“สวัสดีค่ะ สนใจสร้อยข้อมือ สร้อยคอ แหวน นาฬิกาดีคะ” พนักงานสาวในร้านเดินมาต้อนรับพร้อมกับยกมือไหว้เขาและเธอ
“สนใจสร้อยข้อมือครับ อยากเอาไว้ผูกมัด จะได้ไม่ปล่อยมือกัน”
นักพรตไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองพูดอะไรออกมา สายตาคมนุ่มลึกมองจ้องมาทางหญิงสาวข้างกายอย่างมีความหมาย ทำเอาดาหวันเคอะเขิน บิดตัวไปมา พร้อมกับบิดข้อมือของตัวเองออกจากมือใหญ่ และมันก็ได้ผล เมื่อเขายอมปล่อยมือเธอ
“เชิญทางนี้เลยค่ะถ้าเป็นสร้อยข้อมือ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย เหมาะกับแฟนของคุณมากเลยค่ะ” พนักงานสาวแนะนำพร้อมกับเชิญชวนทั้งสอง
“ดีครับ แฟนผมเป็นคนเรื่องมากและดื้อมากด้วยครับ” นักพรตไม่ปฏิเสธแม้แต่น้อย แต่กลับเออออไปกับพนักงานสาวทำให้ดาหวันหน้างอง้ำไม่พอใจ ยืนนิ่งอยู่กับที่
“น้องหวันมาช่วยเลือกสิครับ ทำไมครับ โกรธงอน หรือไม่พอใจอะไรพี่ครับ บอกมาสิครับ” ยิ่งได้ยั่วยิ่งชอบใจ ยิ่งสนุก รู้สึกว่าชีวิตของเขามีสีสันมากกว่าแต่ก่อน จากวันนั้นจนวันนี้ วันที่ได้เจอ เขาเริ่มละเมอเพ้อถึงหล่อนทุกค่ำคืนในห้วงฝันนิทรารมณ์
“พี่น้องกันคุยกันได้ทุกเรื่องไม่ใช่เหรอครับ กฎมันมีมาแบบนั้นใช่ไหมนะ”
“ค่ะ หวันจะช่วยเลือก” หล่อนตีหน้าตึงเดินไปหาชายหนุ่มกับพนักงาน “แบบไหนคะ ต้องการแบบไหนบอกหวันมาสิคะ บอกลักษณะแฟนของพี่พรตมาเลยค่ะ หวันจะได้เลือกเหมาะกับเธอ”
“นั่นสินะ แบบไหนดีนะ ตัวเล็ก ๆ ปากนิด จมูกหน่อย นิสัยก็ดื้อรั้น เอาแต่ใจเหมือนเด็กไม่รู้จักโตน่ะ” พูดจบก็หันไปหาพนักงานสาว แล้วชี้ให้เอาสร้อยข้อมือเส้นที่คิดว่าเหมาะกับหญิงข้าง ๆ ตนมาให้ดู
ดาหวันขมวดคิ้วคิดตามลักษณะนิสัยตามนักพรตบอกมา คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าจะมีสร้อยข้อมือแบบไหนเหมาะกับเธอ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนกับว่าหล่อนรู้จักผู้หญิงคนนี้
“พี่พรต ผู้หญิงที่พูดมา หวันขอชัดเจนกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ”
“ไม่ต้องถามแล้วครับ เอามือมาสิ พี่จะลองใส่กับข้อมือของหวันดูว่ามันเหมาะและพอดีไหม” มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กขึ้นมาวางไว้บนหลังตู้กระจก แล้วจัดการสวมสร้อยข้อมือให้สาวเจ้า
“สวยจังเลยค่ะ พี่พรตตาถึงนะเนี่ย แฟนพี่พรตต้องชอบ รักหลงตายแน่เลยแบบนี้”
ตอนแรกจะด่าชายหนุ่มที่ดึงมือตนไปสวมใส่สร้อยข้อมือโดยไม่รอให้อนุญาต แต่พอได้เห็นสร้อยรูปปลาโลมาคู่ที่พันกอดกันเป็นเส้นอยู่บนข้อมือของตนก็อดชื่นชมในความตาถึงของชายหนุ่มไม่ได้ หล่อนเองก็ชอบสร้อยเส้นนี้เหมือนกัน
“ชอบไหมครับ” ถามเสียงนุ่ม ลูบสร้อยข้อมือที่ข้อมือเล็กไปมา
“ชอบค่ะ แต่ไม่รู้ว่าแฟนพี่พรตจะชอบไหม อันนี้หวันก็ไม่รู้นะคะ” พูดจบพร้อมกับพยายามจะแกะสร้อยข้อมือออก แต่ถูกมือใหญ่จับห้ามไว้
“ชอบสิ ทำไมจะไม่ชอบ งั้นเอาเส้นนี้แหละครับ”
นักพรตหันไปพูดกับพนักงานสาวพร้อมยื่นบัตรให้หล่อนได้คิดเงิน “ไม่ต้องถอดหรอก มันเหมาะกับหวันที่สุดแล้ว” เขาพูดแค่นั้นหล่อนถึงกลับเบิกตากว้าง เมื่อสมองประมวลคำพูดก่อนหน้านี้ลักษณะของแฟนสาว มันคือเธอนั่นเอง
“ไหนบอกเป็นพี่น้องกัน แล้วทำไม...”
“ไม่ทำไมหรอก อยากให้ มันเหมาะกับหวันแล้วเส้นนี้ มันเป็นของหวัน ไม่ต้องถอดออกนะ พี่ถือว่าเราผูกพันกันด้วยสร้อยข้อมือเส้นนี้แล้วตอนนี้”
“ไหนบอกเป็นพี่น้องกัน” หล่อนดึงมือตัวเองกลับมาไว้กับตัวเอง และพยายามแกะสร้อยข้อมือออก แต่ก็แกะลำบากเหลือเกิน
“ขอบคุณนะครับ” รับบัตรจากพนักงานสาวพร้อมคำขอบคุณสุภาพ ก่อนจะตอบคำถามของสาวเจ้าคนสวยที่ตอนนี้บูดบึ้งไม่สบอารมณ์ “ใช่ไงก่อนหน้านี้พี่น้องกัน แต่ไม่ได้บอกว่าอนาคตเราจะเป็นแฟน เป็นผัวเป็นเมียกัน ว่าไหม กลับกันเถอะ แล้วก็อย่าคิดถอดสร้อยข้อมือเป็นอันขาด พี่ให้เราไว้ในฐานะว่าที่เจ้าบ่าว อีกอย่าง มันเหมาะกับหวันด้วย พี่ชอบที่มันอยู่บนข้อมือหวันนะ”
น้ำเสียงจริงจังของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวของหล่อนลดหายไปเลย หล่อนไม่ชอบที่ถูกมัดมือชกแบบนี้ และที่สำคัญเขาหลอกเธอ
“ไม่ค่ะ ถ้าเป็นพี่น้องกันอย่างที่ตกลงกันไม่ได้ เราก็ไม่ต้องมาพูดกันอีก หวันกลับแล้วค่ะ และก็สร้อยนี้เอาคืนไป" ถอดสร้อยข้อมือได้ก็วางตบแรง ๆ บนหลังตู้กระจกของร้าน แล้วก้มลงหยิบเอาข้าวของของตัวเองแล้วเดินจากไปด้วยความเคืองขุ่นชายหนุ่ม
“เดี๋ยวก่อนสิหวัน” เขาหยิบสร้อยข้อมือแล้ววิ่งตามเธอออกไป
เมื่อดาหวันออกมาจากร้านก็รีบเดินสาวเท้าก้าวสั้น ๆ ของตนไปยังลานจอดรถทันที หล่อนไม่อาจช้าได้เพราะนักพรตวิ่งตามไล่หลังหล่อนมา
“รอพี่ก่อนหวัน”
“ไม่รอค่ะ รอก็คุยไม่รู้เรื่อง” หล่อนหยุดเดินหันมาตะโกนตอบเขา
“แต่ต้องคุย” เขาตอบกลับมาเสียงเข้ม และก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็มาประชิดตัวคนตัวเล็ก มือใหญ่ฉุดกระชากแขนของดาหวันให้หยุดเดินแล้วหันมาเผชิญหน้ากับตน
“มีอะไรอีกคะ ก็บอกว่าไม่คุย”
“สร้อยข้อมือ หวันลืมสร้อยข้อมือ” เขายัดมันใส่มือของหล่อนก่อนจะเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก
ดาหวันนิ่งทิ้งสร้อยข้อมือตกลงกับพื้นจ้องมองแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินจากไป เธอคิดว่าเขาจะตามตอแยพูดเยอะกว่านี้ แต่ไม่เลย นักพรตไม่ได้คิดจะพูดอะไร แม้แต่หันกลับมามองเธอก็ไม่มอง ปากน้อยขบเม้มแน่นก้มมองสร้อยข้อมือที่ตนทำตกไว้ จะทิ้งไว้ก็เสียดายเพราะมันไม่ใช่ของราคราบาทสองบาท แต่มันเป็นหมื่น ๆ หล่อนย่อตัวลงเก็บอย่างจำยอม
“มันไม่ใช่ของแกยัยหวัน”
หล่อนบอกตัวเองพร้อมกำสร้อยข้อมือแน่น แล้วก็เชิดหน้าคอตั้งเดินไปยังรถของตนที่จอดอยู่ พอมาถึงรถของตนก็ไม่เห็นรถของนักพรตที่จอดเคียงข้างกัน เขาขับออกไปแล้ว และหล่อนก็ไม่เห็นต้องแคร์ ดาหวันเปิดประตูรถยัดข้าวของในมือไว้เบาะหลัง แล้วตัวเองก็ขึ้นประจำที่ ติดเครื่องยนต์แล้วออกตัวไปอย่างรวดเร็ว
มาอยู่บ้านหลังใหญ่หลังนี้มาได้อาทิตย์กว่าแล้ว
แต่กล้วยก็เริ่มรู้สึกผูกพันกับสถานที่แห่งนี้
มักปวดหัวบ่อย ๆ เมื่อพยายามคิดถึงเรื่องราวในอดีตของตน หล่อนทำงานช่วยแม่บ้านทำความสะอาดบ้าน ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่เห็นเจ้านายโดยตรงของตน ได้ยินแต่ใคร ๆ พูดถึงเขา
"เฮ้อ!"
หล่อนถอนหายใจไปหั่นผักช่วยป้ายิ้มไปด้วย
“เป็นอะหยังหนูกล้วย” ป้ายิ้มพักมือจากหั่นเนื้อแล้วถามคนหั่นผักข้าง ๆ
“กล้วยอยากจำตัวเองได้ค่ะป้ายิ้ม กล้วยเบื่อ”