วันต่อมา...
ลูกปลามาถึงที่โรงพยาบาลในเวลาเช้า เธออยากจะเร่งให้แม่ได้ย้ายไปที่โรงพยาบาลดีๆก็เลยคิดว่าไปขึ้นเช็คเสร็จจะไปทำเรื่องย้ายแม่ก่อนเลยอันดับแรก เธอเดินเข้ามาในห้องรวมของโรงพยาบาลก็เจอแม่กำลังพยายามจะลุกขึ้นไปหยิบน้ำ ลูกปลาเห็นดังนั้นรีบวิ่งไปประคองท่านไว้ก่อนจะเทน้ำใส่แก้วให้ด้วยตัวเอง
"ทำไมไม่เรียกพ่อจ๊ะ ลุกเองทำไม"
"ลูกปลา มาตอนไหนลูกแม่คิดถึงเอ็งมากรู้มั้ย"
ผู้เป็นแม่เห็นลูกก็ดึงเด็กสาวเข้ามาสวมกอดด้วยความคิดถึง
หญิงสาวสวมกอดกลับอย่างมีความสุข ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของคนเป็นแม่อีกครั้ง เธอตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกทางนี้ ถึงมันจะดูไร้ศักดิ์ศรีแต่ทุกคนยิ้มได้แบบนี้เธอก็ดีใจแล้ว
"หนูก็คิดถึงแม่จ๊ะ วันนี้เราจะย้ายโรงพยาบาลไปเอกชนนะจ๊ะแม่"
ผู้เป็นแม่ผละออกก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่จริงจังมาก
"แม่ถามเอ็งจริงๆนะลูกปลา เอาเงินมาจากไหนกัน"
"เจ้านายให้มาจ๊ะแม่ แต่หนูต้องไปทำงานให้เขานานหลายปี แต่แม้ไม่ต้องกังวลนะหนูไม่ได้ทุกข์ใจทรมานอะไรเลย มีความสุขดีด้วย"
ผู้เป็นแม่มองลูกสาวที่ยิ้มแย้มเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไรก็คลายความเป็นห่วงลงนิดหน่อย แต่ก็มีแอบกังวลว่าลูกทำเพื่อครอบครัวมากเกินไปจนไม่รักตัวเอง เธออยากให้ลูกมีความสุขอะไรที่เหมือนทุกข์ก็ไม่อยากให้ลูกต้องเจอ
"แม่จะเชื่อเอ็งนะลูกปลา ครั้งนี้แม่ขอให้เอ็งทำเพื่อครอบครัวครั้งสุดท้าย ต่อไปนี้ทำให้ตัวเองมีความสุขบ้างนะ"
ลูกปลายิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย จากนี้เธอจะสบายขึ้นอย่างน้อยก็มีที่อยู่ไม่ต้องจ่ายทุกเดือน ข้าวปลาก็มีกินฟรีในระหว่างที่อยู่บ้านของคุณท่าน เงินในส่วนที่ได้มาหนึ่งล้านบาทพอให้คนที่บ้านเอาไปลงทุนหาอะไรทำเล็กๆได้แล้ว
"จ๊ะแม่ งั้นหนูไปคุยกับหมอก่อนนะ แม่รออยู่ตรงนี้หนูจะรีบกลับมา"
"ไปเถอะ"
ลูกปลาเดินออกมาเพื่อไปขอคุยกับคุณหมอเรื่องย้ายโรงพยาบาล ดีที่คุณหมอท่านมีโรงพยาบาลแนะนำก็เลยส่งตัวให้เลยไม่ต้องยุ่งยาก ใช้เวลาทั้งวันเพื่อพาแม่ย้ายไปที่ใหม่ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของจังหวัดและแม่ก็ได้อยู่ห้องพิเศษดีๆอย่างคนอื่นเขา ซึ่งค่าใช้จ่ายในการผ่านตัดก็ไม่ได้มากขนาดนั้น สองแสนนิดๆแต่ว่าต้องมีค่าอย่างอื่นจนกว่าจะหายดีรวมๆคงจะเกือบห้าแสน ไม่ใช่ว่าจะหายทันทีเธอต้องเซฟเงินให้มีเยอะกว่านี้อีก
"ห้องหรูมากเลยพี่ พ่อบอกว่าพี่ต้องลำบากเพื่อพวกเราขนาดไหน ผมขอโทษนะที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย"
น้องชายของลูกปลาชื่อลูกอ๊อดมองพี่สาวอย่างเห็นใจ เขาอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระพี่สาวบ้างแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง
"ตั้งใจเรียนให้จบก็พอแล้ว แม่บอกว่าเราเรียนเก่งมากใช่มั้ย อยากเรียนคณะอะไรบอกพี่มาสิ"
"อยากเรียนหมอครับ แต่คงยากค่าใช้จ่ายมันเยอะ"
ลูกปลายิ้มออกมาก่อนจะดึงน้องชายเข้าไปกอด
"พี่ส่งเราได้ ไปสอบให้ติดก็พอ"
เธออยากจะให้น้องได้เรียนคณะดีๆ ยิ่งเรียนหมอยิ่งอยากส่งเสริม อย่างน้อยถ้าเรียนจบมาเงินเดือนสูงมากครอบครัวของเธอจะได้สบายขึ้น
"เอาอย่างนั้นเหรอพี่"
ลูกอ๊อดมองพี่สาวอย่างลังเล เขาจะสอบชิงทุนก็น่าจะได้ แต่ค่าใช้จ่ายในการเรียนน่ากังวลกว่า แต่ถ้าพี่สาวพูดแบบนี้เขาจะเรียนต่อ อย่างน้อยจบมางานรองรับและมีเงินเดือนมากพอที่จะดูแลพ่อกับแม่และพี่ด้วย
"เอาแบบนั้นแหละ"
"งั้นผมจะลองสอบชิงทุนดูก่อน ถ้าได้ขึ้นมาพี่จะสบายขึ้นเยอะเลย"
"แบบนั้นยิ่งดีเลยน้องชาย"
พี่น้องทั้งสองคนสวมกอดกันแน่นโดยอยู่ในสายตาของคนเป็นพ่อแม่ ท่านทั้งสองหันมาสบตากันก่อนจะยิ้มให้แก่กัน ความโชคดีของพวกเขาทั้งสองคนคือได้ลูกที่ดีไม่เกเรเหมือนอย่างเด็กคนอื่น
"คืนนี้แม่ต้องอดอาหารแล้วนะอยากทานของอร่อยมั้ยหนูจะไปซื้อมาให้"
"เอาอะไรง่ายๆก็ได้ลูก หมูปิ้งสองสามไม้ก็พอ"
"ได้ยังไงกันจ๊ะ หนูมาทั้งทีต้องทานของดีๆสิแม่จะได้มีแรงผ่าตัด เดี๋ยวมานะ"
ลูกปลาเดินออกไปสั่งของดีๆหลายอย่างมาทานกับครอบครัว วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอได้อยู่พร้อมหน้ากันกับครอบครัว ได้ทานของอร่อยด้วยกัน
"แม่ทานเยอะๆนะ พ่อด้วยดูสิผอมมากเลย"
"พ่อทำไร่นะโว๊ยไม่ได้นั่งห้องแอร์ จะให้อ้วนท้วมสมบูรณ์มันใช่ที่ไหน"
ทั้งสี่คนหัวเราะร่าไปด้วยกันอย่างมีความสุข แค่นี้ก็ดีมากที่สุดในชีวิตของลูกปลาแล้ว จากนี้ไปเธอต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ถึงลึกๆเธอจะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองจะต้องไปเป็นเครื่องผลิตเด็กให้คนรวย แต่ถ้าเธอได้เลี้ยงและดูแลเองกับมือมันจะทำให้เธออยากใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนาน
สามวันต่อมา...
หลังจากการผ่านตัดเป็นไปได้ด้วยดีลูกปลาก็ต้องกลับมาที่กรุงเทพเพื่อทำตามสิ่งที่รับปากคุณท่านไว้ ตอนนี้ท่านกำลังเดินทางมารับเธอที่ห้อง หญิงสาวเตรียมของเสร็จก็ลงไปรอหน้าหอพัก
ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีรถตู้ก็เคลื่อนที่มาจอดตรงหน้า ประตูถูกเปิดออกเธอยกมือไหว้คุณท่านก่อนจะขึ้นมานั่งบนรถ
"สวัสดีค่ะคุณท่าน"
"แม่เป็นยังไงบ้างลูก ผ่านไปด้วยดีใช่มั้ย"
"ค่ะคุณท่าน ปลอดภัยแล้วค่ะ"
ลูกปลายิ้มออกมาอย่างสบายใจ คุณหญิงเห็นเด็กสาวยิ้มได้ก็ค่อยโล่งอกหน่อย แบบนี้จะได้เอาเวลาไปทำในสิ่งที่ตกลงกันไว้สักที
เมื่อมาถึงที่บ้านลูกปลาถึงกับตาโต เพราะบ้านที่เธอต้องมาอยู่หรูหราไม่ต่างจากคฤหาสน์ขนาดใหญ่ แม่บ้าน คนขับรถ คนสวนรวมๆน่าจะเป็นสิบคน ไม่แปลกใจเลยว่าท่านพูดถึงเรื่องเงินแสนเงินล้านเหมือนมันเป็นเพียงเศษเงินเท่านั้น
"ห้องหนูลูกปลาเสร็จหรือยัง"
"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหญิง"
"ดีมาก ทุกคนรู้จักเด็กคนนี้ไว้นะ เธอชื่อลูกปลาเป็นเชฟส่วนตัวของฉันจะมาอยู่ที่นี่ จะเป็นคนดูแลอาหารหารกินของฉันทั้งหมด"
ลูกปลายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนอย่างนอบน้อมพร้อมกับแนะนำตัวใครมาเห็นต่างก็เอ็นดูในความใสซื่อของเธอ
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อลูกปลาค่ะยังไงฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ"
"น่ารักเชียวนะคะคุณหญิง"
"แน่นอนสิคนของฉัน ฉันคัดมาเองกับมือ ยังไงดูแลหนูลูกปลาให้ดีที่สุดด้วย ไปดูห้องกันลูกนี่มันก็เย็นแล้วฉันจะให้หนูพักก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยมาทำเมนูอร่อยให้ฉันทาน"
คุณหญิงพาลูกปลาขึ้นไปชั้นบนเพื่อพาไปดูห้องนอนของเธอ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากห้องของลูกชายเธอมากนักเพราะสองคนจะได้บังเอิญเจอกันบ่อยๆ
"ให้ลูกปลาอยู่กับป้าๆก็ได้ค่ะ รู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ที่ได้อยู่ห้องหรูขนาดนี้"
"คิดมากน่าเรานี่ นอนพักนะจ๊ะขาดเหลืออะไรบอกป้าพิมได้เลยนะ"
"ขอบคุณนะคะสำหรับทุกอย่างเลย"
ลูกปลาซาบซึ้งในความใจดีของท่านที่มีต่อเธอมากขนาดนี้ คุณหญิงลูบผมเด็กน้อยอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับแม่บ้านที่ชื่อพิม
"ดูแลหนูลูกปลาด้วยนะพิม เด็กคนนี้คนของฉัน"
พิมมองนายหญิงของบ้านอย่างสงสัย อยู่ๆพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านแถมสวยมากอีกต่างหาก เหมือนมีแผนอะไรอยู่นอกเหนือจากที่พูดมา
"พิมอดสงสัยไม่ได้เลยนะคะว่าคุณหญิงจะจ้างเชฟทำไม แม่บ้านก็ทำอาหารเป็นกันหลายคน"
คุณหญิงหันไปมองแม่บ้านคนสนิทก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
"เธอคิดว่าไงล่ะพิม..."
"คิดว่าคุณท่านกำลังจะจับคู่คุณหนูลูกปลาให้คุณภานุใช่มั้ยคะ"
พิมเอ่ยถามตามตรง เธออยู่กับคุณท่านมาสามสิบปีไม่มีทางที่จะเดาใจเธอไม่ออก
"เก่งนี่.. อย่าพูดไปล่ะฉันจะไปนอนพักแล้ว"
คุณหญิงยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป พิมส่ายหน้ายิ้มๆยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจในการจับคู่ให้ลูกชายอีกนะ แต่ก็นั้นแหละท่านอยากมีหลานมากคงสรรหาทุกวิธีมาทำแหละ
ประตูห้องลูกปลาถูกเปิดออก เธอเรียกพิมไว้ก่อนจะที่เธอจะเดินลงไปชั้นล่าง
"ป้าพิมคะ"
"ว่าไงคะคุณลูกปลา"
พิมหันกลับไปหาลูกปลาก่อนจะเอ่ยถาม เธอเดินมายืนตรงหน้าก่อนจะยิ้มแห้งๆ
"เรียกลูกปลาเฉยๆก็ได้ค่ะ หนูมาที่นี่ก็เป็นลูกจ้างคนหนึ่งเหมือนกัน เอ็นดูหนูเหมือนลูกเหมือนหลานเถอะนะคะ"
พิมยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูในคำพูดของเด็กตรงหน้า
"จ๊ะ แล้วหนูมีอะไรรึเปล่า"
"ลูกปลาใช้ชักโครกไม่เป็นค่ะ อย่าหัวเราะเลยนะคะคือลูกปลาไม่เคยอยู่บ้านคนรวย ไม่รู้ว่าเทคโนโลยีที่นี่มันยุ่งยากขนาดไหน"
พิมหลุดขำออกมาก่อนจะพาลูกปลาไปสอนการใช้งานทุกอย่างในห้องของเธอด้วยความเอ็นดูหญิงสาว
"เรานี่นะ มิน่าคุณหญิงถึงชอบใสซื่อจริงๆ มาค่ะป้าจะสอนใช้งานเอง"
"ขอบคุณนะคะป้าพิม ใจดีจังเลย"