บทที่ 14 เหวินหยวนต้าขอแยกบ้าน

1537 Words
ตู้เซียงเหมยเดินเล่นอยู่พักใหญ่จึงหาที่มุมอับเอาของออกมาจากมิติเต็มตะกร้า จากนั้นจึงเดินกลับมาหาพี่ชายที่ร้านของกว้านซือถง “เลือกได้หรือยังพี่ใหญ่พี่รอง” ตู้เซียงเหมยเดินยิ้มแป้นเข้ามา “เลือกได้แล้ว ส่งตะกร้ามาให้พี่ เราตัวนิดเดียวแบกมาได้ยังไง พี่จะไปด้วยก็ไม่ให้ไป ดื้อจริง ๆ” ตู้เปียวซวนตอบและรับตะกร้ามาจากน้องสาว “เอาไปทั้งหมดเถอะ ถ้ายังไงจ่ายพี่มาแค่สิบหยวนก็พอ” กว้านซือถงตอบด้วยรอยยิ้ม หากเธอไม่รับเงินมา ตู้เซียงเหมยคนนี้คงจะไม่รับของ ไปแน่ “น้อยไปหรือเปล่าพี่แค่สิบหยวนเอง เสื้อผ้าตั้งเยอะ” ตู้เซียงเหมยขมวดคิ้ว สิบหยวนเองหรือ “ไม่อย่างนั้นก็เอาไปแบบไม่ต้องจ่ายเงิน” กว้านซือถงแกล้งงอน “โอ๋ ๆ ๆ พี่สาวที่แสนดีของอาเหมย ไม่งอนนะ สิบหยวนก็สิบหยวน พี่ใหญ่จ่ายเถอะ ไม่อย่างนั้นพี่ซือถงคนดีของฉันคงไม่รับเงิน สักเหมาเดียวแน่” เมื่อตู้เปียวซวนจ่ายเงินตามที่น้องสาวบอก ตู้เหรินหนานจึงรับถุงใส่เสื้อผ้ามาถือไว้เอง ก่อนจะกล่าวลากัน วันนี้บ้านตู้นัดกันว่าจะเริ่มทำสบู่ตามที่สั่งจึงอยู่เล่นนานไม่ได้ แต่ก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินออกไป กว้านซือถงจึงเรียกตู้เปียวซวนไว้ ก่อนจะยื่นถุงบางอย่างให้ “พี่ใหญ่ตู้ ฉันคิดว่าชุดนี้น่าจะเหมาะกับพี่ พี่รับไปเถอะนะ” ยื่นให้เสร็จเธอจึงรีบเดินกลับเข้าร้านปล่อยให้ชายหนุ่มอย่างตู้เปียวซวนมองตามหลังอย่างสงสัยว่ามาให้เขาทำไม “พี่ใหญ่รีบกลับกันเถอะ เรามีงานรออยู่อีกเยอะนะ คิดถึงลี่ลี่ด้วย เมื่อเช้ากินนมไปหน่อยเดียวเอง กลัวว่าจะงอแงกับพ่อและแม่นะ” ตู้เซียงเหมยเร่งพี่ชาย แม้ว่าจะสงสัยเช่นกันว่าพี่ซือถงให้ชุดพี่ใหญ่ทำไม แต่ก็ช่างเถอะ วันหน้าค่อยหาคำตอบ ถ้าสนใจพี่ชายของเธอคงยากสักหน่อย ดูท่าแล้วฐานะพี่ซือถงดูเบาไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นวันก่อนคนที่มีเรื่องในตลาดมืดจะดูกลัวและเกรงพี่ซือถงทำไม กลับมาที่เหวินหยวนต้า เมื่อเกวียนที่นั่งมาขับเข้าหมู่บ้าน ชายหนุ่มกลับเจอสายตาแปลก ๆ ของชาวบ้านซึ่งสัญชาตญาณบอกว่าคงไม่ใช่เรื่องดี พอเกวียนมาจอดหน้าบ้านชายหนุ่มจึงได้จ่ายเงินและเข้าไปในบ้าน แต่ยังคงแปลกใจเล็กน้อยว่าชาวบ้านตามเขามาทำไม ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป คนที่เขาเจอนั้นกลับไม่ใช่ลูกหรือว่าภรรยา แต่เป็นหลานสาวทางฝ่ายแม่ ชายหนุ่มที่มักจะมีใบหน้าที่เย็นชาอยู่แล้วพอเห็นแบบนี้กลับเย็นชายิ่งกว่าเดิม “ออกไป!” เหวินหยวนต้าตวาดเสียงดัง ชายหนุ่มไม่สนใจว่าหญิงสาวตรงหน้าจะทำหน้าอย่างไร เขาเพียงสงสัยและอยากจะรู้เหลือเกินว่าลูกและภรรยาของเขาไปไหน “แต่ป้ากุ้ยให้ฉันมาพักอยู่ห้องนี้หลายวันแล้ว” กุ้ยฮวาแม้ว่าจะกลัวชายหนุ่ม แต่ยังพูดตอบกลับไปด้วยเสียงสั่นเครือ หากเป็นชายคนอื่นอาจจะมีความสงสารและเห็นใจแต่ไม่ใช่กับเหวินหยวนต้าที่ทั้งเย็นชาและเหี้ยมโหด ส่วนคนอื่น ๆ ในบ้านเมื่อได้เสียงตวาดอันทรงพลังของลูกชาย คนรอง ทำให้ทุกคนรู้ว่าเหวินหยวนต้านั้นกลับมาแล้ว แม่เฒ่าเหวินที่ แค้นใจเรื่องต้องเสียเงินแปดร้อยหยวนจึงรีบวิ่งทั้งน้ำตามาหาลูกชาย เพราะคิดว่าอย่างไรเขาเป็นแม่ลูกชายต้องจัดการให้แน่นอน “เจ้ารอง ลูกกลับมาแล้ว” แม่เฒ่าเหวินเตรียมจะโผเข้ากอดลูกชายแต่กลับได้ยินเสียงเย็นเยียบตอบกลับมาแทน “ลูกและเมียผมไปไหน ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงวิสาสะมานอนในห้องผม” ไม่ใช่แค่เสียงที่เย็นเยียบแต่ท่าทางและสายตาที่มองมานั้นทำให้คน ถูกจ้องเย็นเข้าไปถึงหัวใจ “นังเซียงเหมยมันคบชู้ พอแม่จับได้มันจึงเก็บของและหอบนังลี่ลี่กลับไปอยู่บ้านหลายวันแล้ว เมื่อสามวันก่อนมันยังทำร้ายกุ้ยฮวา และยังหาเรื่องให้แม่ต้องจ่ายเงินให้มันตั้งแปดร้อยหยวน ลูกรองต้องไปทวงคืนให้แม่นะ แล้วรีบหย่ากับมันซะ แม่จะให้กุ้ยฮวามาอยู่ดูแลแกเอง” แม่เฒ่าเหวินใส่ร้ายต่าง ๆ นานา เพราะคิดว่าอย่างไรลูกชายต้องโกรธและต้องรีบหย่าแน่ แต่เธอลืมมองสีหน้าและแววตาลูกชายตอนที่เธอใส่ร้ายภรรยาของเขา “ผมจะถามแม่อีกครั้ง และช่วยตอบความจริงด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกและเมียผม” แม่เฒ่าเหวินเงียบจนไปไม่เป็นเมื่อเจอคำถามที่เหมือนเดิมของ ลูกชาย จนพ่อเฒ่าเหวินที่เพิ่งกลับเข้ามาบ้านได้ยิน จึงเป็นฝ่ายเปิดปากพูดขึ้นเองเพราะรู้ดีว่าเจ้ารองของเขานั้นหากโกรธขึ้นมาใครหน้าไหนก็เอาไม่อยู่ “เมียแกกลับไปอยู่บ้านเพราะแม่แกไล่ และยังประกาศกับเมียแกว่ากุ้ยฮวาจะมาเป็นภรรยาอีกคนหนึ่งของแก และรอให้แกกลับมาหย่า สะใภ้รองคงเสียใจวันนั้นจึงให้พี่ชายทั้งสองคนมาช่วยเก็บของและประกาศตัดขาดกับบ้านเหวิน และฝากคำพูดมาบอกแกด้วยว่าเธอรอเซ็นใบหย่า เธอยอมปล่อยแกแล้ว” “ทำไมไม่รั้งเธอไว้” เหวินหยวนต้าถามกลับ “เพราะการที่เธอกลับไปอยู่บ้าน พ่อคิดว่าเป็นผลดีสุดแล้ว อยู่นี่อาหารการกินไม่ค่อยจะมี แรก ๆ เมียแกไม่มีน้ำนมป้อนให้ลี่ลี่ สะใภ้ใหญ่ที่คลอดลูกก่อนหน้าไม่นานจึงเป็นคนมาป้อนให้ลี่ลี่ ไม่เช่นนั้นลี่ลี่คงกลายเป็นเด็กขาดสารอาหารแล้วล่ะ แต่ตอนนี้คิดว่าเมียแกน่าจะมีน้ำนมแล้ว บ้านตู้ต่อให้ฐานะจะแย่ แต่เขาก็รักลูกไม่น้อย คงไม่ปล่อยให้ลูกสาวและหลานอดหรอก ว่าแต่แกเถอะ รู้เรื่องนี้แล้วจะเอายังไง จะหย่า...” “ไม่หย่าครับพ่อ ตอนนี้ผมออกจากกองทัพที่นั่นแล้ว เพราะผมได้รับบาดเจ็บนอนไม่ได้สติมาเจ็ดเดือน ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเกิดขึ้นกับลูกและเมียผมขนาดนี้ เอาเถอะผมเชื่อว่าต้องมีบางอย่างที่ทำให้เมียผมต้องหอบลูกกลับบ้านเดิมมากกว่าที่พ่อบอก แต่ยังไงทั้งสองคือลูกและเมียที่ผมต้องดูแลต่อไป ผมรบกวนให้พ่อเรียกหัวหน้าหมู่บ้านมาทำหนังสือแยกบ้านและหนังสือตัดขาดให้ผมด้วย ผมคงจะต้องหันไปพึ่งพาบ้านพ่อตาแม่ยายแล้วล่ะครับ” เหวินหยวนต้าตัดสินใจได้ไม่ยาก เพราะเขาคิดมาตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าตู้เซียงเหมยนั้นท้องแล้วว่าจะแยกบ้านออกมาแต่เขาดันบาดเจ็บเสียก่อน และก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้กลับมาบ้านเลย ทำให้ไม่ได้จัดการเรื่องนี้เสียที ในเมื่อเกิดปัญหาแบบนี้คงจัดการได้ไม่ยาก “อะไรนะเจ้ารอง แกลาออกจากทหารแล้วเหรอ แกบ้าหรือเปล่า แล้วแบบนี้จะเอาเงินที่ไหนใช้ บ้านเหวินเองก็คนเยอะอยู่แล้วนะ” แม่เฒ่าเหวินร้องเสียงหลงถามลูกชาย เหวินหยวนต้าไม่ตอบปล่อยให้เข้าใจกันไปเอง “เจ้ารองแม้ว่าจะไม่ได้ทำงานแล้ว แกไม่จำเป็นต้องแยกบ้านหรอกนะ เงินที่แกส่งให้เมียแม่แกก็เก็บเองทั้งหมด ยังไงบ้านเหวินดูแลแกได้อยู่แล้ว” “ไม่ได้ ตาเฒ่าแกไม่รู้เหรอเมื่อสามวันก่อนฉันต้องจ่ายให้นังเซียงเหมยแปดร้อยหยวน เงินไม่ได้เหลือมากขนาดนั้นแล้ว อยากจะแยกบ้าน อยากจะตัดขาดฉันไม่ห้าม แต่แกต้องหาเงินส่งที่บ้านเดือนล่ะสิบหยวน ฉันถึงจะยอม” แม่เฒ่าเหวินยังเห็นแก่ตัวเมื่อเห็นว่าลูกชายลาออกจากทหารและเหมือนจะหมดประโยชน์แล้วกับเธอ อยากจะไปก็ไปแต่ต้องจ่ายรายเดือนให้เธอสิบหยวนทุกเดือน “เจ้าใหญ่ไปตามหัวหน้าหมู่บ้านมา บอกว่าเจ้ารองจะแยกบ้านเพียงแต่พ่อไม่ยินยอมให้ตัดขาดจากบ้านเหวิน เพราะยังไงเจ้ารองก็ลูกของฉัน และไม่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูอะไรทั้งนั้น เจ้ารองลำบากมามากพอแล้ว” พ่อเฒ่าเหวินที่มักจะอ่อนแอและยอมเมียมาตลอดในสายตาทุกคน วันนี้เขากลับลุกขึ้นสู้เพื่อลูกชายคนรองสักครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD