ตอนที่ 4

1078 Words
เสียงของคนด้านข้างทำให้เจ้าสาวถึงกับหูผึ่ง แม้ไม่อยากมองบรรยากาศงานแต่งในค่ำคืนนี้ เพราะมันคือความจำยอมไม่ได้มาจากความยินยอมพร้อมใจของหล่อนสักนิด แต่ก็จำต้องมองอย่างเสียไม่ได้ เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาพูดถึงใคร จากที่เห็นด้านล่างเวทีนั้น หล่อนก็เข้าใจได้ทันทีว่าเขาหมายถึงแขกที่มาร่วมงานแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็ม แต่สวมแมสปิดบังแทบจะครึ่งหน้า แล้วก็เห็นแค่คิ้วจริงๆ ‘พิสุทธิ์นภา’ เห็นด้วยกับเจ้าบ่าว เพราะหล่อนเองก็ไม่ได้ต้องการแต่งหน้าจัดเต็มขนาดนี้ ยังไงเสียหล่อนก็ใส่แมสปิดบังครึ่งหน้าอยู่แล้ว แม้ว่าแม่จะบอกว่าให้ถอดได้ก็ตาม แต่ใครจะอยากถอดล่ะ ถึงจะปลอดภัย หล่อนก็จะอ้างเรื่องภาวะโรคระบาดต่อไป เพราะความจริงคือหล่อนไม่อยากให้ใครเห็นหน้า และก็ไม่อยากเห็นหน้าใครคนที่อยู่ด้านข้างด้วย คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น ตามองลงไปด้านล่างเวทีก็จริง แต่ใจไม่ได้อยู่ที่นั่นเลย ใจหล่อนมันรุ่มร้อน อยากให้งานแต่งงานในค่ำคืนนี้เสร็จๆ ไปสักที เพราะหล่อนก็แค่แต่งงานไปตามหน้าที่ แต่งเพราะว่าแม่ต้องการ ‘เป็นเจ้าสาวต้องแต่งหน้าสวยๆ นะลูก’ ‘แต่งสวยแค่ไหนก็ต้องใส่แมสค่ะแม่’ ‘แต่ก็ต้องถอดแมสถ่ายรูปนะ หรืออากาศไม่อยากสวยเหมือนแม่ แขกเขาจะได้ชมว่าอากาศสวยเหมือนแม่ไง หรือว่าให้แม่สวยเหมือนอากาศดี’ นั่นล่ะคำพูดออดอ้อนแสนจะน่ารักของแม่ที่หล่อนไม่กล้ามองว่าคือแอคติ้งขั้นเทพไปสู่ประตูออสการ์อีกต่อไป และหล่อนก็ต้องแต่งหน้าจัดเต็มสุดๆ พร้อมฝืนยิ้มให้กว้างที่สุดเมื่อเปิดแมส เพราะว่ายังไงเสียหล่อนก็เป็นเจ้าสาว อย่างน้อยก็ต้องมีช็อตเปิดแมสถ่ายรูปตามที่แม่บอกอยู่แล้ว เช่นตอนนี้ไง “อากาศถอดแมสหน่อยสิลูก” เป็นแม่ที่กระซิบด้านข้างหล่อน เพราะถึงช่วงเวลาที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวและพ่อแม่จะขึ้นมาบนเวทีเพื่อเตรียมสำหรับเข้าสู่พิธีจดทะเบียนสมรส และตอนนี้ระหว่างรอความพร้อม ก็เป็นจังหวะของการถ่ายภาพ “ไม่ต้องถอดก็ได้ค่ะแม่ อากาศไม่อยากติดโรค” “โธ่... ถอดหน่อยนะลูก ไม่ได้ยืนใกล้กันขนาดนั้นสักหน่อย อย่างน้อยก็ถอดคู่กับเจ้าบ่าว ช่างภาพเขาจะได้ถ่ายรูปให้ เดี๋ยวไม่มีรูปอยู่บนเวทีแบบไม่ใส่แมสเลยนะลูก ถอดหน่อยเถอะ” เสียงอ่อนๆ ของแม่ ฝ่ามือที่ทาบต้นแขน บีบน้อยๆ ลูบไล้หน่อยๆ ให้หล่อนใจเย็นๆ แต่กิริยาที่แม่ทำราวจะแทรกเข้ามากลางใจ นั่นทำให้หล่อนถอนหายใจเฮือกแต่ก็จำยอมต้องปลดสายคล้องหูออก ไม่อยากทำอะไรให้แม่กระทบกระเทือนเลยสักอย่าง ก็เพราะหล่อนอยากให้แม่มีความสุขนี่นา และจากปลายหางตาก็เห็นว่าเจ้าบ่าวยกมือขึ้นถอดแมสออกเช่นกัน แต่หล่อนก็ไม่อยากจะมอง คนที่หล่อนไม่รู้จัก “ขยับเข้าไปอีกลูกอากาศ เข้าไปใกล้ๆ พี่เขา” จำต้องขยับเข้าไปชิดตามที่แม่บอก ซึ่งก็ยังไม่ได้ดั่งใจ จนแม่อ้อมมาด้านหลัง แตะเอวให้หล่อนขยับเข้าไปใกล้กับร่างของเจ้าบ่าวมากขึ้นอีก และเจ้าบ่าวของหล่อนก็รู้งาน เพราะเขาทาบฝ่ามือที่บั้นเอวของหล่อนทันที นั่นกลับทำให้กิริยาแข็งขืนเป็นไปเองอัตโนมัติ แต่เป็นเขาที่กดน้ำหนักฝ่ามือลงอีก จนหล่อนอยากจะปัดมือเขาออกและฟาดหน้าสักที แต่ก็แสดงอาการอะไรออกไปไม่ได้เลย เพราะแม่ที่ยิ้มแป้นเอียงหน้าซ้ายขวาให้ช่างภาพ พร้อมสลับตำแหน่งกับพ่อแม่เจ้าบ่าว เห็นชัดเจนว่ากำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุขชัดๆ ซึ่งเจ้าบ่าวเองก็รับมุก เอียงซ้ายขวาตามแม่หล่อนไปด้วย มีแต่หล่อนที่ต้องฝืน แม้จะไม่เคยเห็นหน้าตาของเจ้าบ่าว นอกจากคำบอกเล่าของแม่และคนในบ้านว่าเขาหล่อมาก หล่อนก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ไม่ว่าเขาจะหน้าตายังไง สูง ต่ำ ดำ เตี้ย หรือว่าขาวผ่องเป็นยองใยแค่ไหน หล่อนก็ไม่สนใจ เพราะแม้แต่การไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง หล่อนก็ยังเลี่ยงไม่ไปวันเดียวกับเจ้าบ่าว โดยให้เหตุผลว่าไม่ว่าง ซึ่งถ้าอยากได้ภาพพรีเวดดิ้งก็ต้องยอมให้หล่อนถ่ายคนเดียว และหล่อนก็แน่ใจว่าทางร้านคงจัดการออกมาได้แน่ ซึ่งจากที่เห็นภาพแบ็คดรอปที่ประดับไว้ด้านหน้างาน แม้จะเห็นแค่เพียงด้านหลัง ก็ยังรู้ว่าทางร้านตัดต่อได้เนียน เสมือนหล่อนไปถ่ายกับเจ้าบ่าวจริงๆ ในเมื่อการแต่งงานครั้งนี้เพื่อให้แม่มีความสุขว่าหล่อนได้แต่งงานก่อนอายุ 25 ปี ตามคำของหมอดูที่แม่นับถือแล้ว เพื่อไม่ให้แม่คิดมากจนโรคหัวใจกำเริบขึ้นมาอีก การถนอมความรู้สึกของแม่ไว้คือสิ่งที่ควรทำมากที่สุดในเวลานี้ ดังนั้นหล่อนจึงตามใจแม่ทุกอย่าง อยากให้แต่งงานกับใคร วันไหน ก็แล้วแต่แม่ได้เลย เพราะผู้ชายที่ตกลงปลงใจแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รู้จักในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน หล่อนจะไปคาดหวังอะไรได้ แค่เขายอม ก็จบๆ กันไป แต่ลึกๆ แล้วนั้นหล่อนก็เชื่อว่าแม่ต้องเลิกเฟ้นคนที่ ‘พอใช้ได้’ ให้กับหล่อนแน่ แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าในอนาคตอันใกล้ต่อจากนี้จะเป็นยังไง จะต้องหย่ากันแค่ข้ามคืน หรือว่าจะทนอยู่ด้วยกันสักหน่อย ก่อนจะไปจดทะเบียนหย่า ทั้งหมดนั้นหล่อนไม่รู้เลย เอาเป็นว่าให้ผ่านค่ำคืนนี้ไปก่อนก็พอ ทว่าในระยะที่ใกล้กันขนาดนี้พิสุทธิ์นภากลับรับรู้ได้ถึงอายร้อนผ่าวที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อตัวของเขา ผู้ชายที่ซ้อนอยู่ด้านหลังของหล่อนขณะนี้ ภาพที่คนด้านล่างเห็นว่าแทบจะยืนกอดกัน แสดงความรักมากล้นจนเกินพอใช้หรือเปล่า เพราะแค่รูปร่างก็รู้ว่าเขาสูงกว่าหล่อนมาก ขนาดหล่อนสูง 168 เซนติเมตร และใส่รองเท้าส้นสูงเข้าไปอีก แต่เขาก็ยังดูสูงกว่าหล่อน คาดว่าน่าจะต้องสูงเกิน 185 เซนติเมตร อย่างแน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD