บทนำ
“ไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง”
วรารีพึมพำกับตัวเองเบาๆ พลางกวาดสายตามองรอบกาย หญิงสาวอยู่ในชุดลำลองเสื้อแขนยาวสีขาวตัวใหญ่คลุมเกือบถึงหัวเข่า บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าเธอเพิ่งจะกลับมาจากเมืองหนาว ร่างบางยืนนิ่งงันอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนมากมายที่สนามบิน ที่นั่นมีทั้งรอยยิ้มของคนที่เฝ้ารอใครบางคนกลับมา และมีทั้งคราบน้ำตาของความเสียใจสำหรับคนที่กำลังจะจากไปไกล ซึ่งเธอเองก็เป็นเช่นเดียวกับพวกเขาที่เพิ่งจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่ไปเรียนต่อที่อเมริกามาหลายปี แต่เธอต่างกับคนอื่นตรงที่...การจากมาของเธอนั้นไม่ได้สร้างน้ำตาให้กับใคร
‘พิม’ หรือ ‘วรารี’ หญิงสาววัย 25 ปี เธอเป็นคนสุภาพอ่อนโยน บุคลิกดี หน้าตาสะสวยแบบสาวไทย ปากนิด จมูกหน่อย ดวงตากลมโตบวกกับนัยน์ตาสีดำสนิทของหญิงสาว หากใครเผลอมองคงยากที่จะไม่รู้สึกถึงเสน่ห์ที่เหมือนจะธรรมดา แต่ทว่ามันกลับน่าค้นหาชอบกล แถมยังมีผิวสีน้ำผึ้งที่แลดูสุขภาพดี เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สูงหรือเตี้ย ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป รวมๆ แล้วก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่ชายหนุ่มหลายคนปรารถนาที่จะได้ครอบครอง
“พิม” หญิงสาวหันหน้าตามเสียงเรียกชื่อเล่นของเธอ เจ้าของเสียงทุ้มนั้นคือพี่ชายแท้ๆ ของเธอเอง
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ” พูดจบพี่ชายก็หยิบกระเป๋าใบใหญ่ของน้องสาวนำไปเก็บไว้ในรถยนต์ส่วนตัว จากนั้นก็เดินกลับมาด้วยรอยยิ้ม มือโอบไหล่พาร่างบางที่ไร้เรี่ยวแรงขึ้นไปบนรถและออกเดินทาง
‘จริงสิ ฉันยังมีพี่ชายที่แสนดีเหลืออยู่ ฉันยังมีค่าสำหรับเขา’ วรารีคิดในใจ มือสองข้างกุมกันแน่นเมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกจุกที่อกขึ้นมา นั่นเพราะมีบางเรื่องแวบเข้ามาในหัวของเธอ มันคือสิ่งที่ทำให้เธอจำต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง
“ไม่สบายรึเปล่า ก่อนไปอเมริกาเราดูมีน้ำมีนวลกว่านี้นะ” ธีภพเอ่ยถามน้องสาวด้วยความห่วงใย
‘ธีภพ’ ชายหนุ่มวัย 30 ปี มีชื่อเล่นว่าตะวัน เขาเป็นนักธุรกิจที่ถือว่าประสบความสำเร็จจนสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวเองขึ้นมาได้จากฐานะปานกลาง จนตอนนี้เขาเป็นคนที่มีฐานะค่อนข้างดี เป็นคนที่สุขุมนุ่มลึก ใบหน้าหล่อเหลาเอาการ และเป็นผู้ชายที่เข้มแข็งมากคนหนึ่งที่สามารถเลี้ยงน้องสาวให้เติบโตมาได้หลังจากพ่อแม่เสียไปแล้ว ทั้งครอบครัวเหลือแค่พวกเขาสองคนพี่น้องเท่านั้น
“แค่เรียนหนักไปหน่อยน่ะพี่ตะวัน ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ” วรารีตอบยิ้มๆ เพื่อให้พี่ชายสบายใจ ความจริงแล้วร่างกายเธอไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด แต่ใจเธอต่างหากที่มันกำลังเจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
วรารีเป็นเด็กนักเรียนดีสามารถสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกาได้ เธอกลับมาพร้อมกับความสำเร็จด้านการศึกษา มันน่าดีใจใช่ไหม? แต่ไม่เลย เธอไม่ได้ดีใจกับความสำเร็จของตัวเองแม้แต่น้อย การไปเรียนครั้งนี้มันได้สร้างความทุกข์ทรมานใจให้เธอเหลือเกิน
ในระหว่างเรียนเธอได้พบรักกับเพื่อนที่เป็นชาวอเมริกันแท้ๆ เขาเป็นคนดีและรักเธอมาก จนเธอยอมใจอ่อนมอบให้เข้าไปทั้งตัวและใจ แม้ว่าเราจะคบกันแค่ระยะเวลาครึ่งปี แต่ว่ามันเป็นการคบหาที่จริงจัง พวกเราวางแผนว่าจะแต่งงานกันในอนาคต เธอจะได้เป็นเจ้าสาวสวมชุดแต่งงานในคืนที่ใครๆ ต่างก็อิจฉา ทุกอย่างมันควรจะเป็นแบบนั้นหากไม่มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นมาเสียก่อน
“บ้านของเราเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะ” หลังจากมาถึงวรารีก็เดินสำรวจไปรอบๆ บ้านด้วยความคิดถึง และก็ต้องประหลาดใจที่บ้านของเธอดูต่างไปจากเดิม เพราะก่อนที่จะไปอเมริกาบ้านของเธอดูเก่ากว่านี้
“พี่ทาสีใหม่แล้วก็เอาต้นไม้มาปลูกเพิ่ม เป็นไงดูดีขึ้นไหม?”
“แน่นอนค่ะ มันสวยขึ้นเยอะ หรือว่าพี่กำลังจะมีข่าวดีถึงได้ทำอะไรแบบนี้คะ”
“รู้ทันพี่ตลอดเลยนะเรา” ธีภพยิ้มเขินๆ เมื่อน้องสาวรู้ทัน ตอนนี้เขากำลังวางแผนแต่งงานกับคนรักที่คบหาดูใจกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ในวันนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะได้ใช้ชีวิตคู่กับแฟนสาวในฐานะสามีภรรยากันสักที
“ยินดีด้วยนะคะ พิมเอาของไปเก็บก่อนนะพี่ตะวัน” ร่างบางหอบของพะรุงพะรังโดยไม่ให้พี่ชายช่วย เพราะมันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร และเธอก็เหนื่อยที่จะสนทนาต่อ ขอตัวไปนอนพักให้หายเหนื่อยก่อนก็แล้วกัน
มือเล็กเปิดประตูห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะวางของทั้งหมดไว้ที่พื้นห้องแล้วทิ้งตัวลงเตียงนุ่มด้วยความเหนื่อยล้า นอนได้ไม่ถึงสามนาทีร่างบางก็ต้องลุกขึ้นมาจากที่นอนทันที เมื่อท้องไส้เริ่มปั่นป่วน มาปวดอะไรตอนนี้คนจะนอนพักสักหน่อย วรารีเดินตรงไปยังห้องน้ำก่อนจะพบว่าประตูห้องน้ำล็อคอยู่ หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น ประตูห้องน้ำจะล็อคได้ยังไงในเมื่อห้องนี้เป็นห้องของเธอ วรารีพยายามบิดลูกบิดถี่ๆ ด้วยความที่ปวดท้องจวนจะราดอยู่ตรงนี้
วินาทีต่อมาประตูห้องน้ำพลันเปิดออกมาอย่างกะทันหันจากข้างใน ด้านวรารีที่ปวดหนักอยู่แล้วถึงกับลืมว่าตัวเองอยากจะเข้าห้องน้ำ ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเปลือยท่อนบน มีเพียงผ้าขนหนูตัวบางปิดท่อนล่างยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ผมสีน้ำตาลของเขาถูกชโลมไปด้วยน้ำ รวมถึงท่อนบนของเขาที่มีน้ำเกาะอยู่ตามผิวขาวนวลและไหลลงไปตามตัวตามแรงโน้มถ่วง บวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูฟุ้งอยู่ตรงหน้า เล่นเอาวรารีถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง
“คุณเป็นใครคะ?” เธอร้องตวาดใส่เขา ทว่าชายหนุ่มคนนั้นกลับหาได้สนใจเธอไม่ เขาเพียงหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในห้องน้ำมาเช็ดผมตัวเองเบาๆ แถมยังเดินออกมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอราวกับเป็นห้องของตัวเอง
“ว้ายยย!” วรารีร้องลั่นเมื่อเห็นว่าปมผ้าขนหนูที่ผูกเหมือนไม่ตั้งใจผูกของอีกฝ่ายกำลังจะหลุดลงมา ด้วยสัญชาตญาณบวกกับความตกใจทำให้หญิงสาวรีบคว้าปมผ้าขนหนูนั้นเอาไว้แน่น จนลืมนึกไปว่าปมนั้นมันอยู่ไม่ห่างจากของรักของหวงของฝ่ายชาย ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนกำลังถูกจู่โจมเข้าอย่างจัง
“กล้าดี ชอบครับ” ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้าย ก่อนจะปล่อยมือจากผ้าขนหนูแล้วค่อยๆ เลื่อนมือมาจับมือเล็กของหญิงสาวแทน เขาเผลอเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียวซ่าน เลือดในกายพลันสูบฉีดในทันที เพราะจุดที่เธอวางมืออยู่นั้นมันช่างอันตรายต่อเขาไม่น้อยเลยทีเดียว