอหนิ แถมยังเป็นคนไม่ยอมคนด้วย ทำไมถึงอยู่เฉย ๆ ทีหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะ บางครั้งการอยู่เฉยก็ไม่ได้ทำให้คนที่แกล้งเราหยุดหรอก เพราะฉะนั้นจากนี้ก็วิเคราะห์สถานการณ์แล้วค่อยคิดว่าจะจัดการปัญหาตรงหน้ายังไงเข้าใจไหม” ลลินพูด “เข้าใจค่ะ” น้องแพรวตอบลลิน จากนั้นทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ ผมยิ้มก่อนจะ ลุกแล้วไปดึงลลินมานั่งตัก “เฮ้ย ปล่อย” เสียงลลินบอก แต่ผมนิ่งส่วนเพื่อนผมอึ้งสิครับ เพราะผมไม่เคยทำกับใครแบบนี้ “ไม่ปล่อยหรอก เรานี่มีเหตุผลเหมือนกันนะ” ผมบอกเธอพร้อมยิ้มน้อย ๆ “ฮึ่ม จะปล่อยไหม” เธอถอนหายใจแล้วถามผมอีกครั้ง ผมก็ส่ายหัวเป็นอันที่เข้าใจกันว่าไม่ เธอมองหน้าผมสักพัก แล้วทำตาเจ้าเล่ห์ใส่ผม จนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เลยละ แต่ไม่เป็นไรผมมึนพอ “พี่มาร์ทขา ปล่อยลินนะคะ ลินอยากนั่งโซฟา ลินกลัวพี่มาร์ทเมื่อย” นั่นไงผมว่าแล้ว แต่อะไรนะพี่เหรอ ลินเรียกผมว่าพี่ ผมหันไปยิ้มให้ทันที เธอมองผมอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “อะไรกัน ห่วงพี่เหรอ พี่ไม่เมื่อยหรอก ให้คู่หมั้นนั่งตักแค่นี้จะเมื่อยได้ยังไง” ผมบอกเธอ “ฮะ อะไรนะ!!!” เสียงไอ้ติน มาร์คัสและไอ้คิมดังขึ้นอย่างตกใจ “เออ นี่คู่หมั้นฉันเอง ลลิน” ผมบอกพวกนั้นก่อนจะหันมายิ้มใส่ลินที่ตอนนี้หน้าแดงไปถึงหูแล้ว “มึงมีตอนไหนไอ้มาร์ท ทำไมพวกกูไม่เคยรู้ว่ามึงมีคู่หมั้น” เสียงไอ้คิมถามแต่ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไร “นี่ จะไปยุ่งอะไรเรื่องส่วนตัวของเขา เขาจะหมั้นจะแต่งเกี่ยวไรกับนายไม่ทราบ ก็เข้าใจนะว่าเป็นเพื่อน แต่บางเรื่องก็ไม่ต้องรู้ก็ได้ปะ! ไอ้ปลาไหล” เสียงของมีนพูดเองครับ พวกผมนี่หัวเราะก๊ากเลย เพราะไม่เคยมีใครเรียกไอ้คิมแบบนี้เลย หึหึ สงสัยผมว่ามันคงได้คู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกันแล้วล่ะครับ แต่ก็ไม่ทันไร ลลินก็หยิกผมใหญ่เลย “โอ๊ย ลินหยิกพี่ทำไม” ผมถามเธอพร้อมทำหน้าเจ็บ ๆ “ไม่ต้องมาสำออย ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้น แล้วไปหัวเราะเขาทำไมไม่ทราบ เรื่องตัวเองอะรอดแล้วเหรอฮะ!” ลลินตอบผมจากตอนแรก ๆ ที่ผมหัวเราะก็กลายเป็นพวกมันที่หัวเราะแทน “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ไอ้มาร์ท แก ฮ่า ๆ ๆ ๆ ไอ้มาร์ท แก ฮ่า ๆ ๆ โอ๊ย ฮ่า ๆ ๆ ๆ” เสียงพวกมันหัวเราะเยาะผม เมื่อทำอะไรไม่ได้ ผมจึงหันไปทำหน้าดุคาดโทษให้พวกมันทันที ไม่นานเสียงก็เงียบลง และแน่นอนผมจัดการคนที่ทำให้ผมกลายเป็นตัวตลกกับเพื่อน ๆ ด้วยการกอดเธอแน่นและแอบหอมแก้มเธอด้วยในบางครั้งเวลาที่เธอเผลอ หึหึ ความสุขของผม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD