Chapter 4

1731 Words
วันต่อมา... ลูกปลามาถึงที่โรงพยาบาลในเวลาเช้า เธออยากจะเร่งให้แม่ได้ย้ายไปที่โรงพยาบาลดีๆก็เลยคิดว่าไปขึ้นเช็คเสร็จจะไปทำเรื่องย้ายแม่ก่อนเลยอันดับแรก เธอเดินเข้ามาในห้องรวมของโรงพยาบาลก็เจอแม่กำลังพยายามจะลุกขึ้นไปหยิบน้ำ ลูกปลาเห็นดังนั้นรีบวิ่งไปประคองท่านไว้ก่อนจะเทน้ำใส่แก้วให้ด้วยตัวเอง "ทำไมไม่เรียกพ่อจ๊ะ ลุกเองทำไม" "ลูกปลา มาตอนไหนลูกแม่คิดถึงเอ็งมากรู้มั้ย" ผู้เป็นแม่เห็นลูกก็ดึงเด็กสาวเข้ามาสวมกอดด้วยความคิดถึง หญิงสาวสวมกอดกลับอย่างมีความสุข ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของคนเป็นแม่อีกครั้ง เธอตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกทางนี้ ถึงมันจะดูไร้ศักดิ์ศรีแต่ทุกคนยิ้มได้แบบนี้เธอก็ดีใจแล้ว "หนูก็คิดถึงแม่จ๊ะ วันนี้เราจะย้ายโรงพยาบาลไปเอกชนนะจ๊ะแม่" ผู้เป็นแม่ผละออกก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่จริงจังมาก "แม่ถามเอ็งจริงๆนะลูกปลา เอาเงินมาจากไหนกัน" "เจ้านายให้มาจ๊ะแม่ แต่หนูต้องไปทำงานให้เขานานหลายปี แต่แม้ไม่ต้องกังวลนะหนูไม่ได้ทุกข์ใจทรมานอะไรเลย มีความสุขดีด้วย" ผู้เป็นแม่มองลูกสาวที่ยิ้มแย้มเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไรก็คลายความเป็นห่วงลงนิดหน่อย แต่ก็มีแอบกังวลว่าลูกทำเพื่อครอบครัวมากเกินไปจนไม่รักตัวเอง เธออยากให้ลูกมีความสุขอะไรที่เหมือนทุกข์ก็ไม่อยากให้ลูกต้องเจอ "แม่จะเชื่อเอ็งนะลูกปลา ครั้งนี้แม่ขอให้เอ็งทำเพื่อครอบครัวครั้งสุดท้าย ต่อไปนี้ทำให้ตัวเองมีความสุขบ้างนะ" ลูกปลายิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย จากนี้เธอจะสบายขึ้นอย่างน้อยก็มีที่อยู่ไม่ต้องจ่ายทุกเดือน ข้าวปลาก็มีกินฟรีในระหว่างที่อยู่บ้านของคุณท่าน เงินในส่วนที่ได้มาหนึ่งล้านบาทพอให้คนที่บ้านเอาไปลงทุนหาอะไรทำเล็กๆได้แล้ว "จ๊ะแม่ งั้นหนูไปคุยกับหมอก่อนนะ แม่รออยู่ตรงนี้หนูจะรีบกลับมา" "ไปเถอะ" ลูกปลาเดินออกมาเพื่อไปขอคุยกับคุณหมอเรื่องย้ายโรงพยาบาล ดีที่คุณหมอท่านมีโรงพยาบาลแนะนำก็เลยส่งตัวให้เลยไม่ต้องยุ่งยาก ใช้เวลาทั้งวันเพื่อพาแม่ย้ายไปที่ใหม่ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของจังหวัดและแม่ก็ได้อยู่ห้องพิเศษดีๆอย่างคนอื่นเขา ซึ่งค่าใช้จ่ายในการผ่านตัดก็ไม่ได้มากขนาดนั้น สองแสนนิดๆแต่ว่าต้องมีค่าอย่างอื่นจนกว่าจะหายดีรวมๆคงจะเกือบห้าแสน ไม่ใช่ว่าจะหายทันทีเธอต้องเซฟเงินให้มีเยอะกว่านี้อีก "ห้องหรูมากเลยพี่ พ่อบอกว่าพี่ต้องลำบากเพื่อพวกเราขนาดไหน ผมขอโทษนะที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย" น้องชายของลูกปลาชื่อลูกอ๊อดมองพี่สาวอย่างเห็นใจ เขาอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระพี่สาวบ้างแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง "ตั้งใจเรียนให้จบก็พอแล้ว แม่บอกว่าเราเรียนเก่งมากใช่มั้ย อยากเรียนคณะอะไรบอกพี่มาสิ" "อยากเรียนหมอครับ แต่คงยากค่าใช้จ่ายมันเยอะ" ลูกปลายิ้มออกมาก่อนจะดึงน้องชายเข้าไปกอด "พี่ส่งเราได้ ไปสอบให้ติดก็พอ" เธออยากจะให้น้องได้เรียนคณะดีๆ ยิ่งเรียนหมอยิ่งอยากส่งเสริม อย่างน้อยถ้าเรียนจบมาเงินเดือนสูงมากครอบครัวของเธอจะได้สบายขึ้น "เอาอย่างนั้นเหรอพี่" ลูกอ๊อดมองพี่สาวอย่างลังเล เขาจะสอบชิงทุนก็น่าจะได้ แต่ค่าใช้จ่ายในการเรียนน่ากังวลกว่า แต่ถ้าพี่สาวพูดแบบนี้เขาจะเรียนต่อ อย่างน้อยจบมางานรองรับและมีเงินเดือนมากพอที่จะดูแลพ่อกับแม่และพี่ด้วย "เอาแบบนั้นแหละ" "งั้นผมจะลองสอบชิงทุนดูก่อน ถ้าได้ขึ้นมาพี่จะสบายขึ้นเยอะเลย" "แบบนั้นยิ่งดีเลยน้องชาย" พี่น้องทั้งสองคนสวมกอดกันแน่นโดยอยู่ในสายตาของคนเป็นพ่อแม่ ท่านทั้งสองหันมาสบตากันก่อนจะยิ้มให้แก่กัน ความโชคดีของพวกเขาทั้งสองคนคือได้ลูกที่ดีไม่เกเรเหมือนอย่างเด็กคนอื่น "คืนนี้แม่ต้องอดอาหารแล้วนะอยากทานของอร่อยมั้ยหนูจะไปซื้อมาให้" "เอาอะไรง่ายๆก็ได้ลูก หมูปิ้งสองสามไม้ก็พอ" "ได้ยังไงกันจ๊ะ หนูมาทั้งทีต้องทานของดีๆสิแม่จะได้มีแรงผ่าตัด เดี๋ยวมานะ" ลูกปลาเดินออกไปสั่งของดีๆหลายอย่างมาทานกับครอบครัว วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอได้อยู่พร้อมหน้ากันกับครอบครัว ได้ทานของอร่อยด้วยกัน "แม่ทานเยอะๆนะ พ่อด้วยดูสิผอมมากเลย" "พ่อทำไร่นะโว๊ยไม่ได้นั่งห้องแอร์ จะให้อ้วนท้วมสมบูรณ์มันใช่ที่ไหน" ทั้งสี่คนหัวเราะร่าไปด้วยกันอย่างมีความสุข แค่นี้ก็ดีมากที่สุดในชีวิตของลูกปลาแล้ว จากนี้ไปเธอต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ถึงลึกๆเธอจะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองจะต้องไปเป็นเครื่องผลิตเด็กให้คนรวย แต่ถ้าเธอได้เลี้ยงและดูแลเองกับมือมันจะทำให้เธออยากใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนาน สามวันต่อมา... หลังจากการผ่านตัดเป็นไปได้ด้วยดีลูกปลาก็ต้องกลับมาที่กรุงเทพเพื่อทำตามสิ่งที่รับปากคุณท่านไว้ ตอนนี้ท่านกำลังเดินทางมารับเธอที่ห้อง หญิงสาวเตรียมของเสร็จก็ลงไปรอหน้าหอพัก ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีรถตู้ก็เคลื่อนที่มาจอดตรงหน้า ประตูถูกเปิดออกเธอยกมือไหว้คุณท่านก่อนจะขึ้นมานั่งบนรถ "สวัสดีค่ะคุณท่าน" "แม่เป็นยังไงบ้างลูก ผ่านไปด้วยดีใช่มั้ย" "ค่ะคุณท่าน ปลอดภัยแล้วค่ะ" ลูกปลายิ้มออกมาอย่างสบายใจ คุณหญิงเห็นเด็กสาวยิ้มได้ก็ค่อยโล่งอกหน่อย แบบนี้จะได้เอาเวลาไปทำในสิ่งที่ตกลงกันไว้สักที เมื่อมาถึงที่บ้านลูกปลาถึงกับตาโต เพราะบ้านที่เธอต้องมาอยู่หรูหราไม่ต่างจากคฤหาสน์ขนาดใหญ่ แม่บ้าน คนขับรถ คนสวนรวมๆน่าจะเป็นสิบคน ไม่แปลกใจเลยว่าท่านพูดถึงเรื่องเงินแสนเงินล้านเหมือนมันเป็นเพียงเศษเงินเท่านั้น "ห้องหนูลูกปลาเสร็จหรือยัง" "เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหญิง" "ดีมาก ทุกคนรู้จักเด็กคนนี้ไว้นะ เธอชื่อลูกปลาเป็นเชฟส่วนตัวของฉันจะมาอยู่ที่นี่ จะเป็นคนดูแลอาหารหารกินของฉันทั้งหมด" ลูกปลายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนอย่างนอบน้อมพร้อมกับแนะนำตัวใครมาเห็นต่างก็เอ็นดูในความใสซื่อของเธอ "สวัสดีค่ะ หนูชื่อลูกปลาค่ะยังไงฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ" "น่ารักเชียวนะคะคุณหญิง" "แน่นอนสิคนของฉัน ฉันคัดมาเองกับมือ ยังไงดูแลหนูลูกปลาให้ดีที่สุดด้วย ไปดูห้องกันลูกนี่มันก็เย็นแล้วฉันจะให้หนูพักก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยมาทำเมนูอร่อยให้ฉันทาน" คุณหญิงพาลูกปลาขึ้นไปชั้นบนเพื่อพาไปดูห้องนอนของเธอ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากห้องของลูกชายเธอมากนักเพราะสองคนจะได้บังเอิญเจอกันบ่อยๆ "ให้ลูกปลาอยู่กับป้าๆก็ได้ค่ะ รู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ที่ได้อยู่ห้องหรูขนาดนี้" "คิดมากน่าเรานี่ นอนพักนะจ๊ะขาดเหลืออะไรบอกป้าพิมได้เลยนะ" "ขอบคุณนะคะสำหรับทุกอย่างเลย" ลูกปลาซาบซึ้งในความใจดีของท่านที่มีต่อเธอมากขนาดนี้ คุณหญิงลูบผมเด็กน้อยอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับแม่บ้านที่ชื่อพิม "ดูแลหนูลูกปลาด้วยนะพิม เด็กคนนี้คนของฉัน" พิมมองนายหญิงของบ้านอย่างสงสัย อยู่ๆพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านแถมสวยมากอีกต่างหาก เหมือนมีแผนอะไรอยู่นอกเหนือจากที่พูดมา "พิมอดสงสัยไม่ได้เลยนะคะว่าคุณหญิงจะจ้างเชฟทำไม แม่บ้านก็ทำอาหารเป็นกันหลายคน" คุณหญิงหันไปมองแม่บ้านคนสนิทก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ "เธอคิดว่าไงล่ะพิม..." "คิดว่าคุณท่านกำลังจะจับคู่คุณหนูลูกปลาให้คุณภานุใช่มั้ยคะ" พิมเอ่ยถามตามตรง เธออยู่กับคุณท่านมาสามสิบปีไม่มีทางที่จะเดาใจเธอไม่ออก "เก่งนี่.. อย่าพูดไปล่ะฉันจะไปนอนพักแล้ว" คุณหญิงยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป พิมส่ายหน้ายิ้มๆยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจในการจับคู่ให้ลูกชายอีกนะ แต่ก็นั้นแหละท่านอยากมีหลานมากคงสรรหาทุกวิธีมาทำแหละ ประตูห้องลูกปลาถูกเปิดออก เธอเรียกพิมไว้ก่อนจะที่เธอจะเดินลงไปชั้นล่าง "ป้าพิมคะ" "ว่าไงคะคุณลูกปลา" พิมหันกลับไปหาลูกปลาก่อนจะเอ่ยถาม เธอเดินมายืนตรงหน้าก่อนจะยิ้มแห้งๆ "เรียกลูกปลาเฉยๆก็ได้ค่ะ หนูมาที่นี่ก็เป็นลูกจ้างคนหนึ่งเหมือนกัน เอ็นดูหนูเหมือนลูกเหมือนหลานเถอะนะคะ" พิมยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูในคำพูดของเด็กตรงหน้า "จ๊ะ แล้วหนูมีอะไรรึเปล่า" "ลูกปลาใช้ชักโครกไม่เป็นค่ะ อย่าหัวเราะเลยนะคะคือลูกปลาไม่เคยอยู่บ้านคนรวย ไม่รู้ว่าเทคโนโลยีที่นี่มันยุ่งยากขนาดไหน" พิมหลุดขำออกมาก่อนจะพาลูกปลาไปสอนการใช้งานทุกอย่างในห้องของเธอด้วยความเอ็นดูหญิงสาว "เรานี่นะ มิน่าคุณหญิงถึงชอบใสซื่อจริงๆ มาค่ะป้าจะสอนใช้งานเอง" "ขอบคุณนะคะป้าพิม ใจดีจังเลย"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD