หึหึ
ผู้หญิงที่เคยเจอมาจะมองข้ามหน้าตาราวรูปปั้นของเขา เพราะสนใจแก้วแหวนเงินทอง แต่กับพุดซ้อนหล่อนแปลกต่างจากผู้หญิงพวกนั้นที่ผ่านเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ เพราะหล่อนหวังในความหล่อที่เป็นภาพมายาที่เขาสร้างขึ้น ท่อนขาแข็งแรงเกร็งแน่นจิกเท้ากับพื้นแล้วโยกไหวแอ่นเด้งขึ้นหาความฉ่ำแน่นที่ตอดรัดเอ็นเนื้อของตนในตอนนี้ทันที
“อ่ะ...อื้อ แน่น อึดอัด อ่า...” เธอบอกเขาพร้อมจิกทึ้งเล็บสั้นของตัวเองไปกับแผ่นหลังหนาที่ตัวเองโอบกอดแน่นในตอนนี้พร้อมปล่อยร่างกระเด็นกระดอนขึ้นตามแรงกระแทกของเอวสอบ
“อ่า...เธอก็ตอดรัดฉันแน่นเหมือนกันเด็กน้อย อ่า...เสียว ซี้ด อื้อ...”
พั่บ! ซ่า! พั่บ! ซ่า!
เสียงน้ำไหลและเสียงกระแทกเนื้อของเขาและเธอดังสลับกัน และเสียงครวญครางของเขาและเธอเองก็เช่นกันที่ร้องรับกันได้อย่างลงตัว
“โอว์...ดีมาก อ่า...จำไว้เธอเป็นของฉันต่อไปนี้น้อง อ่า...ไม่ใช่ของสัตวแพทย์หน้าอ่อนนั่น อ่ะ...อื้อ”
ความคับแน่นของหล่อนทรมานเขาทุกครั้งจนอยากแตกตั้งแต่ที่ได้สอดตัวลึกล้ำในร่างคับแน่นของหล่อน
“อ่ะ...หมอไม้ พี่หมอไม้ค่ะ อ่ะ...อื้อ ทำไมคะ น้องเป็นอะไรกับคุณนาสูรคะตอนนี้ อ่า...อุ๊ย! อ่อย ไม่ไหวแล้ว อ่า...อือ”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
แม้ว่าจะยืนอยู่ใต้น้ำ แต่ทั้งสองก็ยังร้อน และยิ่งร้อนกว่าเดิมยามที่นาสูรกระแทกกายเข้าหาทางรักของพุดซ้อน สองมือใหญ่โอบอุ้มบีบแน่นกับก้นกลมกลึงของเจ้าหล่อนที่กระเด็นกระดอนขึ้นตามแรงกระแทกเสียวของเอวสอบของเขาในตอนนี้
“อ่า...เป็นเมียฉัน เธอเป็นเมียฉันยังไงเด็กน้อย อ่า...อืม แน่นดีเหลือเกินน้อง อ่า...ไม่ไหวแล้ว อ่า...เสียว โอว์...”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
ก่อนหน้านี้นาสูรได้ยินทุกอย่างทุกคำพูดในบทสนทนาของทั้งคู่ และเขาก็รู้ด้วยว่าพลชนั้นคิดยังไงกับแม่คนตัวเล็กที่เขายกอุ้มขย่มในตอนนี้
“อ่า...เมีย อ่ะ...อุ๊ย! เมียได้ยังไง เรายังมะ...อ่า...ไม่ไหวแล้ว ยังไม่ได้แต่งงาน และไม่ได้คบกันด้วย อูว์...ไม่ไหวแล้วคุณนาสูร อ่า...น้อง อ่ะ...อื้อ”
ซ่า! พั่บ! ซ่า! พั่บ!
“สำหรับฉันไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องเป็นแฟนกันเด็กน้อย ถ้าอยากได้คือต้องได้ และตอนนี้เธอเป็นของฉัน ห้ามผู้ใดแตะต้องนอกจากฉันจำไว้” เขาจูบกระหม่อมที่เปียกชื้นของหล่อนพร้อมโยกไหวแอ่นเด้งยกเร่าเอวสอบขึ้นหาความคับแน่นของคนที่ยกอุ้มในตอนนี้
“อ่ะ...อ่อย คิดไปเอง อ่ะ...อูว์”
หึหึ
“มาลองดูกันว่าคิดไปเองรึเปล่า ตอนนี้เรามาต่อกันให้เสร็จเถอะเด็กน้อย อ่า...แน่นเหลือเกิน ฉันทนไม่ไหวแล้วน้อง เสียว ซี้ด...”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
แล้วสองร่างเปลือยใต้ฝักบัวเดียวกันก็ช่วยกันกระแทกกระทั้นโหมแรงสวาทเข้าหากัน ส่วนพุดซ้อนทำตัวอ่อนคล้อยไปตามแรงกระแทกของเอวสอบของบุรุษ ตอนนี้เธอปล่อยให้ความรู้สึกความต้องการของตัวเองเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะห้ามหรือขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์
“โอว์...ทูนหัวของฉัน อ่า...เสียว แน่น อืม...”
เวลาบ่ายโมงกว่าที่นาสูรปล่อยให้พุดซ้อนได้เป็นอิสระ เขากลับมายังห้องส่วนตัวที่คฤหาสน์หลังใหญ่อึมครึมพร้อมเรียกให้พาทีเข้ามาพบตัวเองเพื่อจะถามไถ่ถึงเรื่องงานในฟาร์มเหมือนทุกวัน แม้เขาจะไม่ชอบทำตัวเหมือนมนุษย์ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
“วันนี้มีอะไรผิดปกติไหมพาที แล้วอาหารของฉัน นายเตรียมไว้รึยัง” เพราะก่อนหน้านี้เขาเสียพลังงานไปเยอะ เขาต้องเพิ่มพลังด้วยการกินเนื้อสัตว์สดๆ
“วันนี้ในฟาร์มเรียบร้อยดีครับท่าน ส่วนอาหารผมเตรียมเนื้อวัวไว้ให้ท่านแล้วครับ”
“ดีมาก นายไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลยสักครั้งพาที แล้วนายล่ะ กินอะไรไปรึยัง”
“ผมกินหมูไปแล้วหนึ่งตัว” พาทีพูดตอบพร้อมกับยกมือขึ้นลูบริมฝีปากตัวเองไปมาเล็กน้อย
“อือ...ไปเถอะ ฉันต้องการอยู่คนเดียว อ้อ...อย่าลืมเอาประวัติของพุดซ้อนมาให้ฉันด้วยล่ะ ฉันอยากรู้ภูมิลำเนาหล่อน” เขาบอกสั่งพาทีก่อนที่อีกฝ่ายจะหายตัวไป
“ครับท่าน” พาทีรับคำแล้วก้าวถอยเลือนหายไปในอากาศทันที
นาสูรยกยิ้มมองภาพที่เลือนหายไปตรงหน้าแล้วก็หายวับไปจากตรงนี้ทันทีเพื่อไปยังห้องรับประทานอาหารส่วนตัวของตัวเอง ที่พาทีได้เตรียมมื้อเที่ยงมื้อใหญ่ไว้รอท่าตนเอง
พุดซ้อนเพลียแต่ก็ต้องหอบสังขารตัวเองมาทำงาน และก็แต่งตัวมิดชิดกว่าทุกวัน ทั้งๆ ที่อากาศร้อนอบอ้าวตับแทบแตก แต่จะทำยังไงได้ เมื่อตามตัวและลำคอที่บีบีครีมปกปิดไม่เนียนบังคับให้ใส่เสื้อคอเต่าปิดคอมาในฟาร์ม เธอเดินมาหารุ่นพี่ที่กำลังฉีดยาให้ลูกหมูน้อยที่เพิ่งเกิดใหม่
“มาแล้วเหรอครับหมอน้อง” พลชหยุดมือที่กำลังทำงานแล้วหันมาถามผู้มาใหม่ที่ถือกระเป๋าอุปกรณ์ติดมือมาด้วย
“ค่ะ พี่หมอไม้ ขอโทษนะคะที่ช้า พอดีวันนี้น้องรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยค่ะ” เธอแสร้งทำหน้าให้ดูเหมือนป่วยทั้งๆ ที่จริงแล้วหน้าก็ซีดจริงแหละ ซีดเพราะถูกดูดพลังงานจากเจ้าของฟาร์มมากกว่า
“งั้นกลับไปนอนพักก็ได้ครับ ทางนี้พี่จัดการเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่หมอไม้ น้องไหวค่ะ อีกอย่างน้องกินยามาแล้วค่ะ” เธอโกหกเขาออกไป
“แต่พี่ว่าสีหน้าหมอน้องดูไม่ดีเลยนะ” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินมาหาเธอพร้อมยกมือยื่นออกไปจะแตะอังหน้าผากเธอ แต่เธอขยับตัวถอยห่างออกไปก่อน
‘อย่าให้ใครแตะต้อง นอกจากฉันเด็กน้อง’ แล้วเสียงหนึ่งก็ดังลอยมาปะทะข้างแก้ม เธอมองไปด้านข้างมองหาเจ้าของเสียงที่จำได้ขึ้นใจก็ไร้เงาของเขา มีเพียงสายลมที่พัดผ่านเท่านั้น
‘หูแว่วเหรอเนี่ย’ เธอพึมพำในใจแล้วก็มีเสียงตอบกลับมายืนยัน
‘มองมาด้านข้างสิ แล้วเธอจะเห็นฉัน แต่คนอื่นไม่เห็นฉัน’ เขาบอกเธอแล้วเธอก็หันมาเจอร่างสูงใหญ่ในชุดเรียบร้อย เขาใส่กางเกงยีนส์ขายาวกับเสื้อยืดคอกลมสีดำ
‘คุณมาได้ยังไง คุณเป็นอะไรกันแน่คุณนาสูร’ เธอถามเขากลับในใจ
‘ยักษ์’ นาสูรตอบสั้นๆ แล้วก็หายวับไปจากตรงนี้ทันที
‘ใครจะเชื่อ ยักษ์มีแต่ในละครและหนังเท่านั้นแหละ’ เธอพึมพำตอบกลับแล้วก็มีเสียงหัวเราะดังตอบกลับมา
หึหึ
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ” พลชเก็บมือตัวเองเมื่อคนตัวเล็กไม่ต้อนรับความห่วงใย และสงสัยทำไมเธอขมวดคิ้วตลอดเลยเหมือนมีอะไรในใจ
“อ้อ...ไม่มีอะไรค่ะพี่หมอไม้ ขอบคุณนะคะ น้องไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ค่ะตอนนี้” เธอบอกเขาและขอบคุณในความห่วงใย
“งั้นก็ดีแล้วครับ ทำงานกันเถอะ วันนี้พี่ว่าจะไปกินหมูกระทะ ไปกับพวกเราไหม มีพี่และเพื่อนๆ หมอในฟาร์มเราเนี่ยแหละ” เขาเอ่ยชวน
“หมูกระทะเหรอคะ น้องนึกอยากพอดีเลย”
‘ฉันไม่ให้เธอไปน้อง’ แล้วเสียงหนึ่งก็ดังห้ามขึ้นมา ทำให้เธอมองหาเจ้าของต้นเสียงพร้อมอมยิ้มน้อยๆ แล้วก็ตอบกลับพลชทันที
“ไปค่ะ กี่โมงคะ” ห้ามไปสิ ก็อยากไปนี่
“หกโมงครับ เจอกันร้านในเมืองร้านรมย์เย็นหมูกระทะครับ”
“โอเคค่ะ งั้นรีบทำงานกันเถอะพี่หมอไม้ อยากกินหมูกระทะแล้ว” เธอบอกเขา
“ครับ งั้นทำงานกันเถอะ” แล้วทั้งสองก็แยกกันทำงานของตัวเอง
ด้านฝั่งนาสูร ตอนนี้ได้แต่นั่งกัดกรามแน่นพร้อมกับในมือมีแก้วบรั่นดีถืออยู่ด้วย เขากำแก้วในมือแน่นจนแตกคามือ
เพล้ง!
พอแก้วในมือแตกก็ปาทิ้งลงพื้น เขามองเลือดของเขาที่ไหลออกมาแล้วก็เป่าลมใส่มือเพียงหนึ่งครั้ง แผลแก้วแตกบาดมือก็หายไปทันที
“ดื้อกับฉันใช่ไหมน้อง”
เขาพึมพำกับตัวเองด้วยความเดือดดาลพร้อมกับสีตาที่ดำสนิทเปลี่ยนเป็นสีไฟลุกขึ้นมาทันที และลมฟ้าอากาศด้านนอกก็แปรปรวนจากที่มีแดดก็เป็นมืดครึ้มมีฝนตกลงมา
เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!
