1 2 3 4 5 I Love U 6 7 8 9 I love U

3416 Words
“ไอ้แท็ป ! เป็นไงบ้างวะ” “ก็อย่างที่เห็นแหละ ยอดขายพุ่งกระฉูด” ชยันต์รายงานสถานการณ์ช่วงงานสัปดาห์หนังสือให้พี่ชายฟัง “เรื่องนั้นน่ะรู้แล้ว กูหมายถึง...เรื่องของมึงต่างหากไปถึงไหนแล้ว” ชวัลวิทย์แย้มริมฝีปากอย่างรู้เท่าทันน้องชายตัวดีเบิกตาโพลงแสดงท่าทีบ่ายเบี่ยง เขาชิงถามคำถามต่อไปทันที “แล้วใช่คนสวยหน้าฝรั่ง ๆ ผมม้าเต่อ ๆ ที่มาวันแรกปะ” “อะไรวะ เห็นด้วยเหรอ เห็นตอนไหน ตาไวจริง” “เช็ดเป็ด! เขาลือกันให้แซดเลย ป่านนี้ถึงหูป้าศรีแล้วแน่ ๆ ดังนั้นเห็นตอนไหนไม่สำคัญ อยู่สถานะไหนแล้วบอกมาเดี๋ยวนี้ พูด!” “ยังไม่ใช่อย่างที่เฮียคิดนะตอนนี้ยังคุยกันอยู่” ชยันต์พยายามหาเวลาว่างช่วงหลังเลิกงานแวะเวียนไปพบเธอเสมอ ทั้งยังเล่าถึงสถานที่ที่พบกันครั้งแรกและครั้งที่สอง ชวัลวิทย์ถึงกับหัวเราะร่วนในเหตุบังเอิญอันแสนลงตัว “เหลือเชื่อจริง ๆ แล้วเขาชื่อตี้...คิตตี้เหรอ” “เปล่า...อินฟินีตี้ต่างหาก” “โคตรอินดี้เลย สมัยนี้มีแต่คนชื่อจริงอ่านยาก ๆ ไม่นึกว่าจะมีชื่อเล่นแบบนี้ด้วยเว้ย” จริงอย่างที่ชวัลวิทย์ว่าชื่อแปลก ๆ อ่านยาก การันต์เยอะ ไม่มีวรรณยุกต์ ลดรูปลดสระ ท้าทายหลักภาษาเพิ่มความเก๋ไก๋ความหมายไม่ต้อง “ฟังแค่ชื่อเล่นก็น่าสนใจแล้วสิ เออดีเว้ย! ยินดีด้วยไม่เสียแรงที่รายงานสามเซียนที่บ้านว่างานยุ่ง รู้นะว่าควรทำยังไง เดี๋ยวอากงเจอคนถูกใจเข้าให้จะพูดไม่ออกนะ” “รู้แล้วล่ะขอเวลาอีกสักหน่อยละกัน” “เอ่อ! อีกเรื่องนึง ป๊าบ่นว่าทำไมหมู่นี้ไม่ค่อยกลับมากินมื้อเย็นที่บ้านนะ” มีหรือที่สุขสวัสดิ์จะไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกชาย ชยันต์ยังเป็นคนมุ่งมั่น จริงจังกับหน้าที่การงานเช่นเคย ออกจากบ้านเช้าปกติแต่เข้าบ้านดึกดื่น มองโทรศัพท์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตามลำพังเหมือนวัยแตกเนื้อหนุ่ม มันน่าแปลกตรงที่เขาไม่เห็นใบหน้ายิ้มแย้มเช่นนั้นมานานแล้วต่างหาก ชยันต์กำลังรอเวลา ปาราวตีนอนเอนหลังบนเปลยวนรับลมเย็นยามบ่ายบนระเบียงบ้านริมแม่น้ำกับนวนิยายแปลเรื่องโปรดในมือ ไกลออกไปมีเรือลำเล็ก ลำใหญ่สัญจรสวนกันไปมาบนพื้นน้ำกว้าง เมี๊ยว! เสียงแหลมร้องขอความเห็นใจกับอุ้งเท้าปุกปุยลอดใต้ประตูมุ้งลวด หลายวันมาแล้วที่เจ้าร่ำรวยต้องถูกกักบริเวณเพื่อความปลอดภัย ลภัทร์วางแผนจะทำอะไรอีก สิ่งที่เขาพยายามพูดเพื่อรื้อฟื้นอดีตในวันนั้นเกือบทำให้จิตใจไขว้เขวได้จริง แต่ปาราวตีก็ตระหนักได้ว่าความผูกพันธุ์ไม่มีเหตุผลมากพอที่จะให้เธอหวนกลับไปคืนดีกับลภัทร์ ‘…พี่ปิงกับแท็ปก็เป็นลูกชายคนเล็ก ครอบครัวเชื้อสายจีน อายุไล่เลี่ยกัน รับช่วงต่อกิจการของที่บ้านเหมือนกัน แต่นิสัยต่างกันลิบลับเลย พี่ปิงอยากได้อะไรต้องได้ ไม่ใจว่าจะได้มาด้วยวิธีการไหน ส่วนแท็ปนิสัยตรงข้ามกับพี่ปิงทุกอย่างเลย สรุปว่า...มันอยู่ที่การเลี้ยงดูมากกว่า จริงสินะแล้วเราล่ะตี้ เราถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนกัน...’ ความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา เป็นเหตุผลที่เธอไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องราวในครอบครัวเท่าไหร่นัก และแล้วแรงดึงดูดที่ไม่อาจมองด้วยตาเปล่าก็สิ้นสุดลงเมื่อเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้น ชยันต์พับแขนเสื้อขึ้นเหนือศอกระหว่างคีบซูชิให้เธอพลางลอบชำเลืองมองหญิงสาวอยู่บ่อยครั้ง ชอบทุกการแสดงอารมณ์ผ่านใบหน้าสวยคมแบบลูกครึ่งตรงหน้า ปาราวตีเคี้ยวปลาดิบตุ้ย ๆ จนแก้มป่องสลับกับจิบสาเกอุ่นระหว่างเล่าเรื่องแขกต่างชาติสุดแสนเรื่องมากให้ฟัง “ มีบางคนมาถามตี้ว่า มีนวดแผนไทยด้วยมั้ย ตี้แนะนำไปร้านนวดแผนโบราณก็แล้ว เขาก็ยังพูดไปเรื่อย คุยไปคุยมา พูดจาฉอเลาะตี้ไม่หยุด วันนั้นทั้งวันเกิดอะไรขึ้นให้ลุง รปภ. ช่วยดูอย่างเดียวเลย” “จริงเหรอ ยังไงเนี่ย มันยังอยู่หรือเปล่า...เสียมารยาทที่สุด” “เช็คเอ้าท์ไปเมื่อวาน เห็นบอกจะไปเกาะพงันต่อ” “ตี้ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ ล็อกประตูหน้าต่างที่บ้านให้ดีด้วยโจรขโมยมันเยอะ ลงข่าวหน้าหนึ่งแทบทุกวัน อันตรายน่าดู จริงสิติดกล้องวงจรปิดไว้รอบบ้านก็ดีนะ” “ตี้ดูแลตัวเองได้ เป็นห่วงตี้เหรอ” เธอยิ้มกว้าง ทำตาโต “ห่วงสิ ตัวเล็กนิดเดียวแบบนี้จะสู้รบปรบมือใครได้ ถึงจะมีเพื่อนบ้านเป็นตำรวจก็เถอะนะ” สหายบ้านใกล้เรือนเคียงของปาราวตีคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ชยันต์เห็นสัญลักษณ์รูปโล่ซ้อนดาบพร้อมกับชื่อ-นามสกุลที่นำหน้าด้วยยศพันตำรวจโทโดดเด่นเป็นสง่าบนรั้วบ้านฝั่งตรงข้าม น่าจะทำเอาโจรผู้ร้ายขวัญกระเจิงไปหลายราย...มิน่าล่ะถึงกล้าใช้ชีวิตลำพังกับแมวหนึ่งตัว “เอ่อ แถวท่าพระจันทร์มีนิทรรศการศิลปะจากต่างประเทศด้วย สนใจมั้ยเสาร์นี้” “ไปสิ ตี้ได้ยินข่าวอยู่ ก่อนหน้าวุ่น ๆ ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลย ไปเดินเล่นเก็บภาพมาทำโปสการ์ดด้วย” “ตกลงตามนั้น ให้รับที่บ้านหรือโฮสเทลบอกได้เลยนะ” “โอเค” ชยันต์ส่งปาราวตีที่โฮสเทล ทว่าทันทีที่เธอก้าวพ้นประตูกระจก ผู้ช่วยแจ้งว่ามีแขกมารอพบและใครคนนั้นน่าจะบังเอิญเห็นปาราวตีกับชยันต์เข้าแล้ว แล้วทำไมคนที่มารอพบต้องเป็นพิมพ์ผกาด้วยล่ะ พี่สาวผู้แสนดีจะรายงานความเคลื่อนไหวเช่นใดกับน้องชายสุดที่รัก ปาราวตีไม่ต้องการให้ชยันต์เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ “แจ้พิม สวัสดีค่ะวันนี้มาซะค่ำเลย มีธุระอะไรเร่งด่วนเหรอคะ” พิมพ์ผกากอดอก ปลายตามองคู่สนทนา หน้าท้องของเธอขยายใหญ่ขึ้นกว่าครั้งล่าสุดที่เจอกัน “ช่วงนี้เป็นไงบ้างล่ะ ตี้ดูสดใสขึ้นนะ อินเลิฟใช่มั้ย อย่าปฏิเสธเลยผู้หญิงด้วยกันดูออกอยู่แล้ว แจ้หวังว่าคนนั้นจะดีกว่าไอ้ปิงนะ” “แจ้มีเรื่องอะไรจากพี่ปิงหรือเปล่าคะ” ปาราวตีผ่อนลมหายใจจำยอมเมื่อถูกอีกฝ่ายเปิดประเด็น “มีสิ! เรื่องไอ้ปิงตัวดีนี่แหละ” หกเดือนก่อนหน้า ลภัทร์เข้าประชุมสามัญประจำปีสมาคมผู้ค้าทองคำแห่งประเทศไทย เขาเจอกับพิศฐ์สินีหรือ ‘หมวยเล็ก’ ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของประธานสมาคมฯ ครอบครัวลภัทร์และครอบครัวพิศฐ์สินีรู้จักมักคุ้นกันมานานครั้นแรกเริ่มก่อร่างสร้างตัว เด็กหญิงเด็กชายที่เคยเป็นเพื่อนเล่นได้เติบโตและเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นไปกัน ใครคือคนจำกัดความของคำว่า เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ! แน่นอนเธอแอบมีใจให้ลภัทร์เรื่อยมา แต่น่าเสียดายเธอยังเป็นได้เพียงเพื่อนสนิทผู้แสนดีและที่ปรึกษาด้านหัวใจ ใครจะรู้ว่ามันทรมานจิตใจแค่ไหนที่ต้องมานั่งฟังอีกฝ่ายพูดถึงแฟนตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยายนี่มีดีอะไร ตัดผมทรงแปลก ๆ ชุดนักศึกษากระโปรงยาวจะถึงตาตุ่ม สร้อยข้อมือข้อเท้าอะไรรุงรัง จะฮิปปี้จะเซอร์อะไรนักหนา ปิงชอบไปได้ยังไงประหลาดซะขนาดนี้...’ พิศฐ์สินีเคยพบปาราวตีหลายครั้งในที่ประชุมสมาคมฯ เธอได้แต่ยิ้ม หัวเราะและเออออตามน้ำทั้งที่ใจจริงสุดจะอัดอั้นเหลือเกิน ‘ไงปิง ช่วงนี้ที่ร้านเป็นยังไงบ้าง ลูกค้าเยอะเลยสิ ช่วงท่องเที่ยวแบบนี้’ เธอทักทายตามประสาคนคุ้นเคย ‘ก็ดีนะ...เรื่อย ๆ’ ลภัทร์หาได้สนใจจะมองหน้าคนถามเอาแต่ก้มหน้ามองจอโทรศัพท์ในมือ ‘ช่วงนี้ทองราคาดีซะด้วย เยาวราชคึกคักน่าดูเลยสิ’ ‘อืม...ใช่’ เขาตอบและยังไม่ละสายตาจากสิ่งที่น่าใจในมือ ‘ได้ยินว่าสาขาใหม่ขายดีน่าดูเลยตอนประมูลได้ข่าวว่ามีคู่แข่งหมายตาเยอะพอสมควรเลย ถ้าไงปิงแนะนำหมวยเล็กบ้างสิว่าเจรจาธุรกิจยังไงให้ประสบความสำเร็จ...’ ‘คำแนะนำน่ะไม่มีหรอก ! แค่รู้ว่าผลประกอบการดีก็พอแล้วมั้ง’ ลภัทร์เผลอกระแทกเสียงใส่ ประเด็นนี้มันสะกิดรอยแผลที่บาดลึกหัวใจ ‘เอ่อ...หมวยเล็กขอโทษที่ถามเซ้าซี้’ เพื่อนสาวสะดุ้งเฮือก ผงะถอยหลัง ‘ปิงขอโทษนะ คือ...มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย ปิงไม่ได้ตั้งใจ’ ‘ไม่เป็นไรนะ งั้นเย็นนี้ไปนั่งเล่นจิบค็อกเทลแถวทองหล่อมั้ย เผื่อปิงจะสบายใจขึ้น’ ค่ำวันเดียวกัน ณ ร้านหรูดูดีแต่ราคาขูดเลือดขูดเนื้อแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ...กลับมาได้หรือเปล่า...กลับมาหาฉันอีกทีได้มั้ยคนดี หากว่าใจของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปก็ให้โอกาสฉันอีกจะได้มั้ย ได้โปรด...อย่าทิ้งรักไปเลย! เอ๊ะ จิรากรได้กล่าวไว้ นั่นสินะ ใครเลือกเพลง นักร้องเล่นดนตรีสดเพลงอกหักเคล้าคลอบรรยากาศสลัวยามค่ำคืน มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมือและเพื่อนสนิทให้ระบายความทุกข์สักคนข้างกาย ครบสูตรปรับทุกข์คนอกหัก ‘ปิงม่ายเข้าจาย ปิงแค่คุยงาน ปิงทำเพื่อครอบครัว ผู้หญิงม่ายมีเหตุผลเลย…ขี้งอนจริง ๆ ปิงก็แค่...ขึ้นเตียงกับอาซ้อแกเฉย ๆ ครั้งเดียวเอง ไม่ได้จะคบชู้หรือเลี้ยงเป็นกิ๊กซะหน่อยแต่ตี้เห็นเป็นเรื่องใหญ่โตไปด้าย...เรื่องขี้ผง! มันเป็นเรื่องงานนะ’ ลภัทร์ระบายความอัดอั้น ซัดโฮกเหล้าสูตรแรงเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่า ‘มันเป็นเรื่องเล็กสำหรับปิงล่ะสิ มิน่าล่ะหมวยเล็กถามเรื่องสาขานั้นแล้วปิงถึงหงุดหงิดเพราะงี้นี่เอง’ ศิราณีจำเป็นนั่งท้าวคาง ถอนหายใจส่ายหน้าไปพลาง สำหรับผู้ชายเห็นเป็นเรื่องเล็กไม่แปลกใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงขอเลิกรา ยิ่งดึก...ยิ่งดื่มเยอะ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ส่งผลให้เลือดลมสูบฉีดรุนแรงร้อนวูบวาบ สติสัมปชัญญะหดหาย ลภัทร์ฟุบใบหน้าแดงก่ำกับโต๊ะไปในที่สุด พิศฐ์สินีจำต้องรับหน้าที่ขับรถไปส่งเพื่อนชายที่คอนโด เธอขอแรงให้ รปภ.ช่วยหิ้วปีกเขาขึ้นมาส่งบนห้อง เมื่อเสร็จภารกิจก็เหลือเพียงเขาและเธออยู่ตามลำพัง เข้าตำราเพื่อนสนิทกับคนอกหักที่เมามายไม่ได้สติ ‘ตีอยู่ด้วยกันก่อนสิ อย่าทิ้งพี่ไปเลยนะ’ ลภัทร์ฉวยข้อมือเพื่อนสาวคนดีไว้แน่น ดวงตาสะลืมสะลือ กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งโชยฉุนแสบจมูก ภาพของหญิงสาวเบื้องหน้าพล่ามัวจิตใต้สำนึกสั่งให้เข้าใจไปเองว่าคนรักเก่ายอมกลับมาคืนดีด้วยแล้ว เขารวบร่างบอบบางเข้ามากอดรัดไว้แน่น ล้มตัวลงบนที่นอน แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป บ่ายวันต่อมาลภัทร์ตื่นขึ้นลำพังพร้อมข้อความจากพิศฐ์สินีมีใจความว่าให้เรื่องทุกอย่างเมื่อคืนเป็นความลับ ไม่กี่อาทิตย์เขาก็ลืมมันไปเหมือนไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น “จริงหรอคะแจ้ พี่หมวยเล็กกับพี่ปิง เอ่อ...คือ นึกว่าจะมีแต่ในละครนะ” “ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครนะ หมวยเล็กแอบรักไอ้ปิงมานานแล้ว แจ้เคยเห็นมันมองตี้ด้วยหางตาออกบ่อยไป” “ตี้ก็รู้สึกค่ะ นึกว่าคิดอยู่คนเดียว” “เรื่องยังไม่จบนะตี้ อาทิตย์ที่แล้วไอ้ปิงโดนเตี่ยกับม้าเรียกตัวเข้าบ้านด่วน...” ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้ต่างหาก สมาชิกครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ลภัทร์ไม่ทันได้เอ่ยถามสิ่งใดออกมา เขาเห็นพิศฐ์สินีและพ่อแม่ของเธอกำลังพูดคุยคล้ายกับปรึกษาอะไรสักอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนสนิทร่างอวบขึ้นจนผิดหูผิดตา พิศฐ์สินีท้อง ทันทีที่หล่อนทราบแน่ชัดว่าตั้งครรภ์จึงรีบเก็บตัวเงียบหลายเดือน อันที่จริงเธอกำลังรอให้ทารกเติบโตจนสามารถทำอัลตราซาวด์บอกเพศได้ต่างหาก เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ลภัทร์รู้สึกเหมือนโดนต้อนให้จนมุม เขาหน้าชาซีดเผือดขบกัดริมฝีปากแน่นระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายหารือซึ่งกันเกี่ยวกับงานหมั้นและงานวิวาห์สายฟ้าแลบ ตระหนักได้ว่าชีวิตพลาดพลั้งครั้งใหญ่เสียแล้ว ได้รู้ซึ้งถึงคำว่า...แพ้ภัยตัวเอง ทายาทห้างทองร้อยล้านกับลูกสาวประธานสมาคมผู้ค้าทองคำแห่งประเทศไทย สำเภาทองล่มในบ่อทองคำ นับจากนี้จะมีแต่ทอง ทอง และทอง เพราะท้องนั่นเอง! “เตี่ยกับม้าตอนแรกก็อึ้งเกือบจะเป็นลมเลยล่ะ แต่พอหมวยเล็กมันโชว์ภาพอัลตราซาวด์ให้ดูนะ ก็ดีใจกันยกใหญ่เพราะได้มีหลานในสมใจอยากแถมเป็นฝาแฝดด้วย” “เรื่องจริงหรือนี่ แต่ว่าแจ้คะแล้วสมมติเกิดได้ลูกผู้หญิงขึ้นมาเตี่ยกับม้าจะโอเคอยู่หรือเปล่าล่ะคะ” “จะได้เพศไหนก็ต้องแต่งอยู่ดี ถ้าการมีครอบครัวสอดคล้องกับผลประโยชน์ทางธุรกิจด้วย ยิ่งกว่าถูกหวยร้อยล้านเลยนะตี้ แจ้ว่าเป็นเวรกรรมของไอ้ปิงมันนั่นแหละ ชอบนอนคุยธุรกิจดีนัก โดนจับแต่งงานแฝงธุรกิจไปซะ แจ้ล่ะโล่งเลย จะได้ไม่ต้องตามมาฟูมฟายเรื่องตี้อีกเพราะว่า...” พิมพ์ผกาละคำพูดหน้าชื่นตาบานกว่าเดิม “มันกับหมวยเล็กบินไปออสเตรเลียแล้วนะจ๊ะ เมียมันบอกว่าอยากสร้างครอบครัวกับไอ้ปิงที่นั่น แต่แจ้ว่าหมวยเล็กอยากจะแยกพ่อทูนหัวของนางออกจากตี้มากกว่า” จริงตามที่โบราณว่าไว้...รักคนที่เขารักเราดีกว่านะพ่อเทพบุตรนักรัก “ปิดตำนานอาตี๋เพลย์บอย ตี้สงสารพี่ปิงอยู่นะแต่ถ้าคนมันไม่ใช่ดันทุรังยังไงก็ไม่ใช่อยู่ดี มันคงเปลี่ยนอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ ว่าแต่แจ้ได้ลูกสาวหรือลูกชายล่ะคะ” “ลูกชายจ้ะ ที่บ้านเขาดีใจกันใหญ่แทบปิดซอยเลี้ยงเลยแหละ” พิมพ์ผกาและปาราวตีใช้เวลาพูดคุยกันต่ออีกพักใหญ่ กลางดึกวันเดียวกัน ปาราวตีส่งข้อความถึงใครคนหนึ่งด้วยหัวใจเบิกบานดั่งยกภูเขาออกจากอก ‘เสาร์นี้มารับตี้ที่บ้านนะ’ แล้วข้อความถูกตอบกลับตอนเช้ามืดว่า ‘รับทราบครับ’ ชยันต์ร่างกายเบาหวิวดวงตาส่องประกายสดชื่นแจ่มใสรับกับรอยยิ้มกว้าง ระหว่างหันไปทักทายอากงและสุขสวัสดิ์ที่กำลังจิบน้ำชาอุ่นยามเช้าหน้าบ้าน ขณะที่ผู้สูงวัยทั้งสองหยิบเอาภารกิจนัดดูตัวขึ้นมาหารืออีกรอบ “ร่ำรวยออกเล่นข้างนอกได้แล้วนะ” เจ้าแมวอ้วนกระโดดเหยง ๆ พ้นกรอบประตูบ้าน ออกไปนอนเกลือกกลิ้งอาบไอแดดอุ่นบนพื้นปูนหน้าบ้าน ปาราวตีกลับมาใช้ชีวิตประจำวันอย่างสบายใจเพราะหลังจากนี้ก็ไม่ต้องหลบเลี่ยงคนในอดีตอีกต่อไป “สรุปภาพรวมงานสัปดาห์หนังสือแล้วโล่งเลย วันนี้จะได้พักสักที” นิทรรศการศิลปะยามบ่ายคล้อย มีผู้มาเยี่ยมชมบางตา มีภาพวาดสีสันฉูดฉาดสลับกัยสีมืดเรียงรายเป็นแถวบนผนังสีครีมนวลตากับปะติมากรรมลอยตัวที่สร้างจากวัสดุที่แตกต่างกัน รูปทรงแปลกประหลาดชวนค้นหาความหมายอีกมากมาย ปาราวตียกกล้องถ่ายรูปขึ้นมารัวชัตเตอร์เก็บภาพไม่หยุด เธอรวบผมทรงซาลาเปาแบบยุ่ง ๆ ไว้กลางศีรษะ หน้าม้าสั้นเต่อเผยหน้าผากใสเนียน แจกเสน่ห์ความสวยสดใสเช่นทุกวัน ขณะที่ชยันต์กำลังยืนพิจารณาความหมายบนภาพวาดนามธรรมภาพหนึ่ง...และไม่รู้ตัวว่าได้กลายเป็นนายแบบเฉพาะกิจของปาราวตีไปด้วย บังเอิญมีเจ้าหน้าที่ประจำโครงการยืนหลบมุมพุ่งความสนใจมายังปาราวตีสลับกับชายร่างสูงที่วนเวียนไม่ห่างกัน หล่อนหรี่ตาเหยียดยิ้มกำลังจะขยับปากทักทายคนคุ้นเคย ปาราวตีหันขวับมาพอดี เธอยกนิ้วชี้ทาบริมฝีปากส่งสัญญาณบางอย่างให้เข้าใจตรงกัน อีกฝ่ายคลายข้อสงสัย พยักหน้ารับชูนิ้วโป้งปล่อยให้เพื่อนของหล่อนใช้เวลากับว่าที่เจ้าของหัวใจคนใหม่ ‘โปรดทราบ สภาชะนีทั้งหลาย มีบางคนจะไม่โสดแล้ว...’ ปาราวตีกลายเป็นหัวข้อสนทนาให้กลุ่มเพื่อนสาวเม้าเป็นนกแตกรังในไม่ช้านี้ “เป็นไงบ้างสนุกมั้ย” ชยันต์ ซุกมือสองข้างไว้ในกระเป๋ากาง เดินช้า ๆ เคียงข้างสาวร่างบางขณะกำลังชมวิวริมแม่น้ำยามเย็นที่โซนนิทรรศการกลางแจ้ง “อยากมากางเต็นท์นอนค้างหลาย ๆ คืนเลยล่ะ ขอบคุณที่พามาเที่ยวนะ สนุกมากเลย” ปาราวตีฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี หันไปเก็บภาพวิวทิวทัศน์เบื้องหน้า “ถ้าตี้ชอบ แท็ปก็ดีใจนะ อย่างน้อยก็ยังทำอะไรถูกใจตี้บ้าง” บรรยากาศดวงอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้า แสงสีส้มเหลืองฉาบไปทั่วบริเวณโดยรอบ ตกกระทบลงบนดวงหน้ารูปไข่เรียวเล็ก สันจมูกโด่งคมและนัยน์ตารียาวกลมโตล้อมด้วยแพขนตางอนธรรมชาติเหมือนภาพวาดสตรีงามในอุดมคติที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ “ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า จริงสิ…!” เธอดูเวลาบนข้อมือ “ที่นี่ปิดหกโมงครึ่งนะ เหลือสิบห้านาทีเอง ตี้ว่าเรากลับกันดีกว่า” “เดี๋ยวสิตี้” ชยันต์รอโอกาสดี ๆ เช่นนี้มานานแล้ว ปาราวตีกระพริบตาถี่ ก้มมองมือตัวเองที่ถูกคว้าหมับด้วยมือหนาอย่างไม่ทันตั้งตัวแล้วจึงเชยคางขึ้นสบสายตามุ่งมั่นที่ไร้ซึ่งประหม่าใด ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นใด คงต้องปล่อยให้หัวใจช่วยนำพา “เอ่อ...เรื่องมุมมองความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน เราอาจจะเคยได้ยินจากคำบอกเล่าของคนอื่น ทุกอย่างฟังดูง่าย แต่ความเป็นจริงการตกหลุมรักใครสักคนกลับไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากได้รู้จักกันตี้ แท็ปก็เข้าใจทุกอย่าง” ชยันต์เม้มปากเล็กน้อย พลางขยับมือประสานนิ้วยาวเข้ากับเรียวนิ้วของหญิงสาวแล้วบีบมันกระชับแน่นขึ้น “แท็ปอยากให้ เอ่อ...หลังจากนี้เป็นเรื่องของเรา เราสองคนตั้งแต่วันนี้จะ...เป็นมากกว่าเพื่อน...” สมกับเป็นคนทำหนังสือต้องมีอารัมภบทเปิดเรื่อง ประโยคบอกเล่าดังกล่าวก็แปลความหมายได้เพียงอย่างเดียว แฟน! ปาราวตีพวงแก้มแดงสุกปลั่ง ดวงตากลมโตจ้องนิ่งราวกับถูกร่ายมนต์สะกด หัวใจดวงเดียวของเธอเต้นแรงพร้อมอยู่ภายใต้การดูแลของเขาแล้ว คำตอบสำหรับวงการนี้คือผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณาเท่านั้น หญิงสาวยิ้มกว้างปนหัวเราะแก้เก้อเล็กน้อยโชว์ฟันกระต่ายน่ารักคู่หน้า ชวนคู่สนทนาติดพันขำขันร่วมด้วย “ขำอะไรเนี่ย ไม่ได้เล่นมุขแป๊กสักหน่อย จะหัวเราะทำไมล่ะ” “มันเหมือนกับว่าแท็ปส่งต้นฉบับให้ตี้แล้ว ตี้ไม่คืนให้นะยึดอย่างเดียว ไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ไม่มีส่วนแบ่งให้นะ จะยอมหรือเปล่า” “ยึดไปเลยเพราะแท็ปไม่ให้ใครพิจารณาอีกแล้ว” พ่วงท้ายคำ ชยันต์จะไม่รับใครมาพิจารณาหัวใจอีก “ตกลงตามนั้นค่ะ บก.แท็ป” “รับทราบครับ” ทั้งคู่ยังคงเดินกุมมือกันและกันขณะเดินออกจากหอศิลป์ชั่วคราวแห่งนั้น เริ่มต้นสานสัมพันธ์ในสถานะคนรักอย่างเต็มรูปแบบนับจากวินาทีนี้ “เย็นนี้ไปหาอะไรทานที่เยาวราชดีมั้ย มีร้านอร่อยเพียบเลย ตี้ไม่ได้ไปมานานแล้วด้วย” “โอเคตามใจครับ!” ถ้าต้นฉบับคือหัวใจ แค่รอใครสักคนเข้ามาพิจารณา คำตอบคือผ่าน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD