ตอนที่ 3 ผู้ชายน่ารัก (4)
อาจเพราะพ่อสอนมาดีเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร พ่อจะตีตั้งแต่เด็กๆ ถ้าเธอเผลอกินเสียงดังและทำปึงปังใส่ถ้วยชาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่พ่อซีเรียสมากคือการใช้ช้อนกลาง แม้เป็นครอบครัวเดียวกันแต่ท่านก็ปลูกฝังเสมอว่าปลอดภัยไว้ก่อน และทำให้อาหารไม่บูดไม่เสียหรือเป็นเดนจากการใช้ช้อนของตัวเองตักจ้วงลงไป และก็เป็นโชคดีที่บ้านนี้ก็ใช้ช้อนกลางเช่นเดียวกัน
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารในห้องครัวเล็กๆ แต่สะอาดสะอ้านค่อนข้างผ่อนคลาย ไม่เหมือนตอนที่เธอมาถึงที่นี่ครั้งแรกและถูกปล่อยทิ้งไว้กับแม่ของเขา ตอนนั้นเธอเครียดและเกร็งกับสายตาราวผู้ใหญ่ดุเด็กทั้งที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรผิด และตอนนี้แม่ของเขาก็ไม่ได้มานั่งกินข้าวเย็นด้วย นิรดาเห็นธารนทีออกไปตามให้แม่ของเขามากินข้าวแต่ก็ไม่เห็นจะเข้ามา แต่เธอไม่สนใจหรอก ไม่มาก็ดีแล้ว
นิรดากินไปคิดไปวุ่นวายฟุ้งซ่านไปทั่ว รู้ตัวอีกทีข้าวในจานก็หมดเกลี้ยงไม่เหลือสักเม็ด และก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเงอะๆ งะๆ อีกรอบ ด้วยไม่รู้จะทำอะไรยังไงต่อดี จะเก็บจานชามและแก้วน้ำรวมกัน แต่ก็ช้ากว่าชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้าน จนกระทั่งเขาวางจานชามใช้แล้วลงในอ่างและหันมาเอ่ยกับเธอ
“ล้างจานเป็นไหมครับ”
“เอ่อ...” นิรดาอึกอักขึ้นมาทันควัน ล้างจานเนี่ยนะ! ไม่เอาหรอก
“ลองดูไหม”
เอ๊ะ! ยังจะมาถามอีก
“ลองได้นะ ไม่ยากหรอก” เขาว่าอีกครั้ง น้ำเสียงไม่ได้บังคับให้ต้องทำ แต่นิรดาก็จนคำพูดจะปฏิเสธ เลยต้องลุกจากเก้าอี้เดินไปหาเขาที่อ่างล้างจาน
“นี่ครับฟองน้ำ น้ำยาล้างจานขวดนี้นะ” เขาชี้ไปที่ขวดปั๊มสีใสที่ภายในบรรจุของเหลวสีเหลืองเข้มที่นิรดาพอจะเดายี่ห้อได้ไม่ยาก
สาวน้อยรับฟองน้ำมาจากมือเขา ขยับเข้าไปใกล้อ่างมากขึ้น มือจับขวดน้ำยาล้างานขึ้นมา รับรู้ได้ว่าชายหนุ่มล่าถอยออกไป คงจะเดินออกไปจากห้องครัว มุมปากเล็กกระตุกยิ้ม ก่อนจะเปิดฝาขวดปั๊มแล้วก็เทราดน้ำยาล้างจานลงมาพรืดเดียว เล่นเอาคนที่กำลังจะเดินออกจากห้องครัวแต่เหมือนมีเหตุให้เขาหันหลังกลับมามองสาวน้อยอ้าปากค้าง รีบถลาเข้ามาจับข้อมือน้อยไว้ก่อนที่น้ำยาล้างจานจะหมดขวด และน่ากลัวว่ามันจะเข้มข้นจนอาจกัดมือน้อยๆ นั้นให้ลอกได้
“หนูนุ่มพอแล้วครับ” เขาว่าเสียงอ่อนโยน แม้ในใจจะเริ่มเคืองเล็กๆ แต่ก็เตือนตัวเองอีกหนว่า น้องยังเด็ก!