เสียงฟ้าร้องฟ้าแลบบอกถึงอารมณ์เดือดของเขาได้ดีทีเดียว และพาทีก็รีบมาหาผู้เป็นนายทันทีเมื่อรับรู้ถึงความกรุ่นโกรธของผู้เป็นนายตน
“คุณท่าน” เมื่อโผล่มาก็มองไปยังพื้นที่เต็มไปด้วยเศษแก้วและคราบเลือดที่ยังไม่แห้งดี พาทีอดกลืนน้ำลายเสียวสันหลังกับผู้ที่ทำให้นาสูรบันดาลโทสะในตอนนี้ไม่ได้เลย
“หล่อนดื้อ ไม่ฟังคำสั่งฉัน”
เขาตวัดดวงตาสีไฟลุกมามองทางคนสนิทพร้อมกับกัดกรามแน่นจนมีเสียงลอดออกมาจากริมฝีปาก
กรอด!
อึก!
พาทีกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอพร้อมมองไปยังด้านนอกหน้าต่างที่ตอนนี้ลมพายุกำลังโหมกระหน่ำรุนแรงตามไฟโทสะของผู้เป็นนาย และรู้แล้วว่านาทีนี้พุดซ้อนดื้อผิดคนเสียแล้ว
“เจ้านายโกรธเธอเรื่องอะไรครับ” พาทีถามออกไปเสียงเบาด้วยกลัวไฟโทสะจะฟาดใส่ตนเอง
“หล่อนจะไปกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน ทั้งๆ ที่ฉันห้ามแล้วไม่ให้ไป” เขาบอกกลับ
เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!
“นายหึงเธอ”
“อย่าเอาความรู้สึกมนุษย์มายัดเยียดให้ฉันพาที ที่ฉันโกรธตอนนี้เพราะหล่อนดื้อไม่เชื่อฟัง ทั้งๆ ที่หล่อนเป็นของฉัน” นาสูรปฏิเสธกลับเสียงห้วน
ส่วนพาทีก็ได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอเมื่อนึกถึงภัยร้ายกับหญิงสาวอีกคน ลองได้ดื้อแบบนี้แล้วไม่รู้จะโดนอะไรหากกลับมาจากข้างนอก หรือบางทีอาจไม่ได้ไปไหนเลยก็ได้ เพราะพายุด้านนอกกำลังโหมซัดรุนแรงทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีเค้าเลยสักนิดเดียว
“อย่าเอาความรู้สึกมนุษย์ต่ำต้อยมายัดเยียดให้ฉันอีกจำไว้พาที ไปซะ! ไปไหนก็ไปซะ!” คนที่กำลังเดือดดาลเอ่ยไล่คนสนิททันที
“ครับท่าน” แล้วพาทีก็หายไปจากตรงนี้ทันที
เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!
นาสูรมองไปด้านนอกที่ตอนนี้พายุฝนกำลังทำงานตามอารมณ์กรุ่นโกรธของตัวเอง ดวงตาเปลี่ยนสลับไปมาแดงเป็นเขียวแล้วเขี้ยวยักษ์ก็งอกออกพร้อมกับคิ้วของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ในตอนนี้เขาควบคุมอารมณ์โกรธตัวเองไม่ได้ แม้จะพยายามกำมือแน่น สั่งตัวเองให้ทุเลาความไม่พอใจครั้งนี้ลงแล้ว
“หล่อนกล้ามากน้อง กล้ามากที่ขัดคำสั่งฉัน รู้ไหมว่าไม่เคยมีมนุษย์คนไหนกล้าขัดคำสั่งฉันมาก่อน”
แล้วเสียงพึมพำของเขาก็ส่งตามลมพายุให้คนที่อยู่ในฟาร์มได้ยิน
อือ!
พุดซ้อนรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงห้วนดังลอยตามลมพายุ ตอนนี้เธอหลบฝนในฟาร์มไม่สามารถกลับไปที่สำนักงานหรือห้องพักได้ ส่วนพลชเองก็เหมือนกันกับเธอ และก็นึกแปลกใจทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แดดจ้ามาก แดดแรงจนจะละลายได้แต่ตอนนี้กลับมีลมพายุขึ้นมาและฝนก็ตกหนักมาก