นึกถึงเหตุการ์เมื่อคืนนี้ผมยังคงขนลุกไม่หาย คุณนายให้ผมดื่มน้ำแกงอะไรสักอย่างในถ้วยกระเบื้องสีขาว รสชาติขมมาก แทบอยากจะอ้วกออกมา แต่โดนสั่งห้ามเอาไว้จึงต้องกลืนมันลงไปจนเกลี้ยง แค่นั้นยังไม่พอบังคับให้นั่งอยู่ในวงล้อมสายสิญจน์เพื่อฟังบทสวดประหลาดจากท่านจนจบ ปิดท้ายด้วยการใช้มือตบเบา ๆ ที่หน้าท้องสามครั้งอีกด้วย เสร็จพิธีก็ถูกไล่ให้กลับห้องนอนโดยไม่พูดหรืออธิบายอะไรให้ฟังเลย
ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก วันนี้คุณนายวิมลโทรเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้กลับมาที่บ้านโดยด่วนให้เหตุผลว่าผมไม่สบาย โทรแล้วโทรอีกจนเขารำคาญกระมังเลยต้องกลับมาที่คฤหาสน์ ออฟฟิศกับบ้านเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ถ้าถามผมว่าไกลไหมตอบว่าไม่ แต่เหตุผลที่เขาไม่ยอมกลับมานอนค้างที่บ้านคงเป็นเพราะต้องการอยู่กับแฟนสาวอย่างสบายใจกระมัง
แฟนของคุณนาธานก็คือซอนย่านั่นล่ะครับ เธอเป็นนางเอกซูเปอร์สตาร์ มีชื่อเสียงระดับประเทศ สวยและมีความสามารถ ในทีวีดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ในชีวิตจริงผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณนายวิมลไม่ชอบขี้หน้า ท่านเคยเล่าให้ฟังว่าคุณนาธานพาเธอมาบ้านครั้งหนึ่ง กิริยาวาจาและท่าทางดูเป็นผู้ดีแต่คุณนายวิมลรู้ว่านั่นคือการเล่นละคร ท่านจึงไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน หลังจากนั้นได้สั่งว่าห้ามเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นสะใภ้เด็ดขาด
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“คุณบิวคะ คุณผู้หญิงให้มาเรียนว่าตอนนี้คุณนาธานมาถึงแล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับพี่ปิ๋ว”
ผมต้องรีบเอากระเป๋าน้ำร้อนมาประคบตามลำตัวและใบหน้าเผื่อเวลาที่เขามาสัมผัสจะได้รู้ว่าผมมีไข้จริง นั่นคือแผนการของคุณนายวิมลที่สั่งเอาไว้ ผมรู้แล้วว่าคุณนาธานได้นิสัยกะล่อนอย่างนี้มาจากใครคงไม่ต้องเดาให้เสียเวลา
ไม่นานประตูก็ถูกเปิด ได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ผมหรี่ตามองก็เห็นคุณนายวิมลเดินมาพร้อมกับลูกชาย มีพี่ปิ๋วยกชามน้ำมาด้วยอีกต่างหาก จึงรีบปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง นอนอยู่บนเตียงในสภาพอิดโรย
“ทำไมไม่พาไปโรงพยาบาลครับ หรือไม่ก็เรียกหมอมาตรวจก็ได้ ทำไมคุณแม่จะต้องให้ผมมาด้วย” เสียงบ่นดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
“เป็นผัวก็ต้องดูแลเมียตัวเองสิ หมอกี่คนก็ไม่หายหรอกถ้าไม่ได้กำลังใจจากคนรัก แกรีบเช็ดตัวให้น้องเลย นอนซมอยู่นานสองนาน กินยาแล้วตัวก็ยังไม่หายร้อน”
“ให้ปิ๋วทำเถอะครับ ผมทำไม่เป็นหรอก ไม่เคยดูแลใครอย่างนี้มาก่อน”
“ใครบอก เมื่อตอนที่แม่ไม่สบายแกก็ยังช่วยเช็ดตัวให้เลย นั่งลงแล้วเช็ดตัวให้น้องเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นแม่จะไม่ยอมให้แกกลับไปเด็ดขาด”
เขาเงียบไปครู่หนึ่งไม่รู้ทำสีหน้าอย่างไรก่อนจะส่งเสียงอีกครั้ง “ก็ได้ครับ งั้นทุกคนออกไปก่อนละกัน”
“แม่จะอยู่ตรงนี้ ดูว่าแกจะดูแลเมียได้ไหม”
“โธ่คุณแม่ครับ”
“เดี๋ยวนี้!”
ในที่สุดคุณนายวิมลก็เอาชนะจนได้ ผมยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง รู้สึกได้ว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังสัมผัสที่หน้าผาก ก่อนจะได้รับความเย็นจากผ้าผืนเล็ก ๆ ที่กำลังถูไถไปตามแขน ผู้ชายบ้าอะไรจะมือหนักขนาดนี้ ไม่คิดจะถนอมผมเลยหรือยังไงกัน
“ตรงซอกคอด้วย เช็ดแต่แขนไข้จะไปลดได้ยังไงกัน”
“แต่”
“ไม่มีแต่”
ผมเองก็อยากจะส่งเสียงห้ามแต่ไม่กล้าขัดใจคุณนายวิมล หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อตอนนี้เขากำลังเช็ดตามลำคอให้ วนเวียนอยู่บริเวณนั้นก่อนจะลงมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงเนินอก มือที่วางอยู่ใต้ผ้าห่มกำแน่นจนเกร็งไปหมด ในขณะนั้นคุณนายวิมลก็สั่งให้เช็ดลึกเข้ามาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงยอดอกผมแล้ว ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่ ผมเสียหายนะรู้ไหม
“เอาล่ะแม่พอใจแล้ว แกเฝ้าเมียอยู่ในนี้ห้ามออกไปจนกว่าไข้จะลด หนูบิวคงจะนอนหลับอีกนานเลยล่ะ” ประโยคหลังเหมือนสั่งให้ผมนอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงทางอ้อม คุณนายคิดจะทำอะไรกันแน่
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปิดประตูห้อง ภายในนี้จึงมีเพียงแต่ความเงียบงัน ไม่รู้ว่าคุณนาธานกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน จะยังคงนั่งอยู่ข้างเตียงไหมนะ
“ไอ้บื้อเอ๊ย หาความซวยมาให้ฉันจนได้ แทนที่จะได้มีเวลาอยู่กับซอนย่า”
เสียงนั้นดังอยู่ข้างเตียงจริง ๆ ด้วย ผมจึงต้องหลับตาอยู่อย่างนั้นรอให้เขาเงียบไปพักใหญ่ กำลังจะเปิดเปลือกตาขึ้นจู่ ๆ ก็มีร่างของใครบางคนทิ้งตัวลงมานอนข้างกัน ทำให้ต้องนอนนิ่งอยู่ท่าเดิม จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ว่ามีมือใหญ่วางพาดบนตัว รู้สึกได้ว่าเขาขยับตัวเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่กำลังเป่ารดพวงแก้ม ไม่นะ! เขากำลังคิดจะทำอะไรผมกันแน่
“หน้าตาจืดชืดแต่หุ่นดีใช้ได้เลยทีเดียว ผิวก็เนียนอย่างกับผู้หญิง”
ตอนนี้แทบไม่ต้องใช้กระเป๋าน้ำร้อนเพราะใบหน้ามันร้อนผ่าวเองโดยอัตโนมัติ เขากำลังอ่านกินผมอยู่แน่ ๆ กำลังใช้สายตาโลมเลียผมอยู่แน่ ๆ แล้วจะทำอย่างไรดี จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าต้องนอนละเมอ!
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย! ไอ้บ้าเอ๊ย! เจ็บชะมัด”
ผมตัดสินใจฟาดมือไปมั่วแต่บังเอิญมันประทับลงที่แก้มเขาอย่างจังจนต้องแอบขำในใจ ทำไมซื้อหวยไม่แม่นอย่างนี้นะ แถมยังดันใบหน้าเขาให้ออกห่างอีกด้วย
“ออกไปเลย คนไม่ดี คนนิสัยเสีย อย่าเข้ามาใกล้”
“เป็นบ้าไปแล้วเหรอ ฉันไม่น่ากลับมาเลยจริง ๆ จ้างมาเป็นภาระซะเปล่า”
เขาบ่นพลางจับข้อมือผมไว้ก่อนพลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่าง ด้วยความตกใจจึงลืมตาขึ้นมา เห็นใบหน้าของคุณนาธานอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขากำลังจ้องมองอย่างจับผิดจนผมทำหน้าไม่ถูก
“คะ...คุณจะทำอะไร”
“ตื่นแล้วเหรอ เล่นละครเก่งจังเลยนะเธอ...แต่ไม่เนียน”
เขาเอ่ยพลางมองไปยังกระเป๋าน้ำร้อนที่วางอยู่บนเตียง ผมไม่นึกว่าเขาจะขึ้นมานอนบนนี้จึงไม่ได้เก็บไว้ใหดี แล้วทีนี้จะทำอย่างไรจะบอกความจริงเรื่องคุณนายวิมลก็ไม่ได้ด้วยสิ
“คือ...ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่ได้ตั้งใจแต่ทำให้ฉันเสียเวลา แกล้งทำเป็นไม่สบายเพื่ออะไรกัน แถมยังละเมอตบหน้าฉันอีก”
“คือ...ผมแค่รู้สึกเบื่อ ๆ เลยอยากให้คุณพาออกไปข้างนอกบ้างก็เท่านั้น อยู่แต่ในนี้มันอึดอัด”
“แล้วทำไมไม่โทรหาฉันเอง”
“มันเป็นแผนของผม ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่รู้น่ะสิว่าคุณแม่เอ็นดูผมจริงไหม เห็นไหมว่าท่านเป็นห่วงผมจริง ๆ ถึงขนาดโทรตามคุณมาที่นี่ อย่างนี้แล้วคุณก็หายห่วงอยู่กับแฟนคุณอย่างสบายใจได้เลย” ในที่สุดผมก็หาทางออกให้ตัวเองจนได้ และดูเหมือนว่าเขาจะคล้อยตามด้วย
“ไม่นึกว่าเธอจะฉลาดกับเขาบ้างเหมือนกัน สงสัยต้องมองเธอใหม่ซะแล้วล่ะ”
เขายกยิ้มมุมปากพลางส่งสายตาแปลก ๆ มายังผม เห็นอย่างนั้นหัวใจมันก็เต้นแรงขึ้น เขาเลื่อนสายตาลงมายังริมฝีปากของผมจึงรีบเม้มเอาไว้ โลมเลียอย่างนี้อย่าบอกนะว่าคิดจะทำมิดีมิร้ายกัน มันไม่อยู่ในข้อตกลงของเราสักหน่อย
“คุณกลับไปได้แล้ว บอกคุณแม่ว่าผมหายแล้ว”
“...”