แวบหนึ่งเขารู้สึกว่าตัวเองเห็นใบหน้าง้ำงอของคนตัวเล็กราวกับเธอไม่พอใจที่ถูกขัดใจการเล่นซน แต่เพียงแป๊บเดียวยัยตัวร้ายก็เปลี่ยนโหมดเป็นเม้มปากแน่น แล้วทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้หันไปทางอื่นได้อย่างน่าตี
“ใส่เยอะเดี๋ยวน้ำยามันกัดมือหนููนะ”
นิรดาหันกลับมามองเขาทันที เธอคิดว่าเขาจะต่อว่าหรือดุเธอเสียอีก ตั้งใจว่าถ้าทำไม่ดีให้เขาไม่พอใจ หากเขาพูดจาไม่ดีหรือทำให้เธอรู้สึกแย่ เธอจะแกล้งร้องไห้แล้วก็โทรไปฟ้องพ่อ ให้พ่อมารับกลับบ้าน แต่กลายเป็นว่านอกจากจะไม่ต่อว่าแล้ว เขายังทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเธอมากกว่าจะเสียดายน้ำยาล้างจานที่พร่องไปเกือบครึ่งนั่นเสียอีก และเธอก็ไม่รู้สึกว่าเขาเสแสร้งด้วย
บ้าจริง! ทำไมไม่ยอมดุนะ! อยากให้ดุจะได้หาเรื่องให้พ่อมารับกลับบ้าน แต่เธอก็ได้แค่คิดเท่านั้นเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกินความคาดหมายไปไกลโข
“เดี๋ยวพี่ช่วยล้างดีกว่า”
เย้! อย่างน้อยก็เข้าล็อกอย่างหนึ่ง ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องล้างจานเองแล้ว คิดในใจอย่างลิงโลด ก่อนจะตาโตขึ้นมาทันทีเมื่อสิ่งที่เพิ่งดีใจกลายเป็นเพียงความเข้าใจผิดคิดไปเอง
“หนูมายืนตรงนี้มา จะได้ช่วยกัน” เขาว่าก่อนจะดึงแขนเธอให้เธอไปยืนที่หน้าอ่างล้างจานใกล้ๆ แล้วเขาก็ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง
ภาพที่เขายืนซ้อนไว้และเอื้อมมือไปกุมมือเธอพาขยับไปจับจานใบนั้นใบนี้ทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากว่าเขากำลังโอบกอดเธออยู่กรายๆ
นิรดาขนลุกซู่ รู้สึกวูบวาบแปลกๆ ทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้รุ่มร่ามหรือทำมือไวอะไร แต่กระนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อใบหน้าบึ้งตึงและยื่นมือยื่นไม้ล้างจานใบแล้วใบเล่าไปพร้อมกับเขา
จนแล้วเสร็จทั้งหมด เขาก็จับมือเธอไว้แล้วล้างน้ำเปล่าให้อย่างนุ่มนวล แค่นั้นยังไม่พอ ล้างเสร็จแล้วเขายังจับมือเธอไปเช็ดกับเสื้อเชิ้ตของเขาเบาๆ จนเสื้อเขาเปียกน้ำเป็นด่างๆ ดวงๆ อีกต่างหาก
คนบ้า! ทำอะไรก็ไม่รู้ เธอทำอะไรต่อไม่ถูกแล้วนะ ตัวเองเป็นคนแก่หัวงูหรือไง มาจับมือเธออยู่ได้
จนมือน้อยสะอาดสะอ้านและแห้งแล้วนั่นแหละ เขาถึงได้ยอมปล่อยและเอ่ยเสียงนุ่มราวกับปะเหลาะเด็กน้อยที่ทำดีและต้องได้รับรางวัล
“เก่งมากเลย ช่วยพี่ล้างจานด้วย กินอิ่มแล้วก็ไปนอนได้แล้วเด็กน้อย เดี๋ยวพี่ทำความสะอาดครัวก่อน”
ว่าจบก็ยกมือหนาขึ้นยีหัวเธอเล่นอย่างเอ็นดู และนิรดาก็ไม่รอให้เขาบอกซ้ำ เธอรีบเบี่ยงกายหนีจากมือหนาแล้ววิ่งจ้ำอ้าวขึ้นบันไดไปโดยไม่เหลียวหลังทันทีพร้อมกับหัวใจที่เต้นตุบๆ รัวแรง...