บทที่ 6 ใบ้แดกอยู่คนเดียว

1557 Words
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเมาค้าง รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรงและแทบไม่อยากขยับไปไหน เพราะฉันได้วางแผนเรื่องนี้เอาไว้แล้วจึงทำให้สบายใจเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ไม่ต้องไปทำงาน ความจริงนอกจากงานบริษัทแล้วฉันยังมีหน้าที่ต้องคอยดูแลคุณนายบุหงา เป็นเลขาส่วนตัวคอยรับใช้ในวันหยุด แต่ในวันนี้ฉันก็ได้ขออนุญาตเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ฉันเรียนจบและเข้าทำงานเป็นเลขาคุณบุหงาก็ปล่อยให้ฉันมีเวลาเป็นของตัวเองในวันเสาร์อาทิตย์ เธอไม่ใช้คนร้ายกาจและยังรักฉันเหมือนลูกสาวคนหนึ่งออกจะหวงฉันด้วยซ้ำ กระทั่งไปเรียนหนังสือคุณบุหงายังเมตตาให้รถคอยรับส่ง คนที่ไม่สนิทด้วยหลายคนจึงมักจะเข้าใจผิดว่าฉันเป็นลูกเศรษฐี แต่ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนนักหรอกและฉันไม่สนใจความคิดของพวกเขาด้วย ฉันบิดขี้เกียจและลืมตาขึ้นมองไปรอบ ๆ ไม่มีแว่นตาฉันเห็นไม่ชัดนักแต่ก็รับรู้ได้ว่าฉันกำลังนอนอยู่บนเตียงคนเดียว เพื่อให้แน่ใจฉันจึงใช้มือตบ ๆ ที่ข้างเตียงแต่ก็เป็นดังที่คิดเพราะไม่เห็นผู้ชายที่เพิ่งมีสัมพันธ์สวาทกันเมื่อคืนนอนอยู่ข้าง ๆ หรือว่าเขาจะกลับไปแล้ว อะไรกันจะไม่พูดจากันหน่อยเหรอ ถึงฉันจะไม่ค่อยได้แต่งตัวแต่ฉันมั่นใจว่าร่างกายที่แท้จริงของฉันเองก็สวยไม่แพ้ใคร แน่ละ ฉันเป็นคนสวยจัดคนหนึ่งจนคุณนายบุหงากลัวว่าจะตกเป็นเมียน้อยเจ้าสัวเข้าสักวัน ฉันถึงได้กลายเป็นคนที่เหมือนจะทึนทึกแบบนี้น่ะสิ ฉันถอนหายใจออกมา รู้สึกโมโหเขาอยู่ไม่น้อย แต่แล้วฉันก็ได้ยินเสียงน้ำฝักบัวดังมาจากห้องน้ำโรงแรมและคิดว่าน่าจะเป็นเขา เอาละสิ ตอนนี้ฉันกลับใจเต้นแรง เมื่อตอนนี้ไม่ได้เมาแล้วฉันจะพูดจะทักทายเขายังไงดี กลายเป็นความเสียใจเล็ก ๆ ที่เขาไม่ได้กลับไปก่อนอย่างที่คิด ฉันขยับตัวและแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมจนถึงลำคอ แม้ว่าเขาจะเห็นร่างกายของฉันทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ยังไงฉันก็ยังกระดากอยู่ดี แต่เพียงขยับตัวเท่านั้นแหละ แม่เจ้า ฉันเกือบจะร้องออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บที่บริเวณกลางลำตัว ฉันหวนนึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ใบหน้าของฉันเกิดเห่อร้อนและรู้สึกอับอาย อาการเจ็บแปลบยังคงอยู่และความรู้สึกนั้นก็เหมือนเพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อสักครู่ ความรู้สึกชอบในการมีอะไรกับเขา ฉันก้มหน้าลงและกำมือแน่นเมื่อรู้สึกเจ็บขึ้นมาอีก มันไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้นแต่เพราะความรู้สึกอายจึงทำให้เกิดอาการอ่อนไหวเป็นพิเศษในบริเวณนั้น กระทั่งฉันได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ ตอนแรกตั้งใจว่าจะแกล้งหลับแต่ฉันก็ดันคิดว่ามันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อตั้งใจที่จะลองคบกับเขาฉันก็ควรที่จะกล้าคุยกับเขาอย่างตรงไปตรงมา ฉันได้กลิ่นครีมอาบน้ำหอมกรุ่นเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ ฉันยังไม่กล้ามองเขาตอนนี้ฉันนั่งชันเข่า หลังพิงหัวเตียงและกำลังก้มหน้า เขาเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น จนกระทั่งฉันมองเห็นช่วงเอวของเขาที่พันผ้าขนหนูไว้โดยรอบ และเห็นกล้ามท้องเป็นลอนสวย ๆ ที่โผล่ออกมาอย่างชัดเจน ฉันกำลังอ้าปากจะพูด แต่เขากลับก้มลงมาถามเสียงเบา "ตื่นแล้วเหรอ รู้สึกยังไงบ้างยังเจ็บหรือเปล่า" ฉันกะพริบตา เสียงนี่ ทำไมคุ้นเคยแบบนี้ละ ฉันหูฝาดและเป็นความเพ้อเจ้อต่อเนื่องจากเมื่อคืนหรือเปล่าที่ฉันคิดว่านอนกับเจ้านายของตัวเองที่ฉันแอบปลื้มแต่ไม่คิดจะผูกพันกันคนแบบเขา ฉันเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว และความเป็นจริงก็แทบทำให้ฉันอยากกัดลิ้นของตัวเองให้ตายลงตรงนี้ ฉันยกมือขยี้ตา อาการเมาค้างเหมือนจะหายเป็นปลิดทิ้ง ฉันยังขยี้ตาอีกเพราะฉันมองไม่ค่อยชัดด้วยไม่มีแว่นตาเห็นหน้าเจ้านายลอยอยู่ใกล้ ๆ จึงคิดว่าตัวเองกำลังตาฝาด "เอ๊า แว่นตา" ผู้ชายที่มีเสียงเหมือนเจ้านายส่งแว่นให้ฉัน และในตอนที่ฉันรับมามือของฉันเองก็สั่นเล็กน้อยทว่าภาพที่ปรากฏชัดเจนตรงหน้าหลังจากใส่แว่นทำให้ปากของฉันสั่นตามไปด้วยความตกใจ "จะ เจ้านาย คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" เขาขมวดคิ้วเข้มและกำลังนิ่วหน้าทั้งยังเม้มปาก "แล้วเธอคิดว่ายังไงละ" เสียงห้วนแกมดุ เขายกมุมปากและยิ้มหยัน แน่นอนว่ามันหล่ออย่างร้ายกาจและก็หยิ่งยโสในคราวเดียวกัน "ฉันไม่เข้าใจ เมื่อคืนฉันอยู่กับผู้ชายอีกคน ยังไงก็ไม่ใช่เจ้านายแล้วเขาหายไปไหนแล้วคะ แล้วเจ้านายมาอยู่นี่ได้ยังไง" เขานั่งลงตรงหน้าของฉัน หยดน้ำยังเกาะพราวอยู่บนลำตัวแน่นและงดงามแต่ฉันไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้แล้ว ในขณะที่เขามองฉันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าที่อยู่ในผ้าห่มของฉัน "เธออ่อยฉัน และฉันก็สนองตอบเธอแล้ว เธอยังจะแกล้งมาใสซื่ออะไรอีก" ฉันตัวลีบเล็ก คิดจนสมองแทบฝ่อ คิดว่าตัวเองไปอ่อยเขาตอนไหน "เมื่อคืนฉันไม่ได้เจอคุณเลย ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนของฉัน ฉันแน่ใจว่าไม่ได้เจอคุณมาก่อน" ฉันเถียงหัวชนฝา เขากำลังเข้าใจฉันผิด เข้าใจว่าฉันอ่อยเขาและทำให้เขามาลงเอยที่เตียงของฉัน "ให้ตายเถอะ เธอจำไม่ได้เหรอว่าเจอฉันหน้าห้องน้ำแล้วเธอแหวกเสื้อโชว์ร่องนมให้ฉันดู ยังไม่พอยังพาฉันไปในห้องคาราโอเกะ บอกจะนอนกับฉันคนเดียว จะให้ฉันเปิดซิงและเราก็มาลงเอยกันที่นี่" ฉันส่ายหน้า ไม่จริงนะ ฉันยกมือขยุ้มหัวของตัวเอง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นตอนไหน ฉันต้องถามใครสักคนที่ฉันไปด้วย และเจ้านายก็โยนโทรศัพท์ให้ฉัน "โทรสิถ้าอยากรู้ว่าพฤติกรรมของตัวเองน่าขายหน้าแค่ไหน" "เจ้านายอย่าตลก ฉันมากับคู่เดทของฉัน" "ผู้ชายคนนั้นเหรอ เธอไล่เขากลับไปเอง เขาคงไม่มองหน้าเธอแล้วละ เฮะ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเป็นเธอจนกระทั่งได้ยินเพื่อนเธอเรียกชื่อเลยเข้ามาดูใกล้ ๆ เอพริลเธอนี่มันขี้อ่อยชะมัด แต่ฉันจะบอกให้นะฉันแค่สงสารเพราะเห็นเธอต้องการนัก หลังจากวันนี้เราสองคนก็จบกัน เข้าใจ" เขาทำเสียงสูงในท้ายประโยค ฉันสบกับดวงตาคมกริบของเขาและกำลังหยั่งเชิงว่าเขาโกหกหรือเปล่า แต่คนมีสติในตอนนั้นไม่ใช่ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าฉันเมาแล้วทำเรื่องเลอะเทอะอะไรไว้ และตอนนี้คำพูดของเขาก็เหมือนกับตบหน้าของฉัน ร่างกายของฉันชาไปทั้งตัวรู้สึกเหมือนถูกผึ้งทั้งฝูงรุมต่อย  ฉันเห็นเขาสูดลมหายใจเข้าลึก และท่าทางของเขาแบบนี้ฉันที่อยู่ใกล้ชิดกับเขามาสามปีย่อมรู้ว่าเขากำลังหงุดหงิดแค่ไหน เขากำลังหงุดหงิดที่ฉันจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ ทั้งหมดเขาโทษว่าเป็นความผิดฉัน เขาลุกขึ้นแล้วดึงผ้าเช็ดตัวออกจากตัวเช็ดจนเนื้อตัวแห้ง เขาแต่งตัวด้วยความเร็วยังไม่มองมาที่ฉันอีก "ฉันจะกลับบ้านส่วนเธอก็จัดการตัวเองก็แล้วกัน เราสองคนก็แค่ one night stand เข้าใจ" เขาลงเสียงสูงที่ท้ายประโยคอีกครั้ง ฉันตอบรับเบา ๆ "ค่ะ ฉันไม่คิดผูกพันกับใคร ก็แค่อยากลองเท่านั้น เจ้านายเองก็อย่ามาจริงจังกับฉันเหมือนกัน" ฉันเห็นท่าทางเหมือนไปโดนใครด่าแม่มาของเขาแล้วก็เลยไม่พูดต่อ เขามองฉันตาแดงก่ำยังทำท่าโกรธฉันอีก ทั้ง ๆ ที่คนเสียตัวคือฉันและคนที่เข้าใจผิดคือฉัน ทำไมเขาถึงได้โกรธจนฉันไม่กล้าที่จะโกรธกันละ คงเป็นเพราะสัญชาตญาณเลขาของฉันที่ต้องดูแลเขาไม่ว่าในเวลาไหนก็ตาม  เขาเดินออกไปโดยไม่สนใจฉันอีก แน่นอนว่าฉันยังมีเวลาถึงพรุ่งนี้เช้าเพราะลาคุณนายบุหงาเอาไว้สองวัน และฉันยังไม่พร้อมที่จะกลับไปเจอเขาที่บ้านจึงได้กดโทรศัพท์ลงไปที่โอเปอเรเตอร์ขอพักต่ออีกหนึ่งคืน ฉันนอนอยู่แบบนั้นคิดทบทวนไปมาหลายครั้ง และคิดจะโทรหาเพื่อนของฉันแต่ทว่าฉันก็มั่นใจว่าคนอย่างเจ้านายต้องไม่โกหกฉันในเรื่องพวกนี้แน่ ๆ  ฉันกำลังประสาทแดกอยู่คนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD