ร่างบางปลีกตัวออกมาจากห้อง โดยมีสายตาของธีภพและธาวินมองตามหลังอย่างนึกสงสัย ธาวินขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย ทำไมใบหน้าของเธอถึงดูเศร้าหมองขนาดนี้
วรารีเดินอย่างเหม่อลอยก่อนจะปล่อยตัวนั่งลงบนม้าหินตรงสวนหลังบ้าน ร่างบางยกมือขึ้นมากอดอกพลางหลับตาพริ้มอย่างเหนื่อยล้า ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ป่านนี้ที่อเมริกาจะเป็นยังไงบ้าง คนที่นู่นจะคิดถึงเธอบ้างไหม หรือกำลังเลี้ยงฉลองกับการมีสมาชิกคนใหม่ในครอบครัว
ย้อนไปเมื่อตอนที่หญิงสาวกำลังเรียนปริญญาโท เธอได้เจอกับ ‘ชาร์จ’ ซึ่งเป็นหนุ่มอเมริกัน เขาเรียนที่เดียวกันกับเธอ ทั้งคู่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน แถมที่พักยังใกล้กันอีกต่างหาก ชาร์จย้ายมาอยู่คนเดียวตั้งแต่เรียนเกรด10 (เทียบกับประเทศไทยคือมัธยมศึกษาปีที่ 4) ซึ่งตอนที่เขาเจอกับวรารีได้ชวนเธอมาแชร์ค่าห้องพักด้วยกัน เนื่องจากเธอเล่าให้เขาฟังว่ามีปัญหากับรูมเมทที่ค่อนข้างจะเป็นคนอารมณ์ร้อน วรารีไม่ได้ตอบตกลงคำชวนของชาร์จในทันที แต่เมื่อเธอทนรูมเมทคนนั้นไม่ไหว จึงได้เลือกมาอยู่กับเขาเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายอีกทางหนึ่ง เพราะถ้าย้ายมาอยู่คนเดียวก็จะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก
ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งตอนนั้นชาร์จก็กำลังมีปัญหากับคนรัก จนกระทั่งเขาได้เลิกกับแฟนสาวในที่สุด ต่อมาวรารีได้ลองเปิดโอกาสให้เขา เพราะชาร์จแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าเขามีใจให้เธอไม่น้อย ทั้งคู่เปลี่ยนสถานะจากรูมเมทมาเป็นคนรู้ใจ ทุกอย่างมันลงตัว เธอกับเขาเข้ากันได้ดีแถมยังคุยกันถูกคอ น้อยครั้งมากที่เราจะทะเลาะกัน และไม่มีปัญหาอะไรที่จะทำให้เธอกับเขารักกันน้อยลง ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ค่อยๆ พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงขั้นที่เธอยอมมอบกายและใจให้เขา และเมื่อวานนี้เองที่เขาขอเธอแต่งงาน
ถ้าทุกอย่างมันดำเนินไปอย่างที่คิดก็คงดี ป่านนี้เธอคงเตรียมตัวลองชุดเจ้าสาวอย่างมีความสุข แต่ทุกอย่างกลับพังทลายไม่มีชิ้นดี
ครืดดด..
ร่างบางถึงกับสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์แจ้งเตือนข้อความนับร้อยข้อความ สายเรียกเข้ามากกว่า 50 สาย ซึ่งคนที่พยายามติดต่อเธอนั้นก็คือชาร์จนั่นเอง นิ้วเรียวปัดหน้าจอโทรศัพท์อ่านข้อความทั้งหมดพลางถอนหายใจ ทุกตัวอักษรที่เขาส่งมามันมีผลมากมายกับใจที่แสนบอบบางของเธอเหลือเกิน
‘Please come back (โปรดกลับมา)’ หยดน้ำใสๆ รื้นขึ้นขอบตาทันทีที่หญิงสาวได้เห็นข้อความสุดท้ายจากคนรักเก่า มันเป็นประโยคที่บาดลึกเข้าถึงขั้วหัวใจ เธอตัดสินใจที่จะเดินออกมาแล้ว เธอต้องทำให้ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นมือเล็กก็แกะซิมโทรศัพท์ออกมาจากเครื่อง พอเหลือบไปเห็นหลุมดินที่ขุดไว้สำหรับปลูกต้นไม้ เธอจึงนำมันไปวางแหมะไว้ในหลุม ก่อนจะปาดน้ำตาพร้อมกับบอกประโยคสุดท้ายให้กับเขา
“Leave me alone (ให้ฉันอยู่คนเดียวเถอะนะ)”
“Forget your past, forgive yourself and begin again. (ลืมอดีตคุณไป ให้อภัยตัวเอง และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง)” ธาวินพูดขึ้นพร้อมกับนำต้นไม้มาวางไว้ในหลุม จากนั้นมือหนาก็กวาดดินที่อยู่รอบๆ มากลบไว้
วรารีมองคนที่กำลังนั่งยองๆ อยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ เขากำลังปลูกต้นไม้ลงในหลุมที่เธอทิ้งบางสิ่งบางอย่างลงไป
“รดน้ำ เฝ้าดูแล แล้วต้นไม้จะเติบโต” ธาวินพูดด้วยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เขาไม่รู้หรอกว่าหญิงสาวได้ผ่านเหตุการณ์อะไรมาบ้าง เขาแค่อยากพูดบางประโยคเพื่อสร้างสัมพันธภาพอันดีกับคนที่เขากำลังจะร่วมงานด้วยก็เท่านั้นเอง
“ขอบคุณนะคะ” วรารียิ้มให้กับธาวิน แม้การพบกันครั้งแรกระหว่างเธอและเขาจะไม่ค่อยดีนัก แต่ประโยคที่ออกจากปากชายหนุ่มเมื่อครู่นั้นทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ
“ครับ ถ้าคุณซื้อซิมใหม่แล้วโทรมาหาผมด้วยนะครับ” เขายื่นนามบัตรให้เธอ ก่อนที่วรารีจะรับมาอย่างงงๆ ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยถาม ธาวินก็เอ่ยพูดขึ้น “พรุ่งนี้ ตอนสิบโมงเช้าผมอยากนัดคุยงานกับคุณ อย่าลืมโทรมาด้วยนะครับ” พูดจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน
วรารีแหงนหน้ามองคนตรงหน้าอย่างเงียบๆ เธอเพิ่งได้มองธาวินอย่างตั้งใจเป็นครั้งแรก เขาเป็นคนที่สูงราวๆ 185 เซนติเมตร หุ่นแบบนักกีฬา แต่งตัวคลุมโทนสีดำอย่างมีสไตล์ ราวกับมีนายแบบหลุดออกมาจากนิตรสารแฟชั่นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“เรียกฉันว่าพิมก็ได้ค่ะ ฉันน่าจะเด็กกว่าคุณ” ร่างบางยืนขึ้น ความสูงของเธออยู่ในระดับบ่าของเขาเท่านั้น วรารีแอบนึกในใจ ท่าทางธาวินคงเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์และเจ้าชู้มากแน่ๆ แต่ก็ไม่แปลกเพราะเขาออกจะหล่อขนาดนี้
“ครับ พิม” ปากหยักสวยกระตุกยิ้มนิดๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ความมืดเข้ามาเยือนอีกครั้ง วรารีนั่งกอดเข่าอย่างเดียวดายอยู่บนเตียงใหญ่ หยดน้ำใสๆ รื้นขอบตาทุกทีเมื่อนึกถึงคนรักเก่า ป่านนี้ชาร์จจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตอนนี้เขาก็มีคนรักแล้ว แถมยังมีลูกน้อยที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวอีกด้วย ป่านนี้เขาคงกำลังมีความสุขอยู่ก็ได้ คงไม่เหมือนเธอในตอนนี้ มือเล็กยกขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบาๆ ราวกับสั่งให้สมองเลิกคิดถึงอีกฝ่ายสักที
หญิงสาวพยายามย้ำกับตัวเองอยู่ในใจว่าสิ่งที่เธอได้ตัดสินใจนั้นมันถูกแล้ว มันยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่สุดแล้วจริงๆถึงชาร์จจะบอกว่าไม่ได้รักแฟนเก่าของเขาแล้ว แต่สายตาที่แฝงไปด้วยความห่วงใยเมื่อเขามองคนรักเก่า มันกลับคอยทิ่มแทงหัวใจเธอจนเจ็บปวด ถ้าปัญหามีแค่แฟนเก่าของเขาท้อง วรารีอาจจะยอมรับได้ แต่นี่เหมือนกับถ่านไฟเก่ามันกำลังจะคุอีกครั้ง ใครจะทนไหว…