ตอนที่ 6

1455 Words
ตอนที่ 6 “ฉะ...ฉันขอร้อง” ปัณฑารีย์กลั้นสะอึกสะอื้นและบอกชายหนุ่มเสียงสั่น พลางพยายามปัดมือที่ไล้ไปตามร่างกาย ด้วยกลัวอารมณ์แปลกๆ เพิ่งจะผ่านพ้นไปเมื่อครู่นี้ “หือ...ขอร้อง แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอสั่งนะ” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย “แต่ไม่เป็นไรคราวนี้ฉันยอมให้ก็ได้ แต่ถ้ามีครั้งต่อไป เธอต้องถูกลงโทษ ในทุกเรื่องที่เธอทำให้ฉันไม่พอใจ” ฮัมดีนก้มลงไปจนลมหายใจเป่ารดผิวแก้มนุ่ม “เพราะฉันชักจะติดใจวิธีการลงโทษเสียแล้วสิ” ฮัมดีนยื่นมือไปคว้าเสื้อผ้าที่กองอยู่ใกล้ตัวเขามาส่งให้ปัณฑารีย์ “อ๋อ...เกือบลืมไป ต่อไปให้เธอแทนตัวเองว่าปั้นหยากับฉันด้วย” ชายหนุ่มก้มหน้าไปจุมพิตเรียวปากอวบอิ่มที่สั่นระริกอยู่แล้วลุกขึ้นเดิน แต่ไม่วายส่งคำพูดลอยลมไปให้ปัณฑารีย์สะดุ้งกลัวอีกครั้ง “ฉันให้เวลาเธอล้างหน้าแต่งตัวสิบนาทีนะปั้นหยา ถ้าช้าไปกว่านั้น ฉันจะลากเธอออกไปทานอาหารเย็นทั้งที่เธอมีเพียงแค่ไอ้สองชิ้นอยู่บนตัว” ปัณฑารีย์ถึงกับสั่นเพราะน้ำเสียงที่ดุร้ายและแข็งกร้าว ก่อนประตูจะปิดลง เธอรีบวิ่งไปที่ประตูห้องและกดล็อกอย่างเร็วทั้งที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์ เพราะคนที่ข่มขู่เธอมีกุญแจเข้าออก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ปัณฑารีย์รีบคว้าเสื้อผ้าทุกชิ้นที่กองอยู่บนพื้นพาเข้าห้องน้ำ รีบแต่งตัวให้เสร็จก่อนที่คนใจร้ายจะเข้ามาทำอย่างที่ปากพูด เธอเปิดน้ำจากก๊อกรับมาล้างหน้าลบคราบเปรอะเปื้อนบนใบหน้าที่ยังคงมีสัมผัสที่ร้อนผ่าวลามเลียอยู่ทั่วร่างทั้งที่คนทำนั้นไม่ได้อยู่ด้วย แต่ไม่ว่าเธอจะล้างยังไง เช็ดเท่าไหร่ สิ่งที่ฮัมดีนทำไว้ก็ล้างออกได้เพียงแค่ภายนอกเท่านั้น แต่สัมผัสที่ได้รับมันฝังอยู่ในความรู้สึก ลบออกไม่ได้เลย น้ำตาเอ่อล้นพร้อมกับร่างบางที่ทรุดกองกับพื้นห้องน้ำ ก๊อก ก๊อก “เธอจะอยู่ในห้องน้ำอีกนานไหมปั้นหยา ฉันหิวแล้วน่ะ หรือจะให้ฉันกินเธอแทนอาหารเย็น ก็ได้น่ะ ประตูแค่นี้ กั้นฉันไม่ได้หรอก” “ค่ะ ค่ะ ฉัน...เออ...ปั้นหยาเสร็จแล้วค่ะ” ปัณฑารีย์รีบบอก เธอยกมือขึ้นรับน้ำมาล้างหน้าใหม่และเช็ดจนสะอาด จึงเปิดประตูออกไป “ชักช้า เสียเวลา” ฮัมดีนบ่นพลางจับแขนเล็กลากให้เดินตามไปอย่างแรง โดยไม่สนใจว่าคนที่ถูกลากไป ฮัมดีนเผลอลงแรงบีบแขนเรียวเต็มแรง ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่เขายังหาคำตอบให้กับใจตัวเองไม่ได้ ตอนนี้จึงทำได้เพียงแค่โยนความผิดทุกอย่างให้กับปัณฑารีย์ที่เดินตามเขาอย่างทุลักทุเล แสงแดดยามเย็นใกล้ตะวันจะตกดินยังคงร้อนไม่ผิดแผกจากตอนเที่ยงของวัน แต่อูฐตัวใหญ่ยังคงเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ยอมหยุด ทะเลทรายเบื้องหน้าช่างอ้างว้างเดียวดายจนปัณฑารีย์ตัวสั่น ด้วยความกลัวและเหงาเศร้า ภายในใจกำลังร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดจากน้ำมือของคนหลายๆ คนที่ร่วมกันก่อขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง ฮัมดีน อิลลา ซยานีน ที่ทำให้เธอโกรธและอับอาย แต่เธอก็ต้านทานความต้องการของเขาไม่ได้ อีกคนก็คือบิดาที่เธอไม่เคยเห็นหน้า มีเพียงแค่ภาพวาดลายเส้นจางๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในสมุดบันทึกของแม่เพียงแค่ภาพเดียว ชายที่ทอดทิ้งให้เธอต้องอยู่กับแม่ตามลำพังด้วยความปวดร้าวและโหยหา ร่างบางโยกไหวไปตามแรงก้าวของอูฐ ลมร้อนพัดเอาทรายหยาบปลิวไหว ยังไม่เท่ากับความร้อนในร่างกาย เพราะด้านหลังของเธอเป็นอกกว้างแข็งแกร่ง ที่ให้ทั้งความอบอุ่นและเร่าร้อนดุจไฟในเวลาเดียวกัน แล้วยังจะมีมือแข็งดุจคีบเหล็กที่ทับอยู่บนมือเล็กกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดลำคอระหง เหงื่อไหลซึมเต็มใบหน้ารูปไข่และลำตัวบอบบาง ผ้าเนื้อหนาที่เธอสวมใส่อยู่ ถึงจะปกป้องเธอจากฝุ่นทรายและกระไอร้อนของทะเลทรายได้ แต่ป้องกันมือใหญ่ที่คอยลวนลามอยู่ไม่ได้เลย อากาศร้อนทำให้เหงื่อปัณฑารีย์ไหลออกมาเหมือนกับอาบน้ำ ยิ่งทำให้ผ้าเนื้อหนาแนบชิดไปกับกายบอบบางมากขึ้น กระตุ้นอารมณ์ฮันดีนให้ลวนลามเธอหนักขึ้น แล้วฮัมดีนก็ไม่ได้ให้ความสนใจอีกหลายคนที่ร่วมเดินทางมาด้วยเลยสักนิด ที่สำคัญคือเขาไม่สนใจเลยว่าเธอจะอับอายและด้อยค่าแค่ไหน ริมฝีปากหนาแนบลงไปบนลำคอระหง นิ้วก็ลูบไล้หลังมือนุ่ม ทั้งที่ยังมีผ้าเนื้อหนาคลุมกายอยู่ แต่ความร้อนจากกายใหญ่ยังแทรกซึมผ่านกายบางเข้าไปถึงหัวใจปัณฑารีย์ส่วนที่ลึกที่สุดอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้หญิงสาวไม่ได้กลัวฮัมดีนแล้ว แต่เธอกำลังกลัวตัวเอง ที่พร้อมที่จะกระโดดเข้าไปในดินแดนต้องห้าม อย่างไม่เกรงกลัวขวากหนามหรืออันตรายอะไรเลย ปัณฑารีย์พยายามดึงตัวหนีจมูกโด่ง “ปล่อยปั้นหยาน่ะคุณฮัมดีน” “เธอจะหวงเนื้อหวงตัวไปทำไมปั้นหยา ก็แค่แตะนิดแตะหน่อย มันไม่ได้เสียหายถึงอะไรมากไม่ใช่หรือไง แล้วขนาดรูปร่างของเธอ ฉันก็เห็นมาหมดแล้ว จะหวงไว้ทำไมอีก” ปัณฑารีย์สะอึก คำพูดของฮัมดีดูถูกเธอเหลือเกิน น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้า แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมให้ไหลออกมาให้ชายหนุ่มเห็นแล้วก็สะใจและสมน้ำหน้าเหมือนดังเช่นที่เป็นมา รอยยิ้มยันแต้มใบหน้านวล ขบเม้มริมฝีปากอิ่ม สะกดอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจ เสียใจและเศร้าหมองทิ้งไป พลางสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรง รวบเอาความกล้าที่มีน้อยนิดมาใช้ “ปั้นหยาไม่ใช่ผู้หญิงหน้าหนาอย่างคุณ แล้วก็อายกับพฤติกรรมของคุณ ที่ดูถูกดูแคลนผู้หญิงที่เป็นเพศเดียวกับผู้ให้กำเนิดของคุณด้วยคุณฮัมดีน” “เหรอ...ปากกล้าแบบนี้ ไม่กลัวถูกฉันลงโทษเอาหรือไง” “กลัวค่ะ กลัวจะถูกหมาบ้าอย่างคุณกัดเอาเหมือนกันจะแย่อยู่แล้ว” ฮึ! ฮัมดีนหัวเราะในลำคอ พลางรัดร่างเล็กที่พยายามจะขัดขืนเข้ามาแนบชิด “เธอนี่มัน...ฤทธิ์มากและปากดีจริงนะปั้นหยา แต่ก็ดี เพราะกว่าจะถึงบ้าน ฉันคงจะ…” “นายครับ” ฮัมดีนพูดไม่ทันจบก็ถูกยูซร็อบขัดจังหวะเสียก่อน ชายหนุ่มเลิกคิ้วหันไปมองบอร์ดี้การ์ดคู่ใจอย่างไม่สบอารมณ์ ยูซาร็อบมองสีหน้านายหนุ่มออก “ขอโทษครับ แต่วันนี้ก็ใกล้จะค่ำแล้ว เราควรที่จะหาที่พักได้แล้ว คุณ...คุณปั้นหยาจะได้พักผ่อนด้วย” ยูซาร็อบให้รู้สึกสงสารปัณฑารีย์เป็นที่สุด ไม่รู้เคราะห์กรรมอันใดที่ทำให้หญิงสาวต้องกลายไปเป็นนางบำเรอของฮัมดาน อิลลา ซยานีน แล้วยังต้องผจญกับโทสะของฮัมดีนผู้เป็นลูกชายอีก หญิงสาวยังต้องเดินทางกลางทะเลทรายอีกเป็นเวลาแรมเดือนอีก ความจริงแล้ว ซาไบนาซัสอยู่ห่างจากประเทศอิหร่านไม่มาก ถ้านั่งรถก็เพียงแค่ครึ่งค่อนวันถึงหนึ่งวันก็ถึง ถ้าเดินทางโดยใช้สัตว์ ไม่ถึงสองวันก็ถึง แต่ถ้าคนไม่ชำนาญทาง ก็อาจจะเพิ่มระยะเวลาอีกเล็กน้อย แต่ก็ไม่น่าจะเกินสามวันด้วยซ้ำ แต่ฮัมดีนกลับทำให้การเดินทางยาวเป็นแรมเดือน “อืม” ฮัมดีนพยักหน้ารับ “นายนำไปยังที่พักละกัน” “ครับ” ยูซาร็อบรับคำและนำทางไปยังที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกล ปัณฑารีย์โล่งใจและดีใจขึ้นมาเล็กน้อย ในที่สุดเธอก็จะได้พักคลายร้อน เหน็ดเหนื่อยและเมื่อยล้าจากการเดินทางรอนแรมในทะเลทรายอันร้อนระอุ จากความทรมานที่ต้องนั่งอยู่บนเจ้าสัตว์ตัวใหญ่ที่เดินทางไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเสียที ที่สำคัญคือเธอกำลังจะหลุดจากอ้อมแขนแกร่งที่สร้างทั้งความหวาดกลัวและอบอุ่นให้ในคราวเดียวกัน แล้วก็ยังจะดึงเอาหัวใจของเธอไปจากร่างกายอย่างเชื่องช้าด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD