“เอามาจ่ายพร้อมกัน… ลุงจ่ายให้… ”
ภูผาช่วยหยิบของในตะกร้ามาวางรวมกันไว้ใกล้เคาน์เตอร์เบื้องหน้าแคชเชียร์
“อุ๊ย… เดี๋ยวหนูหยิบเองค่ะ… ”
อัยยารู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย ตอนที่เขาช่วยหยิบจับของในตะกร้าออกมาวาง โดยเฉพาะเสื้อชั้นในของหล่อน
“ไม่เป็นไร… ”
ภูผากล่าวอย่างไม่ถือสา…
เขาวางเสื้อชั้นในสำหรับสาวคัพอีเต้าใหญ่ทรงโตลงตรงหน้าแคชเชียร์ หยิบบัตรเครดิตในกระเป๋าสตางค์ออกมายื่นให้แคชเชียร์รูด ยื่นรอเซ็นชื่ออยู่ครู่สั้นๆ หิ้วของที่ซื้อพากันเดินออกมาจากห้าง
“หนูมีเงินใช้ไหมจ๊ะ… ”
ภูผาถาม
“ค่ะ… คุณแม่จะโอนมาให้ตอนสิ้นเดือนค่ะ”
อัยยาตอบตามตรง คนที่อยู่ในวันเรียนอย่างหล่อนยังต้องพึ่งพาเงินจากทางบ้านเป็นธรรมดา และอัยยารู้ว่านี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ลินดาแม่ของหล่อนมองหาแต่ผู้ชายรวยๆ
“งั้นเอาใบนี้ไว้ใช้… จะใช้เท่าไรก็ตามใจ”
ภูผาดึงบัตรเครดิตอีกใบออกมาจากกระเป๋าสตางค์ ยื่นให้อัยยา กล่าวอย่างผู้ชายสายเปย์ใจถึง
“อุ๊ย… ไม่ได้หรอกค่ะ หนูไม่กล้ารบกวนคุณลุง”
ยัยยาตกใจ
“ไม่เป็นไร… ลุงอยากช่วย”
ภูผาอยากให้
“ไม่เป็นไรค่ะ… หนูไม่รู้ว่าถ้าใช้แล้วเมื่อไรจะได้ใช้เงินคืนคุณลุง”
“ไม่เป็นไร… ไม่ต้องใช้คืน เอาเป็นว่าลุงเต็มใจให้นะคะ… ”
ภูผายังยืนยันเจตนาเดิม สุดท้ายหญิงสาวจำต้องรับเอาไว้
“ขอบคุณค่ะ… คุณลุงใจดีจัง”
“ไม่เป็นไร… เรื่องค่าเทอมก็เหมือนกัน ลุงจะจ่ายให้จนกว่าหนูจะเรียนจบ ต่อไปนี้หนูไม่ต้องไปรบกวนแม่… ”
“อะไรนะคะ… ”
อัยยาตกใจ นี่หล่อนต้องมาเป็นภาระของเขาถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“ก็อย่างที่ได้ยิน… ลุงคุยกับไอ้เขตต์พ่อหนูแล้วว่าช่วยเหลือเรื่องเรียนของหนูจนกว่าจะเรียนจบ”
ภูผาบอกในสิ่งที่สาวน้อยเพิ่งรู้
“ขอบคุณมากค่ะ… บุญคุณนี้หนูจะไม่ลืม”
อัยยาพระพุ่มมือไหว้ กราบลงแทบอกของภูผา ทำเอาเจ้าของไร่กาแฟใจเต้นแรง เมื่อร่างนุ่มนิ่มของสาวน้อยเบียดกายเข้ามาชิดใกล้จนได้กลิ่นหอมจากเรือนกายของหล่อน
อีกสัปดาห์ต่อมา
ตอนค่ำ สองทุ่มกว่าๆ เสียงร้องของหญิงสาวที่ดังออกมาจากห้องครัว ทำเอาภูผาที่กำลังนั่งดูมวยอยู่หน้าจอทีวีภายในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ รีบวิ่งออกมาดูด้วยความตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“หนูอัยย์… ”
ภูผาอุทาน ตกใจจับภาพของเลือดสีแดงอาบอยู่ที่ปลายนิ้วกลางของมือทั้งสองข้าง
“เกิดอะไรขึ้น… ”
ภูผาก้าวยาวๆ เข้ามาหา คว้าทิชชู่มาซับเลือด
“หนูกำลังล้างถ้วยกาแฟค่ะคุณลุง… บังเอิญช้อนตกลงไปข้างซิงค์ล้างจานค่ะ หนูพยายามเอามือขยับซิงค์ออกมาเพื่อจะเอื้อมมือลงไปเก็บช้อน… ก็เลยโดนขอบซิงค์บาด”
สาวน้อยบอกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ทำให้ต้องเจ็บตัว ได้เลือดอย่างที่เห็น
“ขอลุงดูแผลนะคะ… ”
น้ำเสียงห่วงใย เขาจับมือหล่อนขึ้นมาตรวจรอยบาดแผล โล่งใจที่เห็นว่าแผลไม่ลึก เป็นรอยบาดถากๆ แต่ก็มากพอจะทำให้เสียเลือด
“คงไม่ต้องเย็บแผล… รอเดี๋ยวนะ… ”
ภูผาก้าวยาวๆ ไปยังตู้ยาข้างฝาผนัง เพียงอึดใจสั้นๆ ก็เดินกลับมาพร้อมกับยาแดงและอุปกรณ์ทำแผล
“ลุงทำแผลให้นะคะ… ”
เขาใช้ก้อนสำลีสีขาวชุบยาแดงค่อยๆ บรรจงเช็ดบาดแผลที่ปลายนิ้วทั้งสองข้างจนสะอาดสะอ้านแล้วฉีกแผ่นปลาสเตอร์ยาแปะทับ
“ขอบคุณค่ะคุณลุง”
สาวน้อยยกมือไหว้ รู้สึกประทับใจในความน่ารักของภูผา เขาช่างเอาใจใส่ ห่วงใยหล่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ… ดีนะที่แผลไม่ลึก ไม่งั้นคงต้องไปโรงพยาบาลให้หมอเย็บแผล… แล้วทีหลังก็ไม่ต้องล้างจานนะคะ งานพวกนี้ปล่อยให้คนใช้ทำ”
“ค่ะคุณลุง… ”
หญิงสาวรับคำ สาเหตุที่ต้องลงมือล้างถ้วยกาแฟเอง ก็เพราะเห็นว่าวันนี้ป้าศรีที่เป็นคนใช้อยู่ในบ้านของภูผามานานหลายปี วันนี้แกเพิ่งขอลากลับต่างจังหวัดไปอย่างกะทันหันเมื่อตอนเย็น กว่าจะกลับก็วันมะรืน
“เจ็บมากไหมคะ… ”
ภูผาเอามือลูบศีรษะหล่อนแสดงความรักใคร่เอ็นดู
“ยังเจ็บนิดๆ ค่ะ… ”
อัยยาตอบ
ในเวลาต่อมา
เมื่อถึงเวลาต้องแยกย้ายกันขึ้นมายังห้องนอนที่อยู่บนชั้นสองของบ้านหลังใหญ่ ถึงเวลาที่อัยยาต้องอาบน้ำ
สาวน้อยถอดเสื้อผ้าพาดไว้กับราวแขวนสีเงินริมผนัง หลังจากหาถุงพลาสติกมาสวมมือทั้งสองข้างเพื่อไม่ให้บาดแผลโดนน้ำ จึงเป็นเหตุให้เกิดความทุลักทุเลเล็กน้อย บังเอิญมือข้างหนึ่งพลาดไปโดนถ้วยวางสบู่ใต้ฝักบัว
“ว้าย… ”
เพล้ง…
เสียงถ้วยเซรามิกแตกกระทบพื้นเสียงดังไปถึงห้องนอนของภูผา
“หนูอัยย์… ”
คนที่กำลังนั่งจิบเบียร์ดูทีวีอยู่อีกห้อง ผุดลุกขึ้นจากเตียงนอนในสภาพที่สวมเสื้อคลุมอาบน้ำ รีบออกมาเคาะประตูห้อง ร้องถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“หนูอัยย์… เสียงอะไร… เกิดอะไรขึ้น… ”
ภูผาทั้งเคาะทั้งเรียก
“หนูซุ่มซ่ามค่ะคุณลุง กำลังจะอาบน้ำ บังเอิญทำที่วางสบู่ตกแตกค่ะ”
อัยยาบอกถึงที่มาของเสียงเมื่อครู่ เปิดประตูออกมาในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวกระโจมอก
“โถ… แม่คุณ ก็มือเจ็บอย่างนี้… คงอาบน้ำไม่ถนัดสินะ… เอางี้ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ลุงคิดว่าคงต้องช่วยอาบน้ำให้หนูจะดีกว่า”
ภูผารีบสรุป สายตาแทบไม่ละจากเรือนร่างสุดเย้ายวนของอัยยา หล่อนสวยมาก ผิวพรรณขาวผ่องทำเอาคนมองใจเต้นระส่ำ
“ห๊ะ… อะไรนะคะ”
จะอาบน้ำให้? อัยยาตกใจ นึกว่าตัวเองหูฝาด
“เดี๋ยวลุงอาบน้ำให้นะจ๊ะ… แผลที่มือสองข้างจะได้ไม่โดนน้ำ”
โดยไม่รอฟังคำตอบ…
ภูผาจูงมือสาวน้อยเข้ามาในห้องน้ำทั้งที่สีหน้าของหล่อนยังตะลึงกับคำพูดที่ได้ยิน
“ถอดผ้าขนหนูออก… ไม่ต้องอายลุงนะจ๊ะ… หนูหันหน้าเข้าหาผนัง หันหลังออกมาหาลุง… ”