คฤหาสน์ครอบครัว ไพศาลสืบสกุล
ภูดิษฐ์ขับรถมาจอดหน้าคฤหาสน์ของเรือนหลังใหญ่ ของตระกูลไพศาลสืบสกุล ซึ่งมีคุณปู่อาศัยอยู่กับเขาและน้องชายในเรือนหลังนี้กันเพียง 3คนเท่านั้น ส่วนพ่อและแม่ของเขาอาศัยอยู่อีกเรือนทางด้านหลังของคฤหาสน์
ผมเดินลงมาจากรถแล้วก็มองไปรอบๆบริเวณบ้านเห็นดูเงียบสงัดไม่มีคน จึงยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดูเวลา
"4ทุ่ม..อย่าบอกนะว่าหลับกันหมดแล้ว"
ผมเดินเข้ามาในบ้านอย่างเซ็งๆ เพราะกลับมาบ้านทีไรก็ทำให้รู้สึกเหมือนเดินเข้ามาในวัดทุกที ไม่มีอะไรสนุกๆให้ผมทำหรือรู้สึกอยากจะกลับมาบ้างเลย ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่อยากเจอหน้าผม ผมคงไม่กลับมาหรอก
แกร๊ก>>
ผมเงยหน้าขึ้นไปชั้นบนมองเห็นเหมือนใครคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากห้องคุณปู่ก็รู้สึกแปลกใจ เพราะนี่ก็ดึกมากแล้วจะมีใครเข้าไปในห้องคุณปู่ในเวลาแบบนี้กัน ผมจึงรีบวิ่งขึ้นไปดูแต่ก็ไม่เห็นตัวใครคนนั้นแล้ว
"ใครวะ หรือว่าจะเป็นไอ้นัย..?"
ผมคิดได้แบบนั้นจึงเดินไปที่ห้องหมอนัยน้องชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผมผมและก็เคาะประตูเรียก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"นัย..นัย..แกอยู่ในห้องหรือเปล่า..?"
"..."
ไม่มีเสียงตอบรับจากน้องชายผมเลย หรือว่ามันจะไม่อยู่ในห้อง
"หมอนัยไม่อยู่ในห้องหรอกค่ะ.."
"..."
ผมได้ยินเสียงใครคนหนึ่งที่พูดกับผมจึงหันไปมองก็เห็นเธอยืนอยู่หน้าห้องอีกฝั่งของห้องนอนคุณปู่
"หมอนัยมีเข้าเวรนะคะ น่าจะกลับเช้าเลย.."
"เธอที่เป็นพยาบาลของปู่ฉันใช่ไหม..?"
"ใช่ค่ะ.."
ผมมองหน้าเธอด้วยความอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ทั้งที่ตอนนี้ก็น่าจะเป็นเวลาเลิกงานของเธอแล้ว
"แล้วทำไมป่านนี้ถึงยังไม่กลับ..?"
"คือ.."
"ใส่ชุดนอนแบบนี้หมายความว่าอะไร..?"
ผมจำได้ว่าคนที่เดินออกมาจากห้องคุณปู่ผมใส่ชุดนอนแบบนี้
"นี่อย่าบอกนะว่าเธอไม่ได้ทำหน้าที่แค่เป็นนางพยาบาลอย่างเดียว แต่เธอทำหน้าที่อย่างอื่นด้วยงั้นหรอ.?"
"ไม่ใช่นะคะคุณภู..คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะ"
"นี่เธอคิดจะจับปู่ฉันหรอ..?"
"คุณภู..คุณดูถูกสาเกินไปแล้วนะคะ"
"แล้วดึกๆดื่นๆเธอเข้าไปทำอะไรในห้องปู่ฉัน เวลางานพยาบาลของเธอต้องทำทั้งวันทั้งคืนเลยหรือไง ถึงได้ไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่องตัวเองไป.."
"..."
นี่หรือปากคนไม่น่าใช่นะแบบนี้ ทำไมเขาไม่ฟังอะไรเลยเอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียวแล้วก็คิดเป็นตุเป็นตะไปคนเดียวนะ
"ผู้หญิงทุกคนก็หน้าเงินด้วยกันทั้งนั้น เห็นใครรวยหน่อยก็รีบจับไม่ปล่อย เธอเองก็ไม่ต่างกันใช่ไหมละ..ทำไมงานพยาบาลผู้ป่วยมันเงินน้อยไปหรือไง ถึงได้เอาตัวเข้าแลกให้กับปู่ฉันแบบนั้น.."
เพี๊ยะ..
เสียงฝ่ามือกระทบลงบนใบหน้าของภูดิษฐ์ฉาดใหญ่ จนเขาหน้าหัน ซึ่งทำให้เขาตกใจมากที่เธอกล้าทำกับเขาแบบนี้ เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตบหน้าเขาแแบบนี้เลยซักคน
"นี่เธอ.."
"ถ้าคุณพูดจาดูถูกหรือเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของความเป็นคนสามากกว่านี้สาจะแจ้งความจับคุณ ข้อหาหมิ่นประมาทและพูดจาให้ร้ายคนอื่นโดยที่ไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จนะคะ.."
"เธอกล้ามากนะที่กล้าตบหน้าฉัน."
"สาไม่คิดเลยนะคะว่าคนมีการศึกษาสูงอย่างคุณจะมองผู้หญิงทุกคนแบบนี้..น่าสงสารพ่อกับแม่คุณจริงๆที่ส่งเสียให้คุณเรียนจบมาสูงๆ.."
ปัง>>
เธอพูดจบก็รีบหันหลังเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที และเธอก็กล้ามากที่ปิดประตูใส่หน้าผมแบบนี้
"บ้า..ยัยผู้หญิงบ้า..เธอกล้ามากนะที่มาพูดกับฉันแบบนี้ ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องเลย..นี่..ยัยบ้า"
ปัง ปัง ปัง..
"สมน้ำหน้า.."
"คุณปู่.."
เขาที่กำลังยืนทะเลาะกับสริสาอยู่หน้าห้องก็ทำให้ปู่ของเขาได้ยินเสียงจนต้องลุกขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น และก็รู้สึกพอใจมากที่สริสากล้าสั่งสอนไอ้หลานไม่เอาไหนของเขาคนนี้
"เจ็บไหมละ..?"
"นี่ปู่เห็นหรอครับว่ายัยนั่นตบผมอะ ดีเลย ถ้าปู่เห็นแล้วปู่ต้องไล่ยัยนั่นออกนะครับ กล้าดียังไงมาตบหน้าผม."
ผมรีบเดินเข้าไปฟ้องปู่อย่างไว
"ก็สมควรโดนไม่ใช่หรือไง แกอยากไปพูดจาไม่ดีใส่หนูสาเขาก่อนทำไม.."
"แต่ยัยนั่นกำลังหลอกคุณปู่นะครับ ผมดูก็รู้ว่ายัยนั่นต้องการจะจับคุณปู่.."
ปู่ผมยกมือขึ้นมาทำท่าเหมือนจะตีผม ผมจึงรีบหลบอย่างไว
"อย่านะครับ.."
"ปากแกเนี่ยนะพูดไปเรื่อยจริงๆ"
"แล้วถ้าไม่ใช่อย่างที่ผมพูด แล้วมันอะไรละครับ.?"
"ฉันจะบอกกับทุกคนพรุ่งนี้เช้าพร้อมกันบนโต๊ะอาหาร แกก็อยู่ด้วยละอย่าเพิ่งรีบกลับ..เข้าใจไหม."
"คร๊าบบ.."
ปู่พูดจบก็เดินถือไม้เท้าเข้าไปในห้องนอนตัวเอง ผมหันกลับไปมองที่หน้าประตูห้องนอนของยัยนั่น ยกมือขึ้นมาลูบแก้มข้างที่โดนตบด้วยความเจ็บใจ
....
วันรุ่งขึ้น
บนโต๊ะอาหาร
"จะมีใครมาทานอาหารกับเราด้วยหรอคะคุณพ่อ ถึงจัดชุดจานเพิ่มอีกชุดแบบนั้น..?"
แม่ของหมออัศนัยถามผู้เป็นพ่อขึ้น เมื่อเห็นว่าชุดจานบนโต๊ะอาหารถูกจัดเพิ่มขึ้นมาอีกชุด
"วันนี้พ่อมีคนจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักอย่างเป็นทางการ.."
ทุกคนมานั่งรับประทานอาหารพร้อมกันบนโต๊ะอาหารในเรือนหลังใหญ่ ทั้งพ่อและแม่ของภูดิษฐ์ พ่อและแม่ของหมอภูวนัย รวมทั้งภูดิษฐ์และภูวนัยด้วย ซึ่งมีสริสาที่ยืนอยู่ข้างหลังของคุณปู่ด้วยสีหน้าเกร็งๆและเริ่มกังวล
"สริสา.."
"คะ.?"
"ไปนั่งตรงนั้นซิ.."
"เอ่อ..คือ.."
"มาเถอะสา..ไปนั่งตามที่คุณปู่บอก.."
"ค่ะ.."
หมอนัยเป็นลูกพี่ลูกน้องของภูดิษฐ์ แม่ของเขามีศักดิ์เป็นอาสาวของภูดิษฐ์ ซึ่งเธอแต่งงานกับคุณหมอโดยมีเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวและเป็นคุณหมอเหมือนกับพ่อของเขา
หมอนัยเรียกเธออีกครั้งให้เดินไปนั่งตรงชุดจานที่ยังว่างอยู่ ที่แม่บ้านจัดเตรียมเอาไว้ให้ ซึ่งตลอดเวลาที่เธอย่างก้าวเดินก็มีสายตาของภูดิษฐ์คอยมองเธออยู่ตลอดเวลา
"ต่อไปนี้..สริสา จะมาเป็นหลานสาวของปู่อีกคน.."
"อะไรนะครับ..?"
"แกฟังไม่ผิดหรอกตาภู..ปู่รับสริสามาเป็นหลานสาวอีกคนของปู่แล้ว และให้สริสาย้ายเข้ามาอยู่ในเรือนหลังใหญ่ร่วมกับปู่ด้วย.."
"นี่มันอะไรกันคะ..คุณพ่อจะรับใครมั่วๆเข้ามาเป็นหลานแบบนี้ได้ยังไง..นี่ถ้าคุณพ่อแบ่งสมบัติของตระกูลเราให้แม่นี่ที่เป็นคนนอกด้วยแบบนี้ มันก็ไม่ยุติธรรมกับตาภูนะคะคุณพ่อ.."
แม่ของภูดิษฐ์พูดแทรกขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ เพราะกลัวว่าสมบัติทั้งหมดที่จะต้องเป็นของลูกชายคนโดของตระกูล จะต้องถูกแบ่งไปให้คนอื่น
"นี่ฉันยังไม่ตายเลยนะ เธอพูดถึงสมบัติแล้วงั้นหรอ."
"เอ่อ..!!"
แม่ของภูดิษฐ์และภูวนัยหน้าเจื่อนไปทันที
"ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันรู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ..ลูกหลานของฉันทุกคนจะต้องได้รับสมบัติของฉันเท่าเทียมกัน.."
คุณปู่พูดจบก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ หันไปมองหน้าภูดิษฐ์ที มองหน้าสริสาที เหมือนมีแผนการอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
.....
ภูดิษฐ์ ปากหมานนะ