อยากรู้ว่ายังกล้าปากเก่งกับเขาอีกไหม
“ฉันจะบอก... เพราะฉันตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะจูบเธอให้ปากช้ำ จะได้ไม่ปากดีอีก”
ก้องทวีปลูบปากตัวเองด้วยความกระหาย อยากแกล้งคนตรงหน้าเหลือเกิน
“อีตาบ้า อย่าหวังเลย”
แม้จะตกใจแค่ไหน สติสั่งให้ก้าวหนีโดยไม่รั้งรอ แต่เพียงแค่ก้าวขา เขาก็คว้าแขนเอาไว้ได้ ก่อนที่เธอจะวิ่งไปไหนได้ จากนั้นจึงจับร่างอรชรเบียดกับต้นไม้ใหญ่ด้านหน้า
“ฉันไม่อยากหวังหรอก ไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีก ยัยปากกรรไกร”
เขากระซิบเสียงเย็นเยียบ ลากริมฝีปากขบเม้มใบหูเล็กเพื่อกลั่นแกล้ง
“ยี้... โรคจิต”
อันดามันใช้วิชาการป้องกันตัวที่เรียนมา ยกเข่าเสยเข้าใต้หว่างขาของชายหนุ่มเต็มเหนี่ยว
“โอ๊ย!!! ยัยบ้า” เขากุมกล่องหัวใจหน้าเขียวหน้าเหลือง
“รู้จักฉันน้อยไปแล้ว อยากจูบฉันมากนักใช่ไหม ได้เลย... แล้วฉันจะสงเคราะห์ทำทานให้ จูบให้หนำใจเลย”
หญิงสาวคว้าข้อมือของชายหนุ่มเอาไว้ แล้วบิดลำแขนผลักร่างสูงกระแทกที่ต้นไม้
“โอ๊ย!” ก้องทวีปร้องด้วยความเจ็บ
“เป็นไง จูบสิ จูบเลย ต้นราชพฤกษ์ต้นนี้ยังเอ๊าะๆ อยู่เลย”
อันดามันผลักหน้าเขาให้เบียดกับต้นไม้ใหญ่ด้านหน้า ริมฝีปากของเขาจึงบดกับเปลือกไม้เนื้อแข็งอย่างจัง
“ยัยบ้า ปล่อยนะ อย่าให้ถึงทีฉันบ้าง”
“คงไม่มีวันนั้นแน่นอน เพราะวันนี้ฉันจะเจอคุณเป็นครั้งสุดท้าย อย่าได้มาที่บ้านนี้อีก เพราะฉันไม่มีวันแต่งงานกับคุณเด็ดขาด จำเอาไว้ หากอยากได้เจ้าสาวมาก ไปหาเอาข้างหน้าโน่น”
เธอพูดอย่างเป็นต่อ ชายหนุ่มเลือกที่จะเงียบ ไม่ปริปากสักคำ หยามกันเกินไปแล้ว พูดอย่างกับว่าเขาอยากแต่งงานกับเธอนักนี่ แต่ยิ่งปฏิเสธแบบนี้เขาจะยิ่งแกล้งให้หนักเลย
“ได้ยินที่ฉันพูดไหม”
อันดามันโมโหที่เขาไม่ยอมตอบคำถาม เธอเห็นเขานิ่ง... จึงปล่อยแขนเขาด้วยความหงุดหงิด ฝ่ามือถูกเข้าหากันเพื่อข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม ชายหนุ่มรู้ว่าเธอเป็นทายาทเจ้าของโรงเรียนสอนเทควันโดชื่อดัง แต่เขาเป็นผู้ชายอกสามศอกเรื่องอะไรจะเสียเชิงแพ้ผู้หญิง... ให้เธอได้ใจไปก่อน
“แล้วเชิญคุณกับพ่อคุณกลับไปได้แล้ว”
ร่างสูงหันมาเชื่องช้า จ้องมองริมฝีปากจิ้มลิ้มที่พูดตาไม่กะพริบ
คนที่กำลังลอยหน้าลอยตาไม่ทันได้มอง เห็นเขาไม่โต้ตอบเลยได้ใจคิดว่าเขากลัว เชิดใส่แล้วหมุนร่างหนีเพื่อจะเข้าบ้าน ไม่อยากมองหน้าเขานักหรอก ขาเจ้ากรรมที่เดินไปไม่กี่ก้าว เผลอสะดุดกับท่อนไม้ที่ขวางอยู่ด้านหน้า
“โอ๊ย!” ร้องด้วยความเจ็บเมื่อเข่ากระแทกกับพื้นจังๆ
“เป็นไง เจ็บเหรอ สมน้ำหน้า”
ร่างสูงนั่งยองๆ มองหญิงสาวอย่างสะใจไม่แพ้กัน
“ไม่ต้องมาเยาะเย้ย คุณนี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย จะบอกอะไรให้ คนอย่างอันดามันไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก”
พูดแล้วพยายามลุกขึ้น แต่เขารีบตะครุบร่างเธอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน
“จะรีบไปไหนล่ะคนเก่ง ความเป็นสุภาพบุรุษฉันไม่มีให้เธอหรอก สะกดคำนี้ไม่ค่อยเป็น” ร่างสูงจับแขนหญิงสาวไว้มั่น
อันดามันได้แต่ฮึดฮัดมองเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย เห็นผู้หญิงบาดเจ็บยังจะมาเยาะเย้ยแถมฉวยโอกาส... น่าเกลียดที่สุด”
เธอเม้มปากแน่น ถามให้เขาสำนึกมากกว่าจะขอความช่วยเหลือ เพราะคนแบบเธอไม่มีวันอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากอีตานี่เด็ดขาด
“พูดไม่เพราะเลย”
ก้องทวีปจับใบหน้าเรียวเล็กบีบปลายคางตาพราว
“เจ็บนะ ไม่ช่วยก็ไม่ต้องมาซ้ำเติม ฉันไม่มีวันพูดเพราะกับคุณ ปล่อยได้แล้ว”
เขามองริมฝีปากแดงสดจากลิปสติกนิ่ง ในเมื่อปณิธานที่เขาตั้งไว้ยังไม่เป็นจริง หากจะสานต่อตอนนี้... ก็ยังไม่สาย
ความเป็นสุภาพบุรุษที่ผู้ชายควรมีต่อผู้หญิงเขามีแน่นอน แต่มีแล้วเป็นอย่างไรล่ะ แม้แต่อดีตคนรักยังทิ้ง แล้วกับเธอว่าที่ “เจ้าสาว” ด่าฉอดๆ เขาสมควรแสดงมันกับเธอหรือไง เร็วเท่าความคิด แม้ไม่อยากรังแกผู้หญิง แต่ ณ เวลานี้ความอยากเอาชนะ
ทุกอย่างมาหลอมรวมกันให้ความคิดเขากระเจิง เธอไล่เขาเหมือนหมูเหมือนหมา แถมยังบอกว่าไม่อยากแต่งงาน เขานี่แหละจะทำทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับที่เธอตะโกนใส่หน้า
อันดามันเบิกตากว้างเมื่อริมฝีปากหนาประทับกระแทกลงมาบนกลีบปากบอบบาง แถมบดขยี้ตามอำเภอใจมากกว่าจะทะนุถนอมแบบที่ควรจะเป็น ปลายลิ้นร้อนเข้าสำรวจคุกคาม เธอได้แต่ตกตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะจูบเธอจริงๆ แถมมันเป็นจูบแรกที่เธอไม่เคยแม้แต่จะมอบให้ใคร อดีตคนรักอย่างธีรวัชรยังไม่เคยได้สัมผัสเธอนอกจากจับมือกันธรรมดา
ตอนแรกอยากลงโทษคนปากดี แต่พอได้จูบกลับรู้สึกประหลาด ความหอมหวานส่งผ่านเข้าสู่ลิ้นสากร้อน จนต้องผ่อนแรงบดขยี้เป็นบดคลึงเรียกร้องแทน
“หวานซะไม่มี ว่าที่เมีย”
เขาบีบต้นแขนทั้งสองข้างของหญิงสาว จ้องเข้าไปในดวงตาสวยใสไร้เดียงสาที่เบิกตากว้างจ้องมองเขาไม่กะพริบ อันดามันหอบหายใจสะท้านมองเขาเหมือนตัวประหลาดก่อนที่จะเป็นลมหมดสติไป
“นี่! ยัยปากกรรไกร ใจเสาะชะมัด แค่จูบก็เป็นลมซะแล้ว ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ”
ก้องทวีปเขย่าร่างที่หมดสติในอ้อมแขน จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ตกแต่งหน้าตาชวนตลกขบขัน เขาเผลอลูบแก้มนวลเบาๆ ความรู้สึกหลากหลายเข้าโจมตีในหัวจนยุ่งเหยิง ร่างสูงตวัดอุ้มร่างหญิงสาวพาเดินเข้าบ้านหลังใหญ่เบื้องหน้า คอยมองร่างของคนในอ้อมแขนไปด้วยอย่างตัดสินใจ
ทุกคนตกใจที่เห็นก้องทวีปอุ้มอันดามันเข้ามา องศายิ่งกว่าเดือดด้วยความหวงน้องสาว เขาเข้าไปแย่งน้องสาวมาอุ้มเสียเอง มองชายหนุ่มตรงหน้าเหมือนจะเผาให้เป็นจุณ ก้องทวีปสงบนิ่งเก็บอารมณ์ดีเยี่ยม มองคนที่สลบอยู่ในอ้อมแขนพี่ชายไม่วาง เขากำลังคิดตัดสินใจบางอย่าง... และคิดหนักเสียด้วย
อันดามันผวาลุกขึ้นจากที่นอนหนานุ่มในห้องของตัวเอง คนแรกที่เธอเห็นคือพี่สะใภ้ ก่อนกวาดสายตามองไปรอบเตียง เจอกับบิดาและพี่ชายที่ยืนกอดอกมองเธอไม่วางตา จนหญิงสาวต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นสายตาของพ่อที่มองเธอด้วยความตำหนิชัดเจน
“โอ๊ย” เผลอขยับแล้วรู้สึกเจ็บที่หัวเข่าจนต้องกุมไว้ ปรากฏว่ามีผ้าพันแผลพันเอาไว้เรียบร้อย คงเป็นฝีมือพี่สะใภ้ มือน้อยลูบหัวเข่าตัวเองเบาๆ เหมือนจะบรรเทาอาการเจ็บเพราะตอนล้มหัวเข่ากระแทกกับพื้นเต็มแรง
“หวานฟื้นแล้ว” พลอยไพลินที่จัดการเช็ดเครื่องสำอางหนาเตอะของน้องสามี เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ใหม่ เช็ดเนื้อเช็ดตัว รวมถึงทำแผลให้ บอกทุกคนอย่างดีใจ แต่พอหันไปเห็นพ่อสามีก็ต้องหน้าเจื่อน
“หวานทำไมทำอะไรขายหน้าแบบนี้ลูก”
เอเชียนั่งลงบนเตียงตำหนิบุตรสาวเสียงเครียด ดีที่ก้องภพไม่ถือสา หากเป็นคนอื่นเผ่นกลับบ้านตั้งแต่เห็นอันดามันวิ่งลงบันไดมาแล้ว
“ผมไม่เห็นหวานจะทำอะไรผิด หมอนั่นไม่เหมาะสมกับหวานสักนิด พ่อไม่ควรตำหนิน้อง ดูสิครับน้องกำลังเจ็บแผลหน้าซีดใหญ่แล้ว” คำพูดของลูกชายทำให้ผู้เป็นบิดาหงุดหงิดกว่าเดิม
“ถ้าไม่ช่วยก็อย่าชักใบให้เรือเสีย”
คำพูดของบิดาทำให้องศาสงบปากสงบคำลง
“อย่าไปว่าพี่ฝาดเลยค่ะ พี่ฝาดพูดถูกทุกอย่าง อีตาจิตรกรผมยาวติสท์แตกนั่นเหรอคะ ว่าที่เจ้าบ่าวหวาน”
หญิงสาวกอดอกย่นจมูกหน้ายุ่ง เข้าข้างพี่ชายสุดที่รักเต็มที่ องศาแอบหลิ่วตากับน้องสาว แต่พอหันไปเห็นภรรยาสาวที่กอดอกมองอยู่ก่อนแล้ว เขาหน้าเจื่อนลง อาการเกรงใจเมียกำเริบอย่างปัจจุบันทันด่วน
“ไปว่าพี่เขาแบบนั้นได้ยังไงลูก พรุ่งนี้เตรียมตัวไว้ พี่เขาจะมากินข้าวกับเราอีกรอบ เราเป็นลมไป คุณก้องภพเลยขอตัวกลับไปก่อน”