เธอเคยคิดว่าหากเขาจะมีภรรยาน้อยจริงๆ ก็อยากให้อีกฝ่ายมีความยำเกรงเคารพกันบ้าง หรือถ้าให้ดีไม่ยุ่งเกี่ยวต่อกันเหมือนคราแรกที่อนงค์เข้ามาอยู่ในตอนแรกๆ เธอก็จะทนเพื่อลูก แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนใจดียอมให้สามีตัวเองมีภรรยาอีกคน แล้วละเลยตัวเอง ทำร้ายจิตใจสารพัดแบบนี้
“พ่อเขาไล่เราแล้วติ เขาไล่เราแล้ว”
รติภัทรมองตามร่างบิดาไปอย่างเสียใจไม่แพ้มารดา
“ทำไมคุณพ่อไม่มีความยุติธรรมแบบนี้ ในเมื่อเขาไล่ เราไปจากที่นี่กันเถอะครับ ผมจะดูแลแม่เอง” เด็กชายรติภัทรพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
ร่างสูงใหญ่ของรติภัทร หนุ่มวัยสามสิบปีที่นอนหลับอยู่บนเตียงกว้างผวาตื่นจากฝันร้าย หอบหายใจรุนแรงเหงื่อโซมกาย ใบหน้าหล่อเหลาคมคายซีดเผือด มือหนาเสยผมที่ปรกหน้าผากอย่างอ่อนแรง ก่อนจะลูบเบาๆ ด้วยความอ่อนล้าในจิตใจ ดวงตาเย็นชา ใบหน้าเฉยเมยกลับมาอีกครั้ง
หัวใจของเขาด้านชาเกินกว่าจะรักผู้หญิงคนไหน แต่หากรักจริงเขาจะทุ่มเทไม่ทำให้เธอเสียใจเหมือนอย่างที่บิดาทำเอาไว้กับมารดา ถ้าเขารักผู้หญิงคนไหน เขาจะทำเพื่อเธอ ทำให้เธอมีความสุขที่สุด
และอะไรก็ตามที่เป็นของเขา เขาไม่มีวันปล่อยให้ใครแย่งไปเด็ดขาด ไม่มีวัน!!!
รอยตราเสน่หา
ร่างสูงของชายหนุ่มนามว่ารติภัทร พงศ์พันธ์ ยืนเหม่อลอยหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต มารดาพาเขากระเซอะกระเซิงกลับมาที่ไร่กาแฟของผู้เป็นลุงเป็นเวลายี่สิบปีเต็ม และยี่สิบปีเต็มที่เขาต้องเห็นความเจ็บปวดของมารดา ท่านเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุด ยอมอภัยให้กับคนที่ทำร้ายท่านสาหัส
“เรียบร้อยแล้วครับคุณติ”
เลอราชคนสนิทที่ติดตามรติภัทรมาตั้งแต่เด็กฉุดภวังค์ความคิดอันว้าวุ่นของชายหนุ่มให้หยุดลง ใบหน้าคมคายก้มลงเล็กน้อยอย่างเคารพยำเกรงผู้เป็นนาย
“ดีมาก แม่เธอขายเธอให้ไอ้เสี่ยนั่นเท่าไหร่อีกล่ะคราวนี้”
รติภัทรเอ่ยถาม หันมองคนสนิทที่เติบโตมาพร้อมกัน เลอราชเหมือนเพื่อนมากกว่าจะเป็นลูกน้อง เขาไม่เคยกดอีกฝ่ายให้ตกต่ำแต่พูดคุยกันอย่างเพื่อนมากกว่า และไว้ใจให้คนตรงหน้ารับผิดชอบดูแลลูกน้องอีกหลายคนที่ติดตามมา
“สองแสนครับคุณติ”
เสียงตอบราบเรียบของเลอราชทำให้รติภัทรบิดริมฝีปากเล็กน้อยคล้ายยิ้มหยัน ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธอย่างมหาศาล ดวงไฟเล็กๆ ในดวงตาสีกาแฟทำให้เลอราชลอบกลืนน้ำลายลงคอ
เด็กสาวอ่อนใสในวัยเยาว์ที่รติภัทรไม่เคยลืมเธอไปจากใจได้เลยในวัยเด็ก กำลังถูกแม่พาไปเร่ขายเหมือนโสเภณีข้างถนน ไม่สิ! ต้องบอกว่าโสเภณีชั้นสูงเพราะค่าตัวเธอสูงลิบลิ่ว
