“เฮ้ย ไอ้หมี จอด!”
รถซูเปอร์คาร์ราคาแพงชะลอความเร็วและจอดข้างบาทวิถีอย่างนิ่มนวล สมกับเป็นคนขับรถที่ได้รับความไว้วางใจจากประธานกรรมการบริษัท ชายหนุ่มมองร่างแน่งน้อยที่วิ่งลงจากรถเมล์แล้วรีบเข้าไปในบริษัทของเขาด้วยดวงตาวับวาว
แม่นั่น! ยัยแม่บ้านปากทองคำ!
“กลับรถเข้าไปรอกูในบริษัท เดี๋ยวกูเสร็จธุระแล้วจะโทรเรียก”
“ครับนาย”
เวฆาไม่รอให้คนขับรถตอบรับจนจบด้วยซ้ำ ร่างสูงในชุดสูทสุภาพก็ลงจากรถด้วยท่าทางไม่สุภาพนัก เขาเดินตึงตังด้วยสีหน้าราวกับยักษ์มาร ตรงกลางกายรวดร้าว หนักอึ้ง เหมือนกำลังหิ้วลูกตุ้มที่ประเมินน้ำหนักไม่ได้
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด...
ไอ้แท่งเวรนี่ก็ช่างกระไร ใหญ่ฉิบหาย พูดแล้วคิดถึงตอนเด็ก ๆ เขาเป็นคนเรียนไม่เก่งเอาซะเลย ที่เรียนไม่เก่งก็เพราะไม่ตั้งใจหรอก ไม่ใช่เพราะเขาโง่! แต่นั่นแหละ พ่อก็ตัดสินเขาแค่เกรดการศึกษาสมัยมหาวิทยาลัย แล้วค่อนว่าเขาอยู่ได้ว่าสงสัยเลือดคงไม่ไปเลี้ยงสมอง ไปเลี้ยงแต่ ‘กรวยใหญ่’ ที่ติดตัวเขามาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย
แล้วคิดดูซี่... ว่าตอนนี้หอยเท่าฝาตีนแล้ว มันจะใหญ่โตโอฬารแค่ไหน!
คิดแล้วก็ภูมิใจไม่หยอก
เอาวะ อย่างน้อยมันก็เป็นความภาคภูมิใจของการเกิดเป็นชาย ดังนั้นตอนนี้ที่มันใหญ่และแข็งจนค่อนข้างขัดขวางการเดินของเขา เวฆาจะไม่เอาเรื่องมันก็แล้วกัน
ชายหนุ่มเดินเร็ว ๆ ตามแผ่นหลังบอบบางในชุดไปรเวทที่วิ่งจี๋เข้าไปในบริษัท เธอปล่อยผมแล้ว เส้นผมสีน้ำตาลหยักศกดูนุ่มนิ่มนั่นขยับพลิ้วไหวราวกับสายน้ำ สะโพกกลมกลึงงดงามส่ายไปมายามเธอวิ่ง
ดูเอวนั่นสิ เล็กโคตร...
เรียวขาก็นวลเนียนไปหมด เห็นความเนียนของขาเธอ ก็อดคิดถึงความขาวจั๊วะของเนินอกใหญ่มโหฬารนั่นไม่ได้
ยัยเด็กร้าย!
เธอทำของใส่เขาหรือยังไง ทำไมเขาสลัดภาพปากเล็ก ๆ ที่อ้าอมของเขา หน้าแดง ๆ ดวงตาเห่อร้อนด้วยตัณหา หรือแม้แต่เม็ดเหงื่อบนร่างกายนวลงามของเธอที่น่าจูบออกให้หมดไม่ได้เลยแม้แต่ภาพเดียว!
“อ๊ะ พี่เอ๊ะ”
เสียงหวานทำให้เขาชะงัก เวฆาเห็นแม่บ้านสาวน้อยหยุดยืนหายใจหอบแฮก ๆ ก่อนจะพูดคุยกับ รปภ. หนุ่มหน้ามนอย่างสนิทสนม
“พอดีเลย น้องลืมกุญแจไว้ในล็อกเกอร์จ้ะ พี่เอ๊ะล็อกห้องล็อกเกอร์หรือยังจ๊ะ”
ชายชื่อเอ๊ะหัวเราะเบา ๆ ก่อนหยิบกุญแจออกมาตรงหน้าด้วยแววตาวาววับ ราวกับอยากจะจับแม่บ้านสาวปอกเปลือกกิน
ไอ้เวร!
นั่นของกู! ของกู!
เดี๋ยวพ่อก็ไล่ออกซะหรอก แม่ง!
ยัยเด็กนี่ก็เหมือนกัน เรียกตัวเองว่า ‘น้อง’ กับทุกคนอะไรขนาดนั้น
พูดแบบนั้นกับเขาคนเดียวไม่ได้หรือไง!
เวฆาโวยวายอยู่ในใจ แต่ตอนนี้เขาได้แต่แอบดูลาดเลาอยู่ตรงมุมตึก ราวกับไม่ใช่เจ้าของบริษัทนี้ แต่เป็นขโมยหนุ่ม ‘กรวยใหญ่’ เขาต้องดูลาดเลาไปก่อน ว่าสองคนนั้นคบหากันอยู่หรือเปล่า
คนอย่างเวฆา ทวีโรจนโภคิน มีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่แย่งกินผู้หญิงของใคร!