บทที่ 5 กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว

1637 Words
เมื่อสามพี่น้องเข้ามาในห้องจึงช่วยกันเก็บของต่าง ๆ ที่คิดว่าจำเป็น ส่วนของอย่างอื่นตู้เซียงเหมยไม่เอาอะไรมาเลย แม้แต่เสื้อผ้าของสามีร่างนี้ หญิงสาวและพี่ชายทั้งสองใช้เวลาไม่นานจึงมีสะใภ้ใหญ่ของบ้านเดินเข้ามา “สะใภ้รอง เธอจะไปจริง ๆ เหรอ” สะใภ้ใหญ่กวนชิงอ้ายเอ่ยถาม “พี่สะใภ้น่าจะได้ยินแล้วว่าแม่สามีไล่ฉันออกจากบ้าน อีกอย่างอยู่ที่นี่ฉันก็ไม่มีความสุขอยู่ดี พี่ก็รู้ว่าระหว่างฉันกับพี่หยวนต้านั้นมันไม่ได้ มีความรักให้แก่กัน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีเพียงฉันที่มอบให้ก็เถอะ แต่เวลาเปลี่ยนใจคนก็เปลี่ยน ตอนนี้ฉันมีแค่ลูกและครอบครัวตู้ที่เป็นบ้านเดิมเท่านั้น ส่วนพี่หยวนต้า หากเขากลับมาแล้วต้องการจะหย่าฉันก็ยินดี แม้ว่าเขาไม่พูดฉันก็ยินดีจะหย่าให้ มันพอแล้วล่ะพี่ ฉันขอบคุณพี่และพี่ใหญ่มากนะตลอดเวลาที่ฉันอยู่บ้านเหวิน มีเพียงพี่ทั้งสองคนเท่านั้นที่ช่วยเหลือและดูแลฉัน หากไม่มีนมพี่ลี่ลี่คงไม่โตมาจนขนาดนี้ ถ้าเกิดเมื่อไหร่ที่ฉันตั้งตัวได้ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของพี่ทั้งสองคนเลย” ตู้เซียงเหมยจับมือสะใภ้ใหญ่แล้วบีบเบา ๆ เพื่อให้รู้ว่าเธอขอบคุณจากใจจริง และหากเมื่อไหร่ที่เธอตั้งตัวได้เธอพร้อมที่จะช่วยเหลือและตอบแทนคนทั้งคู่ “นี่คือเงินเก็บบางส่วนของพี่และพี่หลง สะใภ้รองเก็บไว้ใช้ หรือซื้ออาหารมาทำกินนะ ลี่ลี่อายุเจ็ดเดือนแล้ว เป็นเด็กกำลังโต แม้ว่ามันอาจจะไม่มาก แต่พอใช้จ่ายได้สักพัก พี่ใหญ่ตู้ พี่รองตู้ ฉันฝากดูแลน้องสะใภ้และหลานลี่ลี่ด้วยนะ ไว้ว่าง ๆ ฉันจะแอบไปเยี่ยม พี่หลงฝากมาบอกว่าหากขาดเหลืออะไรให้รีบมาบอกเขา แม้ว่าอาจจะช่วยได้ไม่มาก แต่รวม ๆ กันมันก็พอได้อยู่ ฉันไปก่อนนะ ไม่อยากให้สะใภ้สามมาเห็นเดี๋ยวจะไปฟ้องแม่สามีอีก รู้ ๆ กันอยู่บ้านนี้เป็นยังไง” พูดจบกวนชิงอ้ายจึงยัดเงินที่มีเกือบสามหยวนใส่มือของน้องสะใภ้จากนั้นจึงมองซ้ายขวาและรีบเดินออกไป ไม่ใช่ว่ากลัวจะมีปัญหา แต่เธอและสามียังไม่พร้อมที่จะแยกบ้านตอนนี้ จึงทำได้เพียงแค่ทนเท่านั้น ตู้เซียงเหมยและพี่ชายทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างมีความหมายกับการกระทำของพี่ใหญ่เหวินและพี่สะใภ้ ทั้งสามคนจดจำบุญคุณนี้อยู่ในใจ แม้ว่าตู้เซียงเหมยอยากจะค*****นให้ก็ตามแต่เธอเลือกที่จะรับมา เพราะนี่คือข้ออ้างหากวันหนึ่งเธอคิดอยากจะช่วยเหลือพี่ใหญ่เหวินและพี่สะใภ้ เชื่อเถอะ ไม่นานความอดทนของพี่ใหญ่เหวินและสะใภ้ใหญ่ต้องหมดลง จากนั้นค่อยว่ากันว่าจะช่วยอย่างไร ทันทีที่เก็บของเรียบร้อยแล้ว ตู้เซียงเหมยและพี่ชายทั้งสองจึงเดินออกมาห้องเพื่อมาหาแม่ที่ยังคงมีปากเสียงกับแม่เฒ่าเหวินไม่จบไม่สิ้น “หอบของออกมาแบบนั้น ไม่ใช่ว่ามีของบ้านเหวินไปด้วยเหรอ” แม่เฒ่าเหวินยังคงหันมาจิกกัดตู้เซียงเหมยไม่รู้จบ ในเมื่อตอนนี้ลี่ลี่ลูกสาวตัวน้อยถูกพ่อตู้พากลับไปแล้ว เธอจะยอมให้ด่าอยู่ฝ่ายเดียวหรือ “แม่สามีจะเอายังไงกับฉันอีก ของพวกนี้มีเพียงเสื้อผ้าของฉันและลี่ลี่ อาจจะมีเครื่องสำอางเล็กน้อยที่ฉันซื้อไว้และเอามาจากบ้านเดิม ตลอดสองปีที่ผ่านมา เงินที่พี่หยวนต้าส่งมาให้ เคยถึงมือของฉันบ้างไหม แม่สามีรู้ดีที่สุดนะ จะต้องให้ฉันพูดอีกหรือเปล่าว่าเงินที่พี่หยวนต้าส่งมา ไม่ว่าฉัน หรือว่าลี่ลี่ไม่เคยมีใครได้รับเลยสักหยวน แม้แต่เฟินเดียวก็ไม่เคยเห็นแล้วในห้องที่ฉันอยู่ยังจะมีของมีค่าอะไรอีก แม่สามีช่วยตอบฉันหน่อยได้ไหม อีกเรื่อง หากแม่สามีหาภรรยาใหม่ให้กับพี่หยวนต้าแล้ว ก็ช่วยเขียนจดหมายไปบอกพี่เขาด้วยว่าให้รีบกลับมาหย่าเสียที เรื่องทั้งหมดจะได้จบลง หลังจากที่ฉันก้าวเท้าออกจากบ้านเหวินวันนี้ ไม่ว่าฉันจะยากดี มีจน ฉันจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับบ้านเหวินอีกแล้ว จบสิ้นเสียที สองปีที่ผ่านมาฉันโง่มามากพอแล้ว” ตู้เซียงเหมยประกาศตัดความสัมพันธ์กับบ้านของสามี เธอคิดว่ากลับมาสามีของเธอคงจะหย่าให้กันอย่างง่ายดายนะ หวังไว้ว่าจะเป็นเช่นนั้น ชาวบ้านได้ยินต่างไม่มีใครสงสัยในความเปลี่ยนแปลงของลูกสาวบ้านตู้ เพราะปกติไม่ค่อยมีใครสนใจเธออยู่แล้ว เธอมักจะคุ้มดีคุ้มร้ายใครจะกล้ายุ่งด้วย แต่วันนี้สิ่งที่หญิงสาวทำนั้นถูกต้องที่สุด บ้านเหวินเห็นแก่ตัวเกินไป เงินที่ลูกชายคนรองส่งมาให้ภรรยาและลูกกลับโดนแม่สามียึดหมด จนมีชาวบ้านคนหนึ่งทนไม่ได้ ไล่ลูกสะใภ้กลับบ้านเดิมยังไม่พอเงินสักหยวนก็ไม่คิดที่จะหยิบยื่นให้ พูดขึ้น “นี่นังเจียง หล่อนไม่คิดจะหยิบยื่นเงินให้เซียงเหมยและหลานตัวน้อยสักหน่อยเหรอ หยวนต้าเองก็ส่งเงินมาทุกเดือน หากเขารู้ว่าหล่อนไล่ลูกและเมียเขาออกจากบ้านเขาจะรู้สึกยังไง” แม่เฒ่าเหวิน หรือกุ้ยเจียงแล้วแต่ชาวบ้านจะเรียก หันขวับมาจ้องหน้าคนที่พูดอย่างไม่พอใจ “ไม่ใช่เรื่องของหล่อนอย่ามายุ่ง นี่มันเรื่องของบ้านเหวิน เจ้ารองไม่มีทางไม่พอใจหรอก เขาจะต้องขอบคุณฉันด้วยซ้ำที่ไล่นังเซียงเหมยตัวน่ารังเกียจออกไปจากบ้านได้” ตู้เซียงเหมยกลัวเรื่องจะบานปลายหากมีคนเกลี้ยกล่อมอีก ยิ่งกว่านั้นกลัวว่าจะออกจากบ้านเหวินไม่ได้มากกว่าอะไรทั้งหมด เธอจึงรีบค้อมหัวขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ และพาแม่รวมทั้งพี่ชายทั้งสองคนกลับบ้านตู้ด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีใครเห็น และอยากตะโกนว่า ‘เป็นอิสระแล้วโว้ย’ เสียเหลือเกิน ระหว่างที่เดินกลับบ้านตู้ พี่รองของบ้านตู้อย่างตู้เหรินหนานอดที่จะหยอกล้อแม่ขึ้นมาไม่ได้ เขาเกิดมายี่สิบห้าปียังไม่เคยเจอแม่ด่าใครรุนแรงแบบนี้มาก่อน “แม่เมื่อครู่นี้แม่เก่งมากเลย ผมนี่อึ้งจนพูดไม่ออก จริงไหมพี่ใหญ่ อาเหมย” สองพี่น้องที่เหลือพยักหน้าคอแทบหลุด จนแม่ตู้ หรือซวี่ซินหัวเราะอาการของลูกตัวโตทั้งสามคน “คนเป็นแม่เมื่อเห็นว่าลูกถูกรังแก ไม่มีใครสามารถทนนิ่งเฉยได้หรอก ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟแม่ก็พร้อมหากมีใครมาทำร้าย หรือรังแก ลูกแม่ทั้งสามคน ที่ผ่านมาที่แม่นิ่งเงียบและเฉยเพราะไม่อยากให้ลูกสาวอย่างอาเหมยที่แต่งเข้าบ้านเหวินอยู่อย่างลำบาก แต่ครั้งนี้ในเมื่ออาเหมยตัดสินใจจะกลับมาอยู่ที่บ้าน แม่จึงกล้าที่จะออกหน้า ลูกสาวของแม่ไม่อยู่บ้านนั้นแล้วแม่ยังจะต้องกลัวอะไรอีก จริงไหม” แม่ตู้ตอบคำถามลูกชายก่อนจะขยี้หัวลูกสาวที่เดินกอดแขนเธอไม่ต่างจากลูกลิงด้วยความรักและเอ็นดู “ต่อไปนี้ครอบครัวเราจะกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันดั่งเช่นวันวานแล้วนะแม่ ผมนี่แสนจะดีใจที่น้องเล็กอย่างอาเหมยตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านเสียที ส่วนเรื่องหย่านั้นไม่ต้องกลัว พี่เชื่อว่าถ้าเกิดหยวนต้ากลับมาจะต้องหลงรักน้องสาวของพี่ที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่ ๆ ดีไม่ดีเขาอาจจะไม่ยอมหย่าก็ได้” ตู้เปียวซวนเขาเป็นสหายกับเหวินหยวนต้า และรู้ดีว่าต่อให้ชายหนุ่มจะไม่รักน้องสาวของเขา หรือว่าแต่งงานเพราะความจำใจ แต่การที่มีเจ้าตัวเล็กอย่างลี่ลี่ มันต้องจำใจถึงกี่ครั้งจึงทำให้น้องสาวของเขาท้องขึ้นมาได้ ถ้าหากสหายจอมเย็นชาเขากลับมาเมื่อไหร่เขาเองก็อยากจะถามเหมือนกันว่าเย็นชาขนาดไหนอาเหมยของเขาจึงได้ตั้งท้องขึ้นมา แต่ไม่ว่าน้องสาวของเขาจะตัดสินใจอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะสนับสนุน หากใจของอาเหมยไม่อยู่แล้ว ไม่แน่การที่เธอประกาศว่าจะหย่ากับหยวนต้านั้นอาจจะเรื่องจริงก็ได้ “อาเหมย พี่ใหญ่ ใครวิ่งถึงบ้านก่อนได้ลี่ลี่ไปนอนกอดคืนนี้” พูดจบตู้เหรินหนานรีบวิ่งก่อนใครเพื่อนทำเอาคนสองพี่น้องที่เหลือรีบวิ่งตาม แต่ใครจะคาดคิดว่าแม่ตู้จะเอากับเขาด้วยวิ่งตามลูกทั้งสามด้วยเสียงหัวเราะและรีบวิ่งสุดกำลัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD