ในห้องประชุมขนาดใหญ่ ผู้คนทยอยเดินออกไปจนเกือบหมดแล้ว เหลือผมคนเดียวที่กำลังนั่งคิดอะไรไปเรื่อย เลขาของผม คุณสุภาพขอตัวลาครึ่งวัน เพราะช่วงบ่ายมีนัดฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ ถึงแม้จะยืนยันหนักแน่นว่าวันพรุ่งนี้เช้าจะเข้ามาทำงาน แต่ผมกลับบังคับให้ลาหยุดเพราะไม่อยากทรมานเลขาคนสนิทจนเกินควร
ร่างเล็กในชุดเดรสสีหวานขยับเข้ามาหยิบเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ เธอยิ้มหวานให้กับคุณสุภาพที่กำลังสั่งงาน ก่อนจะออกไปทำธุระส่วนตัวในช่วงบ่าย พร้อมทั้งยืนยันหนักแน่นว่าจะโทร. หาหากมีธุระสำคัญ
น้องนับดาว…
เธอเข้ามาทำงานในบริษัทเกือบสองเดือนแล้ว แต่ผมแทบจะไม่ได้คุย ทำได้แค่แอบมองอยู่ห่าง ๆ ตามโอกาส เพราะตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ผมและคุณสุภาพต้องเดินทางไปต่างจังหวัดค่อนข้างบ่อย หลายครั้งผมแทบลืมไปเลยว่าได้รับสาวน้อยจบใหม่เข้ามาทำงาน จนกระทั่งเห็นเธอตรงหน้านี่แหละ
สาวน้อยข้างบ้านใช้นิ้วเกี่ยวปอยผมของตัวเองทัดหู ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปมา ดวงหน้าหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบาทำเอาผมใจสั่น ตระหนักได้ว่าเธอไม่ใช่เด็กที่เพิ่งจะเรียนมัธยมปลายจบและเป็นสาวเต็มตัวแล้ว
“นับดาว…”
“คะ บอสมีอะไรให้ดิฉันช่วยหรือเปล่าคะ” เธอแทนตัวเองห่างเหินและผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก
“ทำไมถึงแทนตัวเองแบบนั้น พี่ไม่ชอบ”
“เอ่อ ดาวขอโทษค่ะ คือดาวแค่ไม่อยากให้คนอื่นมองไม่ดี ดาวกลัวว่าคนอื่นจะหาว่าดาวตีสนิทกับบอสน่ะค่ะ”
“ไร้สาระ พี่เห็นเธอมาตั้งแต่ตัวสูงเท่าเอว ถ้าใครพูดอะไรไม่เข้าหู เดี๋ยวพี่จะจัดการเอง” ผมลืมตัว แทนตัวเองว่าพี่อย่างหน้าด้าน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้พร่ำบอกกับตัวเองว่าเป็นรุ่นอาของนับดาวมาโดยตลอด
“ค่ะ ดาวขอตัวก่อนนะคะ พอดีต้องไปเตรียมเอกสารแทนคุณสุภาพ เอ่อ ดาวอาจจะต้องขออนุญาตเข้าไปในห้องทำงานของพี่ทอง พี่ทองสะดวกหรือเปล่าคะ”
“เข้ามาทำงาน ทำไมจะไม่สะดวก”
“ก็พี่ทองเคยบอกว่าห้ามเข้าไปกวน” เธอช้อนตามองอย่างน่ารัก ทำเอาหนุ่มใหญ่อย่างผมถึงกับใจสั่น
ผมกลืนน้ำลายเมื่อนึกได้ว่าไม่ได้ไปเที่ยวสนุกนานเกือบสองเดือนแล้ว
นับดาวจึงดูสวยน่ารักมากเป็นพิเศษ
“อืม ช่วงนี้งานไม่ค่อยยุ่งแล้ว เข้ามากวนได้” พอเธอพูดออกมาแบบนั้น ผมจึงจำได้ว่าสองเดือนก่อนพูดอะไรออกไป
‘แล้วช่วงนี้ฉันคงไม่ค่อยได้กลับบ้าน เพราะต้องดูงานที่ภูเก็ต สลับกับปากช่อง ยังไงเธอช่วยแก้ตัวกับคุณแม่ พูดอะไรก็ได้ให้คุณแม่เชื่อว่าเรายังคบกันดี ส่วนเรื่องงานก็ให้ช่วยคุณสุภาพ จนกว่าจะมีตำแหน่งว่างแผนกอื่นที่เธออยากทำ’
ผมบอกนับดาวไปด้วยว่าอยู่ที่บริษัทเราไม่ได้เป็นอะไรกัน นอกจากนายจ้างกับลูกจ้าง และถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเข้ามารบกวนกันในช่วงที่งานกำลังยุ่ง ถ้ามีอะไรสงสัยก็ให้ถามจากคุณสุภาพแทน
หรือว่าผมจะใจร้ายกับน้องไป
“จริงสิ วันนี้ไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันนะ พี่จะได้ถามเรื่องแม่ด้วย”
“วันนี้ดาวไม่ว่างแล้วค่ะ ดาวว่าจะไปกินข้าวกับพี่พงษ์” น้องคงหมายถึงหัวหน้าแผนกออกแบบภายใน แต่ผมไม่สนใจ
ในบริษัทนันทปภากร กรุ๊ป ผมใหญ่ที่สุดแล้ว
“ไปแคนเซิล พี่จะกินข้าวเที่ยงกับเธอ”
“คะ?” นับดาวหันมามองหน้าผม ทำท่าคล้ายไม่ค่อยอยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ไม่ได้ยินจริง ๆ หรือว่าแกล้งทำไม่สนใจกัน”
“ไม่ได้หรอกนะคะ ดาวนัดพี่พงษ์ไว้ก่อน ดาวไม่อยากผิดคำพูดค่ะ” สาวน้อยว่านอนสอนง่ายของผมหายไปไหน?
“ผิดนัดได้ เดี๋ยวพี่จะทำให้ดู” ผมลากแขนของนับดาวไปยังโต๊ะของนายพงษ์ธรรม ก่อนจะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่คิดว่าจะทำมาก่อน
“พงษ์ วันนี้ฉันมีธุระกับนับดาว อยากจะขอยืมตัวไปก่อน นายไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
“ตามสะดวกเลยครับบอส ผมแค่ตั้งใจว่าจะคุยเรื่องตำแหน่งว่างในแผนกกับน้องดาว เอาไว้วันหลังก็ได้ครับ” แน่นอนว่าต้องคุยวันหลังได้ เพราะถ้าคุยวันหลังไม่ได้ นายพงษ์ธรรมจะต้องได้พักงานยาวแน่ ๆ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้อารมณ์เสียง่ายนัก
“พี่ทองไม่น่าทำแบบนั้นเลยนะคะ คนในบริษัทจะคิดยังไง” นับดาวเสียงแข็งใส่ผมเป็นครั้งแรก
ไม่น่าเชื่อ…
“แล้วจะไปสนใจคนอื่นทำไม” ผมพาเธอลงไปยังลานจอดรถโดยไม่ยอมปล่อยมือ คนในบริษัทจ้องกันเขม็ง แต่ผมไม่สนใจ
“พี่ทองเป็นผู้ชายก็พูดได้ แต่ดาวเป็นผู้หญิงนะคะ แถมมาใหม่ด้วย คนจะหาว่าดาวอ่อยพี่ทองจนได้ดี” บอสอย่างผมถึงกับชะงักไปเหมือนกัน
เธอค่อย ๆ แกะมือของผมออก พร้อมกับจ้องหน้ากันอย่างคาดโทษ ถ้าบีบคอผมได้ เธอคงทำไปแล้ว
ไม่เจอกันแค่สี่ปี นับดาวเปลี่ยนไปมากจริง ๆ
“พี่ขอโทษ พอดีเย็นนี้พี่ตั้งใจจะกลับบ้าน ไม่รู้ว่าดาวพูดอะไรกับคุณแม่ไปบ้างแล้ว เลยตั้งใจว่าจะนัดกัน เรื่องจะได้ไม่ต่างกันมาก”
“บอกแต่แรกก็หมดเรื่องแล้วค่ะ ไม่เห็นต้องเล่นใหญ่จูงมือกันเลย” นับดาวพูดถูก ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย
ผมมองเธอเปิดประตูรถ ขึ้นไปนั่งอย่างกระฉับกระเฉง ไม่มีท่าทีเขินอายของเด็กมัธยมปลายที่บอกรักแล้วถูกปฏิเสธ
นับดาวเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