เธอเป็นของเขานานแล้ว ไม่มีใครได้ครอบครองเธอนอกจากเขาคนเดียวเท่านั้น หลายครั้งแล้วสินะที่เขาช่วยเธอเอาไว้โดยการเอาเงินปิดปากเสี่ยพวกนั้นไป และใช้ความกว้างขวางในสังคมทำให้อีกฝ่ายเกรงใจ แต่คราวนี้ เขาจะไม่ปล่อยเธอไปอีก
“นายจัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
รติภัทรเอ่ยถาม สายตาหันกลับไปมองทัศนียภาพเบื้องหน้า ระลอกคลื่นในทะเลสาดซัดเข้าฝั่งครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนหัวใจของเขาที่ถูกสาดด้วยเปลวเพลิงร้อนระอุแทบมอดไหม้
“เรียบร้อยแล้วครับ คุณติจะทำยังไงต่อไปครับ”
เลอราชเอ่ยถามผู้เป็นนาย ลอบสังเกตใบหน้าเย็นชาที่เห็นอยู่เป็นนิจนิ่งๆ
“ในเมื่อฉันซื้อต่อมาแล้วก็ต้องใช้ประโยชน์สิ หรือนายคิดว่าไงแทน”
รติภัทรเลิกคิ้วถาม เลอราชพยักหน้ารับรู้ แม้อยากจะห้ามแต่เขาไม่มีสิทธิ์ หากจะนับจำนวนครั้งที่รติภัทรช่วยพิรวดีเอาไว้ คงเป็นเงินหลายล้านบาท เขาเองไม่เข้าใจเจ้านายหนุ่มว่าคิดอะไรอยู่ แต่ใบหน้าเย็นชานั้นยังมีสายตาที่แสดงถึงความอ่อนโยนทุกครั้งที่ทอดมองไปยังร่างของหญิงสาวนามว่า ‘พิรวดี’
“เอ่อ ผมเกรงว่า...”
เลอราชอึกอักเล็กน้อย แม้คิดว่าห้ามปรามอะไรไม่ได้ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย จากประวัติของพิรวดีที่เขาคอยตามสืบให้เจ้านายหนุ่มมาตลอดหลายปี รับรู้ว่าเธอเป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่ได้เหลวไหลเลยสักนิด ไม่น่าถูกมารดาหลอกมาเร่ขายให้กับเสี่ยตัณหากลับพวกนั้น
“เธออยู่ไหน” เขาเอ่ยถามลูกน้อง ไม่สนใจน้ำเสียงลำบากใจของลูกน้องคนสนิท
“ในห้องของคุณติครับ” เลอราชจำต้องตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะผ่อนลมหายใจหนักหน่วงออกมา “คงอีกนานกว่าจะฟื้น”
รติภัทรเลิกคิ้วถาม ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ เธอถูกมอมยาสลบแบบนั้น คงไม่ฟื้นง่ายๆ
“ครับ เธอยังไม่ได้สติ” เลอราชตอบผู้เป็นนายอย่างหนักใจ
“งั้นนายไปได้ ถ้ามีอะไรจะเรียก”
รติภัทรบอกเสียงเรียบ เลอราชก้มหน้าให้ผู้เป็นนาย จำต้องเดินจากไป แต่ก็อดชำเลืองมองไปที่ประตูห้องเสียไม่ได้ ถ้าหญิงสาวตื่นมาแล้วเจอสภาพตัวเองแบบนั้นจะเป็นเช่นไรหนอ เขารู้ว่าเจ้านายหนุ่มรักพิรวดีมากแค่ไหน แต่ในสถานะที่ทั้งสองเป็นเส้นขนานเช่นนี้ เขายังคิดไม่ออกว่าทั้งสองจะมาบรรจบกันได้อย่างไร
ร่างสูงของรติภัทรเดินไปที่ประตูห้องนอนของบ้านหลังใหญ่ หลังจากยืนทอดอารมณ์อยู่นานหลายชั่วโมง เขาเปิดเข้าไปอย่างใจเย็น เท้าของชายหนุ่มเดินไปหยุดข้างเตียงที่หญิงสาวนอนอยู่ ทรุดนั่งลงขอบเตียง พึงพอใจอยู่ไม่น้อยที่ลูกน้องทำงานได้ดีเกินคาด
ถ้าเลอราชไปไม่ทันเล่า อะไรจะเกิดขึ้นกับคนตรงหน้า หัวใจเขาคงแตกสลายหากเธอต้องเจ็บปวดเพราะถูกคนที่ตัวเองรักทำร้ายได้ถึงเพียงนี้
ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ เขาไม่เคยลืมเธอเลยสักครั้ง เธอเติบโตเป็นสาวน้อยแสนน่ารัก อ่อนหวานอย่างที่เขาไม่อาจละสายตาไปได้ แม้เขาจะอยู่ห่างไกล แต่นั่นเป็นคำสัญญาสุดท้ายที่บิดาให้ไว้ว่าจะดูแลเธอให้ดีที่สุด
รติภัทรยังนึกแปลกว่าไม่อยากให้ท่านเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิต แม้ไม่เคยโกรธแค้นท่านจริงจัง แต่เขารู้ตัวว่าได้แสดงความเย็นชา ไม่เคยเอ่ยถึงคำว่าให้อภัยท่านจริงจังเลยสักครั้ง เขาไม่ได้เกลียดบิดาตัวเองมากกว่าความน้อยใจเสียมากกว่า เขายังเป็นเด็กและไม่เข้าใจอะไรมากนัก แต่เมื่อโตขึ้นเขาก็เข้าใจทุกอย่างของชีวิต มารดาเป็นคนที่สอนให้เขารักคนอื่น โดยเฉพาะคนที่เรารัก เราไม่ควรทำให้คนที่เรารักเสียใจ หากเรารักใครสักคน จงทำให้คนที่เรารักมีความสุขและจงมีความสุขร่วมกับเขา เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขา ชายหนุ่มไม่เคยลืมคำสอนของท่าน
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เขากลับเป็นคนช่วยเธอเอาไว้ในกรงเล็บเสี่ยตัณหากลับ น่าแปลกที่เขายอมทุ่มเงินมากมายซื้อเธอจากไอ้เสี่ยนั่น ทั้งๆ ที่แม่สารเลวของเธอเป็นคนยัดเยียดสิ่งนี้ให้เธอเอง
เลอราชบอกว่าเธอไม่เต็มใจ ก่อนหน้านี้ เขาได้เจอกับบิดาอีกครั้ง ท่านดูทรุดโทรมไปมาก ท่านบอกว่าภูมิใจที่เขาเติบโตเป็นคนเข้มแข็ง เก่งและมีความสามารถ รติภัทรไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองใบหน้าอิดโรยของบิดาที่พยายามยิ้มให้เขาด้วยความรัก ในวัยเด็ก เขาเคยคิดว่าหากบิดามารดาได้กลับไปใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้งคงดีไม่น้อย แต่ตอนนี้เขากลับเข้าใจมารดาว่าเหตุใดท่านจึงให้อภัยแต่ไม่กลับไปร่วมชีวิตกับบิดาอีก อายุและประสบการณ์สอนเขาในหลายๆ เรื่อง
รติภัทรขบกรามจนขึ้นสันเมื่อย้อนนึกถึงเรื่องราวเจ็บปวดที่ทรมานใจเขาเมื่อยี่สิบปีก่อน วัยเด็กที่ครอบครัวแสนอบอุ่นกลับพังทลายลงในชั่วพริบตา ครั้งหนึ่ง เขาอยากตอบแทนผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นให้สาสม คงเป็นเพราะมารดาที่ยับยั้งเขาเอาไว้ไม่ให้จมอยู่กับความทุกข์และความแค้นในหนหลัง ชีวิตของเราต้องก้าวต่อไป หากมัวจมอยู่กับอดีตที่เจ็บปวด เราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร้ซึ่งความสุข