เห็นความเป็นห่วงของคุณแจ่มจันทร์ เธอก็รู้สึกดีขึ้น แต่ในใจก็ยังคลางแคลงใจพี่ต๊ะอยู่ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นเธอไม่ดั้นด้นขับรถมาถึงที่นี่หรอก
“แอมกลัวค่ะแม่ วันนี้บอกตรง ๆ ค่ะ ว่าแอมรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจแล้วสิคะ ว่าพี่ต๊ะรักแอมจริงหรือเปล่า ยังอยากจะดูแลกันอยู่ไหม” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจ
“อุ๊ย ทำไมคิดแบบนั้นล่ะลูก ไม่เอานะหนู ต๊ะไม่เคยวอแวยุ่งเกี่ยวกับใครหรือผู้หญิงคนไหน หนูแอมเป็นผู้หญิงคนแรกเลยนะที่ต๊ะพามาแนะนำกับแม่ว่าเป็นแฟน หนูแอมมาร้อน ๆ เหนื่อย ๆ เดี๋ยวแม่หาอะไรให้กินนะลูกนะ วันนี้มีแกงสายบัว อร่อยเชียว จะสู้แม่ครัวฝีมือดีที่ร้านของหนูได้หรือเปล่า” คุณแจ่มจันทร์ชวนคุยเปลี่ยนเรื่อง
อิสรีย์ยิ้มนิด ๆ เห็นท่าทีกุลีกุจอของท่านก็รีบเข้าไปประคองท่านไปยังครัวหลังบ้าน
“แม่บ้านไปไหนกันหมดคะ ทำไมปล่อยให้คุณแม่อยู่คนเดียว”
“ก็อยู่กันแถว ๆ นี้แหละ ตั้งแต่มีมือถือก็ไม่ต้องนั่งเฝ้า แม่ไล่ให้ไปทำงานในสวนกัน ปลูกผักสวนครัวเอาไว้กินเอง แม่ยังแข็งแรงดี ดีเสียอีก ไม่มีใครมาส่งเสียงดังให้รำคาญ อยากจะใช้สอยอะไร ตะโกนส่งเสียงเรียกดัง ๆ เดี๋ยวก็มากัน หรือไม่ แม่ก็ใช้มือถือนี่และโทร. ไปหา นี่ ๆ หนูแอมมาดูครัวใหม่ของแม่ดีกว่า เจ้าต๊ะให้เพื่อนออกแบบมาทำให้ใหม่ ทำครัวของแม่ซะสวยเลย”
“ใครคะ”
“โอมไง หนูก็รู้จักใช่ไหม ที่เป็นสถาปนิกอะ”
“อ๋อ ค่ะ”
นี่เธอลืมมิ่งขวัญไปได้อย่างไร ถ้าอยากรู้เรื่องของกัมปนาทไปถามมิ่งขวัญจะได้ความมากกว่ามาถามคุณแม่เสียอีก ช่วงนี้เธองานยุ่งและวุ่นวายกับการขยายสาขาร้านเหมือนกัน เลยลืมนึกถึงมิ่งขวัญไปเลย
“แม่คะ มีเบอร์ของพี่โอมไหมคะ”
“มีสิ กินข้าวเสร็จก่อน เดี๋ยวแม่ค่อยให้นะ”
“ค่ะ” หญิงสาวสีหน้าดีขึ้น เริ่มมีความหวังที่จะหาตัวของกัมปนาทเจอ เธอไม่อยากจะคาราคาซังแบบนี้อีกต่อไป
“คุณป้าคะ” เสียงเอะอะของทอรุ้งดังมาแต่ไกล พร้อมกับฝีเท้าที่วิ่งตึงตังเข้ามาในครัว
“ใครเป็นอะไร เอะอะมะเทิ่งเสียจริง ๆ เด็กคนนี้”
“ก็... อ้าว... สวัสดีค่ะพี่แอม” เด็กสาวยกมือไหว้แฟนของพี่ชาย
“นี่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียน ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป ค่อยมากินข้าวด้วยกัน” คุณป้าไล่
“เกิดเรื่องแล้วค่ะคุณป้า ก็โตน่ะสิคะไปมีเรื่องราวชกต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนนี้นั่งเลือดอาบอยู่ที่นั่น คุณครูกักตัวไว้ไม่ให้กลับบ้าน เพราะอีกฝ่ายเจ็บหนักเลยค่ะ หนูโทร. ไปที่บ้านพี่ต๊ะ พี่ต๊ะก็ยังไม่กลับมาบ้าน แล้วป้าสมัยบอกว่าพี่ต๊ะไม่ได้กลับบ้านมาหลายอาทิตย์แล้ว หลังจากนั้น ป้าสมัยก็พูดไม่รู้เรื่องแล้วค่ะ เอาแต่ร้องไห้ใหญ่เลยค่ะ”
ทอรุ้งหมายถึงกฤตนันท์น้องชายต่างแม่ของกัมปนาทที่ย้ายมาเรียนโรงเรียนเดียวกับเธอ
“ตายละ ทำไมทำตัวแบบนั้น ไปตีกับใครเขาอีก แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้”
“คุณแม่คะ ให้แอมไปจัดการให้นะคะ รุ้งพาพี่ไปที่โรงเรียนหน่อยสิ” อิสรีย์อาสาช่วยเหลือ
“ได้ค่ะพี่แอม คุณป้าขาโทร. ตามพี่โอมให้มาช่วยด้วยสิคะ” เด็กสาวสั่งผู้เป็นป้า เพราะมิ่งขวัญมักมาเป็นตัวช่วยของบ้านนี้เสมอเมื่อเวลาจำเป็นหรือจวนตัว
“ได้ ๆ ว่าแต่ว่าโอมอยู่ที่นี่ หรือที่กรุงเทพฯ ก็ไม่รู้ แต่ป้าจะพยายามโทร. หาพี่ต๊ะก่อน แอม ยังไงแม่ฝากด้วยนะ เห็นไหม ๆ นี่แหละตัวปัญหาทั้งนั้น”
คุณแจ่มจันทร์บ่น ยกหูหาลูกชายก็ไม่เปิดเครื่อง จึงลองสุ่มโทร. หาโอมตามที่พูด
ที่โรงเรียน
“ทางนี้ค่ะ” ทอรุ้งเดินเร็วนำหน้าอิสรีย์ตรงไปยังห้องฝ่ายปกครอง
“สวัสดีค่ะคุณครู” เด็กสาวยกมือไหว้อาจารย์ที่อยู่ในห้องนั้นสามคน
ก่อนจะเดินเข้าไปหากฤตนันท์ที่ยังนั่งกุมหัวที่แตกเอาไว้อยู่ ยังมีคราบเลือดติดเกรอะบนใบหน้าทั้ง ๆ ที่เช็ดออกไปบ้างแล้ว
“เป็นยังไงบ้าง ทำไมยังไม่มีใครทำแผลให้นายอีกเหรอ”
สายตาของกฤตนันท์ที่มองมายังทอรุ้งแสดงความไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยสนิทกัน เจอกันสองสามครั้งเท่านั้น แต่ก็พอจะรู้ว่าทอรุ้งก็มีศักดิ์เป็นน้องของพี่ต๊ะ
“ใครให้เธอมายุ่งกับฉัน” โตพูดออกมาไม่ดีเอาเสียเลย
“นี่นาย... ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับนายหรอกนะ หากนายไม่ใช่น้องของพี่ต๊ะ” รุ้งสะบัดเสียง ก่อนจะหยิบทิชชูเปียกออกมาจากกระเป๋าของตนเองแล้วเช็ดตรงหัวของเด็กหนุ่มที่แตก
“โอ๊ย...” โตอุทานออกมาเบา ๆ
“ก็สมน้ำหน้า ถ้ารู้ว่ามันเจ็บแบบนี้ แล้วยังไปมีเรื่องชกต่อยกับใครเขาทำไม”
กฤตนันท์หันมามองหน้าของรุ้งแบบเอาเรื่อง
“ไม่ต้องมามองหน้าฉันแบบนี้เลย ฉันไม่ใช่ศัตรูของนายนะ นายโต” เธอว่าเขา
แล้วกระแทกนิ้วลงไปที่แผลของเขา
“โอ๊ย ยายบ้า ฉันบอกว่าเจ็บได้ยินไหม”
“รู้แล้วน่า คนจะทำแผลให้ นายก็อยู่นิ่ง ๆ ดิ”
“ไอ้หน้าไหนที่มันมาตีลูกผมปางตายแบบนั้น”
คงเป็นพ่อของคู่กรณี บิดาของนายพิชิตชัยคนที่โดนหามส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้า
มีคุณครูคนหนึ่งออกไปรับ
“ผมไม่ยอมนะครับ ยังไงผมก็จะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด ไหน ๆ ไอ้เด็กคนไหน”
“ใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ”
อิสรีย์ยกมือไหว้อีกฝ่าย
พ่อของพิชิตชัยชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะหันมามองหน้าของอิสรีย์แบบเอาเรื่องราว
“เธอเป็นใคร เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานยังไงให้มันมาเป็นนักเลงไล่ทำร้ายคนอื่นแบบนี้”
เคร้ง... ชายคนนั้นปัดสิ่งของบางอย่างบนโต๊ะของคุณครูลงไปที่พื้น
กฤตนันท์แทบถลาลุกขึ้น ท่าทางโกรธขึ้ง แต่ทอรุ้งใช้มือของเธอกดไหล่ของเขาให้นั่งลงไปพร้อมสายตาห้ามปราม
“ดิฉันขอโทษค่ะ และจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้นะคะ”
“อ้อ... คิดว่าเอาเงินฟาดหัวแล้วเรื่องมันจะจบเหรอ นี่มันคดีพยายามฆ่าชัด ๆ”
พ่อของพิชิตชัยชี้หน้าของอิสรีย์อย่างไม่ให้เกียรติ
อิสรีย์สีหน้าเจื่อนลงไป แต่ก็รู้สึกโกรธ ดูท่าเด็กคู่กรณีจะได้นิสัยของพ่อของเขามาแบบเป๊ะ ๆ เธอต้องมารับมือกับสถานการณ์แบบนี้ด้วยหรือ ต้องทำหน้าที่แทนพี่ต๊ะคนรัก เธอรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