วันรุ่งขึ้น
ภูดิษฐ์ตื่นมาในตอนเช้าก็ไม่เห็นสริสาอยู่ในห้องก็รู้สึกหงุดหงิด เพราะเธอหายหน้าไปทั้งวันแล้วบ้านก็ไม่กลับ แต่พอคิดขึ้นได้ว่าก็ดีเหมือนกันที่เธอหายไป หายตลอดไปเลยยิ่งดี
"ไม่ต้องกลับมาเลยก็ดี หายไปนานๆเลย.."
เขาลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วออกไปหาความสุขข้างนอกกีบสาวๆของเขาเหมือนอย่างที่เคยทำในทุกวัน
"จะไปไหนตาภู..?"
"พ่อ.."
"ฉันถามว่าแกกำลังจะออกไปไหน..?"
"ผมก็ออกไปหาสาวๆของผมซิครับ.."
"นี่แกแต่งงานแล้วนะ จะทำอะไรก็ควรให้เกียรติเมียแกด้วย.."
"เมีย ที่ผมไม่เต็มใจแต่งงานด้วยนะหรอครับ ผมไม่เรียกว่าเมียหรอก.."
"แกนี่มัน..ฉันไม่รู้จะใช้คำไหนมาด่าแกแล้วจริงๆ.."
"แค่ผมยอมแต่งงานกับยัยนั่นก็มากเกินพอแล้วครับ"
"คอยดูนะถ้าแกทำให้หนูสาเขาต้องอับอายเพราะแก หรือทำให้หนูสาเสียใจละก็ ฉันนี่แหละจะเป็นให้หนูยึดสมบัติแกไว้เองทั้งหมดเลย.."
"นั่นมันสมบัติที่คุณปู่ยกให้ผมตามพินัยกรรมนะพ่อ."
"เออ ยกก็ยกดิวะ ฉันไม่สนแกจะทำไม.."
"..."
ภูดิษฐ์ทำหน้าเซ็งๆที่โดนพ่อของเขาบ่นแบบนั้น
"แกต้องกลับไปทำงานที่บริษัทได้แล้วตาภู.."
"ผมยังไม่อยากไปนี่พ่อ.."
"แกโตแล้วนะ แกจะกินเที่ยวแบบนี้ไปวันๆไม่ได้ ฉันให้เวลาแก 1 อาทิตย์ ถ้าแกไม่กลับไปทำงาน ฉันจะให้หนูสายึดสมบัติแกไปให้หมดเลย.."
"พ่อ.."
"คุณลุงครับ.."
"อ้าว.! นัยมาพอดีเลย ลุงมีเรื่องจะถามเรื่องแม่ของหนูสาพอดี เดี๋ยวเข้าไปคุยกับลุงที่ห้องทำงานหน่อยนะ."
"ครับคุณลุง.."
พ่อของภูดิษฐ์เดินนำหมอนัยไปที่ห้องทำงานโดยมีหมอนัยเดินตามไปด้วย
ภูดิษฐ์มองไปด้วยความสงสัยจึงค่อยเดินตามไป เขายืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานของพ่อเขา เอื้อมมือไปแอบเปิดประตูแง้มนิดหน่อยเพื่อแอบฟังทั้ง 2 คนคุยกัน
"ลุงได้ข่าวว่าแม่ของหนูสาอาการทรุดลงหรอ.?"
"ครับคุณลุง เกิดจากการเปลี่ยนยาที่ทำคีโมนะครับ ยาตัวนี้ออกฤทธิ์แรงเกินไปจนทำให้แม่ของสามีอาการทรุดลงนะครับ.."
"แล้วแบบนี้จะทำยังไง..?"
"คงต้องกลับมาใช้ยาตัวเดิม เพื่อรักษาตามสภาพร่างกายที่รับไหวนะครับ."
"แล้วแบบนี้จะมีโอกาสหายไหม..?"
"..."
หมอนัยเงียบไปกับคำถามของพ่อภูดิษฐ์
ภูดิษฐ์ได้ยินทุกอย่างที่พ่อของเขาและหมอนัยคุยกันทุกอย่างเกี่ยวกับแม่ของเธอ
"แม่เธอป่วยงั้นหรอ..?"
ภูดิษฐ์ขับรถออกมาตลอดทางก็คิดถึงเรื่องของเธอ
"ที่เธอมาแต่งงานกับฉันก็เพราะต้องการจะเอาเงินไปรักษาแม่ของเธอซินะ แบบนี้นี่เอง.."
เขายิ้มออกมาที่เดาทางเธอออกจึงตัดสินใจขับรถตรงไปที่ที่หนึ่งทันที
....
โรงพยาบาล
สริสาที่หน้าตาอิดโรยเพราะเอาแต่ร้องไห้และนั่งเฝ้าแม่ของเธอตลอดทั้งคืนไม่หลับไม่นอน จนเพื่อนของเธอที่เป็นพยาบาลด้วยกันรู้สึกเป็นห่วงเธอมาก
"นี่เมื่อคืนได้นอนบ้างไหมเนี่ย..ดูหน้าตาซิทั้งโทรมทั้งซีดเลย.."
"สานอนไม่หลับเลย ให้ข่มตานอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ.."
"แล้วนี่ได้กินอะไรบ้างหรือยัง ถ้าเป็นแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไปหรอก..เดี๋ยวรินไปซื้อขนมปังกับนมมาให้ทานดีไหม.."
"ไม่เป็นไรจ่ะริน สายังไม่ค่อยหิวเลย.."
"ไม่ได้นะ ไม่กินเลยแบบนี้ไม่ได้ รอตรงนี้ก่อนเดี๋ยวรินไปซื้อขนมปังที่เซเว่นมาให้รองท้อง ฟืนๆกินไปก่อนโอเคไหม..?"
"ก็ได้ ขอบใจมากนะริน.."
"อืม เดี๋ยวรินมา.."
สริสานั่งอยู่มุมหนึ่งของโรงพยาบาลเพราะรู้สึกหมดแรงและก็รู้สึกเหนื่อยมากๆ
"อยู่นี่เอง..ฉันตามหาเธอจนทั่ว.."
สริสาเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอก็รู้สึกอึ้งๆที่เห็นเขามาอยู่ที่นี่
"เมนี่ เธอไปนั่งรอฉันอยู่ตรงนู้นก่อนไป เดี๋ยวฉันคุยธุระเสร็จจะเดินไปเรียก.."
"ค่ะคุณภู.."
เขาบอกกับผู้หญิงที่พามาด้วยอีกคนให้ไปนั่งรอเขาก่อน ส่วนเขาก็หันมานั่งลงข้างๆเธอ
"เธอไม่กลับบ้านมา 1 วัน นี่ฉันดีใจเลยนะเพราะคิดว่าเธอจะหนีไปแล้วซะอีก.."
"..."
"ได้ข่าวว่าแม่ของเธอป่วยแล้วรักษาตัวอยู่ที่นี่หรอ.?"
เธอหันมามองหน้าเขา
"แม่เมียตัวเองป่วยทั้งคนถ้าฉันไม่มาเยี่ยมมันก็จะดูไม่ดีใช่มะ..?"
"อย่าเข้าไปยุ่งกับแม่ของสานะคะ.."
"แม่เธอรู้หรือยังนะเรื่องที่เธอมาแต่งงานกับฉัน..น่าจะยังไม่รู้.."
"คุณภู.."
"แม่เธอจะคิดยังไงนะ ถ้าได้รู้ว่าลูกสาวตัวเองแต่งงานเพราะเงิน.."
"..."
สริสากำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด
"ถ้าไม่อยากให้ฉันไปยุ่งกับแม่ของเธอ งั้นเธอก็หย่ากับฉันซิ หย่าแล้วก็ยกสมบัติของคุณปู่ให้กับฉัน แล้วเธอจะไปไหนก็ไป.."
"..."
"ฉันรู้ว่าที่เธอแต่งงานกับฉันก็เพื่อจะให้แม่ตัวเองได้รักษาฟรี พ่อฉันคงจ่ายค่ารักษาให้แม่เธอซินะ ลูกกตัญญูจริงๆแต่งงานกับคนที่ไม่รักก็เพื่อหาเงินมารักษาแม่.."
สริสานั่งนิ่งไม่ตอบโต้แต่น้ำตาของเธอกลับค่อยๆไหลรินลงมาช้าๆ
"ถ้าเธอไม่อยากให้แม่ถ้ารู้ว่ามีลูกสาวหน้าเงิน ก็หย่ากับฉันซะ ส่วนเรื่องค่ารักษาฉันจะจ่ายให้เอง.."
"..."
เธอเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดจา จนเขาเริ่มเดือด
"นี่เธอ..ที่พูดไม่ได้ยินหรือไง.."
สริสายืนขึ้นแล้วหันมามองเขาทั้งน้ำตาก่อนจะเดินหนีไป แต่เขาก็วิ่งไปกระชากข้อมือเธอไว้ด้วยความไม่พอใจ ที่เห็นเธอเดินหนีเขาไปซะดื้อๆ
"สริสา..เห่ย.! นี่เธอ.."
"สา.."
สริสาเป็นลมไปทันทีหลังจากที่เขากระชากข้อมือเธอให้หยุด เขาตกใจมากที่เห็นจู่ๆเธอก็เป็นลมล้มลงไปกองที่พื้น
"รินรบกวนช่วยอุ้มสาไปที่ห้องพยาบาลทีค่ะ.."
"เอ่อ.! ได้ครับ"
รินที่วิ่งมาเห็นสริสาเป็นลมพอดีก็หันไปบอกกับภูดิษฐ์ให้อุ้มเธอไปที่ห้องพยาบาล
"วางลงที่เตียงเลยค่ะ.."
รินรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยมีภูดิษฐ์ยืนมองคนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง เพิ่งจะสังเกตุว่าใบหน้าของเธอดูซีดเซียวเอามากๆ จนคุณหมอเดินมาถึงก็ทำการฉีดยาให้เธอไป 1 เข็ม ตรวจดูอาการของเธอให้น้ำเกลือแล้วจึงปล่อยให้เธอนอนพักไปก่อน
"สาคงต้องนอนพักสักคืนนะคะ ถึงจะกลับบ้านได้คุณภูไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ.."
"ครับ.."
"เมื่อวานสาก็เฝ้าแม่ทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยละคะ เพราะแม่อาการทรุดหนักมากสาเอาแต่ร้องไห้แล้วก็นั่งเฝ้าแม่อยู่แบบนั้นไม่ลุกไปไหนเลย ข้าวปลาก็ไม่ยอมกินด้วยนะคะ..นี่คุณภูคงเป็นห่วงสาใช่ไหมคะเนี่ยถึงได้มาหาสาถึงที่นี่เลย.."
"เอ่อ.! ครับ.."
"แล้วนี่ไปเยี่ยมแม่มาหรือยังคะ.."
"ยังเลยครับ.."
"ถ้าสาเสียแม่ไปอีกคนสาคงต้องแย่แน่ๆ.."
"..."
"ฝากคุณภูดูแลสาและให้กำลังใจสาเยอะๆนะคะ ตอนที่สาบอกว่าจะแต่งงาน รินดีใจมากๆเลยค่ะเพราะสาฝันอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์มานานแล้ว คุณภูโชคดีแล้วนะคะที่ได้แต่งงานกับสา..นี่รินพูดมากไปหรือเปล่าคะเนี่ย รินขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่าค่ะ.."
เธอพูดจบก็ขอตัวแยกออกไปทำงาน ปล่อยให้ภูดิษฐ์ยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว เขาตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องพักที่เธอนอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงอีกครั้ง
"นี่ฉันโชคดีงั้นหรอที่ได้แต่งงานกับเธอ.."
.....
กลับตัวตอนนี้ยังทันนะภูดิษฐ์