ฟรังโก้ถือโทรศัพท์มือถือของคริสเตียนไว้ และระหว่างที่คริสเตียนกำลังทานอาหารอยู่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฟรังโก้มองดูหมายเลขของผู้ที่โทรเข้ามา ก็พบว่าเป็นเบอร์โทรที่สำคัญ เขาจึงยื่นโทรศัพท์ให้คริสเตียนทันที
เวลานั้นคาร่ายังหน้าแดงและน้ำตาไหล แต่เธอไม่กล้าทำอะไรเสียงดังสักนิด เพราะเกรงจะเป็นการรบกวนคริสเตียน ที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับใครสักคน
มาร์คจึงมองมาที่คาร่าด้วยความเป็นห่วง ‘เด็กน้อยที่น่าสงสาร เธอไม่สามารถทานอาหารรสเผ็ดได้จริง ๆ’ มาร์คคิดอย่างเศร้าใจ
ขณะคาร่ากำลังพยายามทานแซนด์วิช เพราะเธอไม่อยากทำให้คริสเตียนโกรธ เธอรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เขาทำเพื่อเธอเสมอ เลยไม่อยากทำให้เขาคิดว่าเธอเป็นคนเรื่องมากและเอาใจยาก
เธอจึงเลือกจะทานมันต่อ ทั้งๆ ที่เธอรู้สึกเริ่มจะปวดท้อง และแสบท้องมากกับอาหารรสเผ็ดที่เธอทานเข้าไป
ผ่านไปสักพัก คริสเตียนที่พูดจบก็ยื่นโทรศัพท์คืนให้ฟรังโก้ ซึ่งยังยืนอยู่ข้างหลังเขา โดยที่เขาไม่ได้หันกลับไปมอง
ก่อนคริสเตียนจะมองมาที่คาร่า ซึ่งกำลังนั่งมองจานของเธอราวกับว่ามันน่าสนใจมาก ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นมือที่สั่นเทาของเธอ ซึ่งถือแซนด์วิชที่ถูกกินไปเกือบครึ่งแล้ว
‘เธอเป็นอะไรไป?’ ขนาดตอนที่อ้อนวอนขอร้องเขา เธอยังไม่สั่นเทาขนาดนี้ แถมเขายังสังเกตเห็นน้ำตาของเธอ มันไหลลงมาจากตาขวา ก่อนตกลงบนโต๊ะอาหารข้างจานของเธอด้วย
“กระต่ายน้อย”
เมื่อคาร่าได้ยินคริสเตียนเรียกเธอ เธอก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมา
“มองมาที่ฉัน” เขาสั่ง ใบหน้าที่เย็นชาตอนนี้เริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่ฟรังโก้ซึ่งยืนอยู่ข้างหลัง ก็สังเกตว่าเจ้านายของพวกเขาว่ากำลังจะทำอะไร
“กระต่ายน้อย” คริสเตียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่ง คาร่าค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองคริสเตียนด้วยความหวาดกลัว ทำให้คริสเตียนได้เห็นสองแก้มที่กลายเป็นสีแดง รวมถึงดวงตาที่มีหยาดน้ำตาไหล
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”
คริสเตียนลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วยื่นน้ำมาให้คาร่าที่กำลังหอบหายใจทางปากด้วยความเผ็ดร้อน
“เผ็ด!” เธอกระซิบบอก ก่อนรับแก้วน้ำที่เขายื่นมาให้ขึ้นดื่มทันที
“แล้วทำไมถึงยังกินอยู่ ถ้ารู้ว่าตัวเองกินเผ็ดไม่ได้’’ เขาถามขึ้นมาอย่างข้องใจ ก่อนจะตะโกนออกมา “เอาของหวานมาให้ฉัน!” เขาตะคอกใส่มาร์คที่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น
ทันทีที่คริสเตียนตะคอกใส่เขา มาร์คก็รีบวิ่งเข้าไปในครัว และนำเค้กช็อกโกแลตชิ้นหนึ่งออกมา ซึ่งเป็นเค้กที่คาร่าชอบทาน
“กินนี่สิ” เขาคว้าจานที่มาร์คยื่นให้มาวางไว้ตรงหน้าคาร่า
มือของคาร่าสั่นด้วยความรู้สึกที่แสบร้อนในช่องท้องอย่างมาก จนเธอรู้สึกว่าแทบจะรับมันไม่ไหว
คริสเตียนมองมือที่สั่นเทา และเริ่มป้อนเค้กให้ด้วยตัวเอง
“ฉันกินไม่ได้”
คาร่าพูดพลางใช้มือกุมที่ท้องของเธอ หลังจากทานเข้าไปได้สองถึงสามช้อน เธอก็เอนตัวลงบนโต๊ะอาหาร พร้อมสีหน้าที่ดูเจ็บปวด
“บัดซบ!” เขาตะคอกออกมาเสียงดังและรีบอุ้มเธอขึ้นมาในอ้อมแขน ก่อนจะรีบพาเธอขึ้นไปบนห้อง
ฟรังโก้ที่ไม่เคยเห็นเจ้านายดูแลใครมาก่อน ก็กำลังมองไปที่คริสเตียนราวกับว่าเขาเป็นเอเลี่ยน
“เรียกหมอด่วน!” เขาตะคอกใส่ฟรังโก้ที่ยืนนิ่งอยู่ ฟรังโก้จึงพยักหน้าทันที และกดหมายเลขถึงหมออย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นทั้งมาร์คและฟรังโก้ก็ยืนเคียงข้างกันด้วยความงุนงง
“เดือนที่แล้วพวกนายไปไหนมา” มาร์คถาม
“ไม่ได้ไปที่ไหนเลย เจ้านายพักที่เพนต์เฮาส์ และก็ทำงานทุกวัน” ฟรังโก้ตอบตามความจริง
“ทำไม!? เท่าที่ฉันรู้ ปกติเขาไม่ชอบอยู่ในเมือง” มาร์คถาม
“ฉันไม่กล้าพอที่จะถามเจ้านายของเรา เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เหมือนกัน” ฟรังโก้พูดออกมาพร้อมทั้งส่ายศีรษะไปมา
ทั้งฟรังโก้และมาร์ครู้จักกันมานาน มาร์คยังเป็นเพื่อนสนิทของพ่อของฟรังโก้ด้วย ฟรังโก้ชอบไปเล่นบ้านมาร์คบ่อยๆ เมื่อครั้งที่ลูกสาวของมาร์คยังมีชีวิตอยู่
“ทำไมจู่ๆ คุณถึงถามคำถามพวกนี้? คุณชอบนินทาเจ้านายเหมือนผู้หญิงงั้นเหรอ?” ฟรังโก้พึมพำ มาร์คจึงพ่นลมหายใจออกมา
‘ผู้หญิงคนนี้สำคัญต่อเจ้านายมาก’ มาร์คคิดเมื่อเห็นสิ่งที่เจ้านายของพวกทำ มาร์คที่ผ่านโลกมามาก รู้ว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกของเจ้านายของพวกเขา
“ฉันแค่สงสัยว่าเจ้านายของเราเปลี่ยนไปมาก ฉันไม่เคยเห็นเขามีหลายอารมณ์บนใบหน้าแบบนี้มาก่อน... ตอนเด็กๆ เขาก็เย็นชาและโดดเดี่ยว เหมือนตอนนี้... ตั้งแต่มัมของเขาตาย ฉันไม่เคยเห็นเขาดูแลคนอื่นเลย” มาร์คตอบ
เห็นได้ชัดว่าทั้งฟรังโก้และมาร์คต่างประหลาดใจไม่แพ้กัน
“อย่าได้คิดเดามั่วๆ เขาเพิ่งฆ่าสายลับที่ทรยศเขาไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ดูเหมือนเขาจะอ่อนไหวลงเพราะคาร่า... เพราะทีแรกเราไม่ได้วางแผนที่จะมาที่นี่ เขาได้นัดประชุมกับหัวหน้าเขต แต่แล้วเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์ใหญ่ของมหาวิทยาลัย ที่กำลังจะส่งคาร่าไปเรียน ว่ามหาวิทยาลัยกำลังจะเปิดในอีกไปถึงสัปดาห์... เราเลยไปหาซื้อแล็ปท็อปให้คาร่า และเขาก็กลับมาที่นี่เพื่อส่งมอบมันให้เธอด้วยตัวเอง”
ฟรังโก้เปิดเผยทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อสองสามชั่วโมงที่แล้ว เขาพบว่าพฤติกรรมของเจ้านายแปลกไป
แต่เขาไม่ได้ตั้งคำถาม และตอนนี้ฟรังโก้ก็เข้าใจแล้วว่าเจ้านายของเขามีจุดอ่อนให้ต้องคิดถึง
นั่นคือคาร่า
“โอ้!…” มาร์คพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเราได้ข้อสรุปเช่นเดียวกัน