“จะรีบเดินไปไล่ควายรึไงครับน้องหวัน” แม้จะสุภาพ แต่คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เท้าน้อยหยุดชะงัก หันมาตวัดสายตาขุ่นใส่อีกคน
“แล้วเห็นมีควายสักตัวไหมคะพี่พรต” หล่อนถามกลับก่อนจะพูดต่อ “หวันขอพูดกับพี่ตรง ๆ เลยแล้วกันนะคะ หวันคิดว่าพี่ก็คงคิดไม่ต่างจากหวัน”
“คิดยังไงครับ” เลิกคิ้วถาม
“นั่นสิคะ คิดยังไงไม่รู้ แต่หวันไม่อยากแต่งงานค่ะ หวันยังไม่คิดเรื่องนี้”
“ก็คิดซะสิครับ ไม่เห็นยากเลยไร่พาสวรรค์สวยและกว้างมากเลยนะครับ” เขาเดินวนรอบตัวหล่อนยั่วอารมณ์ของคนตัวเล็ก
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับดาหวันด้วย
“อย่ากวนหวันได้ไหมคะ เรามาตกลงกันเลยเอาให้เคลียร์ไปเลย เราจะไม่แต่งงานกันใช่ไหมคะ” สาวเจ้าเอ่ยเสียงดังขึ้น
แสดงให้รู้ว่าตอนนี้เขากวนอารมณ์หล่อนสำเร็จแล้ว
“อืม! แล้วจะทำยังไงในเมื่อพ่อแม่ของเราทั้งสองเป็นคนจัดการ พี่ว่าลูกที่ดีควรทำตามที่พ่อแม่ต้องการนะว่าไหมครับ” ยื่นหน้ามาชิดหน้าสวยพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะถอยห่างแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงเดินนำหน้าเจ้าของไร่
“หยุดก่อนสิคะพี่พรต” หล่อนรีบวิ่งตามคนตัวโตไปให้ทันแล้วไปดักหน้าชายหนุ่ม
“ว่าไงครับ มีอะไรจะพูดอีกพี่ว่าพี่พูดเคลียร์แล้วนะ รู้อะไรไหมพี่ก็ไม่อยากแต่งงานกับหวันหรอกนะ
แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว”ตอนแรกไม่อยากแต่ง
แต่ตอนนี้เริ่มคิดแล้วสิ สายตากรุ้มกริ่มมองสำรวจร่างเล็กที่วิ่งมาหยุดตรงหน้าตนด้วยสายตาเจ้าเล่ห มุมปากหนาหยักยิ้ม ก่อนจะขำในลำคออกมาให้เธอได้ยิน
“หึหึ รู้อะไรไหมหวันเป็นคนที่สวยมากเลยนะ น่ารักด้วย พี่อยากรู้จังว่าข้างในชุดสวย ๆ ที่ใส่อยู่ตอนนี้จะสวยมากแค่ไหน”ไม่ได้พูดเปล่า มือใหญ่ยังยกขึ้นลูบไล้ไหล่มน แม้ว่าเจ้าหล่อนจะใส่ชุดพื้นเมืองของภาคเหนือก็ตามแต่ก็ทำให้คนตัวเล็กห่อไหล่ตัวงอด้วยความตกใจ
“ยะ...หยุด!"ปัดมือใหญ่ออกจากไหล่ตน พร้อมกับตวัดมือเล็กใส่หน้าของคนไร้มารยาท
เผียะ!
“อย่าทำแบบนี้กับหวัน”
“ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ”
หันหน้าที่หันไปตามแรงตบของมือเล็กกลับมาเผชิญหน้า มือใหญ่กระชากมือเล็กข้างที่ตบตนดึงรั้งร่างน้อยเข้ามาหาต จนเธอเสียหลักเซกระทบอกของเขา
"อุ๊ย! ปล่อยหวันนะ”
สั่งพร้อมดันตัวเองออกห่างจากชายหนุ่ม แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อมือใหญ่รัดเอวหล่อนเข้าหาแนบแน่น แถมมืออีกข้างก็ถูกบีบข้อมือจนเจ็บ
“ขอโทษก่อนสิ”
“ขอโทษเรื่องอะไร หวันไม่ได้ทำอะไร โอ๊ย!"พูดยังไม่ทันขาดคำก็ร้องเจ็บ เมื่อมือใหญ่เพิ่มแรงบีบข้อมือหล่อน
“หวันรู้ว่าเรื่องอะไร ขอโทษเดี๋ยวนี้!พี่สั่ง หวันก็ต้องพูดสิ”จากน้ำเสียงพูดจายียวนกวนประสาทก่อนหน้าก็เปลี่ยนมาเป็นเข้มใบหน้าก็เปลี่ยนจากมียิ้มเจ้าเล่ห์เป็นหน้านิ่งขรึม
“ไม่! พี่พรตไม่มีสิทธิ์มาสั่งหวันและก็ปล่อยได้แล้ว” สาวเจ้ายังคงไม่ยอมอ่อนข้อให้ และไม่มีทางจะขอโทษอีกฝ่าย
“อวดดี!" พูดจบก็โน้มหน้าลงมาจะบดขยี้เรียวปากอิ่มแต่ปากยังไม่ทันได้สัมผัสปากอวดดีก็ต้องหยุดชะงัก
“ปล่อยน้องพี่ดีกว่าไหมพรต”เพ้อภพสั่งเสียงเข้ม ไม่ได้แค่สั่งแต่เขายังเดินเข้ามาผลักนักพรตออกห่างจากน้องสาวของตนอีก
“พี่เพ้อ” เมื่อเป็นอิสระ ดาหวันก็เดินไปหลบหลังพี่ชายทันที
“ขอโทษครับพี่เพ้อ" นักพรตขอโทษผู้มาใหม่ แต่สายตายังจับจ้องไปยังคนเบื้องหลังเขาด้วยสายตาคาดโทษ
“น้องสาวพี่เป็นผู้หญิงและยังเด็กพรตไม่ควรทำแบบนี้กับน้องพี่ พี่ไม่ชอบ และอย่าให้พี่เห็นอีกจริงอยู่ที่พรตเป็นคู่หมั้นคู่หมายกับหวัน แต่ใช่ว่าจะทำแบบนี้กับน้องพี่ได้”แม้จะชอบนักพรต แต่ก็ไม่ชอบที่อีกฝ่ายจะล่วงเกินน้องสาวของตน
“ครับพี่เพ้อ” รับปากเสียงเบา
รอดไปนะแม่ตัวดี
อย่าให้มีโอกาสก็แล้วกัน พ่อจะปราบให้เชื่องเลย
“หวันก็ด้วย ไม่ควรไปตบพี่เขาแบบนั้น”หันมาตักเตือนน้องสาวของตนบ้าง
“พี่เพ้อเห็น” หล่อนเลิกคิ้วถาม
“ใช่ เห็นตั้งแต่เริ่มเลยแหละอย่าทำแบบนั้นอีก เพราะมันจะนำอันตรายมาให้ตัวน้องเองรู้ไหม”ไม่ได้แค่พูดยังบีบจมูกเชิดรั้นของน้องสาวคนเก่ง
“อื้อ! น้องเจ็บนะพี่เพ้อ ก็เขา...”
“ไม่ต้องเลยเรา ไม่ต้องมาเถียง พาพรตไปเดินเล่นได้แล้วไป”พูดแทรกพร้อมกับผลักดันน้องสาวไปหานักพรต
“ฝากน้องพี่ด้วยนะพรตหวันอาจจะเหมือนเด็กไปหน่อย แต่เลี้ยงง่ายนะ”
“พี่เพ้อทำไมทำแบบนี้กับน้อง
ไหนบอกจะช่วยหวันไงคะ”หล่อนบอกด้วยความน้อยใจพี่ชาย จากตอนแรกเหมือนจะช่วย แต่ทำไมตอนนี้ผลักดันหล่อนไปให้ผู้ชายคนนี้
“ครับพี่เพ้อ”นักพรตตอบพลางฉวยโอกาสจับมือเล็กไว้หลวม ๆ แล้วหันมายิ้มละไมให้สาวเจ้าเฮอะ! บ้าไปแล้ว ยิ้มบ้าบออะไรเนี่ย เมื่อเห็นยิ้มละไมส่งมาหล่อนก็แทบอยากฟาดหน้าหล่อ ๆ ที่ปรับเปลี่ยนอารมณ์ไวจนหล่อนเองปรับตามไม่ทัน
“ปล่อยค่ะ ไม่ต้องจับมือก็ได้”บิดข้อมือตนออกแล้วก็ได้รับอิสระ เมื่อได้อิสระก็รีบเดินสาวเท้าไปอีกทาง
“ตามไปสิ อย่าเล่น ๆ กับน้องพี่ถ้าไม่คิดจะจริงจังพรตถามตัวเองให้แน่ใจก่อน ถ้าคิดจะทำอะไรต้องมั่นใจ ไม่ใช่ทำไปเพราะความอยากเอาชนะ”เพ้อภพบอกว่าที่น้องเขย แล้วก็หมุนตัวเดินจากไป ทิ้งเหลือก็แต่นักพรตยืนนิ่งเพราะตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจและสับสนไปหมดแล้วกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นรู้ว่าเพ้อภพหมายถึงอะไรหัวใจหนุ่มวัย 33 ปีเต้นผิดจังหวะเมื่อคิดถึงอนาคตของตนกับสาวเจ้าที่เพิ่งเดินจากไป
“รีบ ๆ มาสิคะพี่พรต จะชมสวนไม่ใช่เหรอ”เสียงเล็กตะโกนเรียกสติเขาได้ดีทีเดียว เขาจึงสลัดความคิดความสับสนแล้วรีบเดินไปหาคนตัวเล็กหน้างอง้ำ
หลายวันต่อมาทางโรงพยาบาลก็โทร.มาแจ้งว่าผู้หญิงที่เพ้อภพช่วยไว้ตอนนี้หายดีแล้ว
พร้อมออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาจึงสั่งให้อามู่คนสนิทของเขาไปรับหล่อนมายังบ้านของตนส่วนตัวเขาจะเข้าไปดูงานในไร่ ไม่คิดจะสนใจเลยว่าเธอจะมีหน้าตายังไงแค่รับผิดชอบให้ที่อยู่อาศัยก็มากพอแล้วสำหรับคนที่สูญเสียความทรงจำ และไม่คิดจะสนใจดูดำดูดีด้วยซ้ำ
“ป้อเลี้ยง อามู่ไปรับเธอมาแล้วคัก” อามู่หนุ่มชายดอยรายงานนายของมัน
“อือ! พาไปห้องพักรึยัง ห้องพักคนรับใช้ในบ้านน่ะ แล้วแม่กับพ่อฉันเห็นไหมตอนพามา”
“อามู่ผะไปแล้วป้อเลี้ยงมะเลี้ยงมะเห็นคัก”
“ไปไหนก็ไปเถอะที่เหลือฉันจัดการเองอามู่”
“คัก” แล้วหนุ่มดอยก็เดินจากไป
“เฮ้อ...หาเรื่องวุ่นวายให้ตัวเองอีกแล้วไอ้เพ้อ”บ่นให้ตัวเองเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงานเอามือบีบนวดขมับตัวเองไปมา
ในบ้านหลังใหญ่ เธอถูกพามายังห้องเล็กๆ หล่อนมองห้องที่อยู่ไปมาก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากนอกห้อง แม้ว่าคนที่พามาจะบอกให้อยู่แต่ในห้องแต่ความอยากรู้อยากเห็นสิ่งภายนอกทำให้หล่อนขัดคำสั่ง
“ใครน่ะ” เสียงแหบแห้งเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวชุดพื้นเมืองแปลกหน้าเดินอยู่ในบ้านของตนร่างเล็กหมุนเคว้งไปมา
แล้วไม่เห็นใครเลยนอกจากตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนี้สาวเจ้าถอยหลังไปชิดผนังบ้านด้วยความหวาดกลัวผู้มาใหม่
“ฉันถามว่าใคร” สร้อยเพชรถามเสียงดังก้าวเดินมาหาหญิงแปลกหน้า เพราะที่บ้านไม่มีสาวใช้หน้าตาแบบนี้ และคนงานก็ด้วยนางรู้จักหน้าคนงานแทบจะทุกคน ไม่มีทางที่นางจะไม่รู้จัก
“มะ...ไม่รู้ค่ะ ขะ...คือ”สาวเจ้าสั่นกลัวมองเท้าตัวเอง เมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้เข้าทุกที
“คนของลูกเองครับแม่สร้อย” เพ้อภพตอบพลางเดินเข้ามาหาทั้งสองสายตาคมไม่คิดจะมองหน้าของหญิงที่ตนบอกว่าเป็นคนของตนเลยด้วยซ้ำไม่คิดจะสนใจแม้แต่หางตาเขายังไม่เหลือบแลหล่อน
“ทำไมแม่ไม่เคยเห็นเธอ”
“อามู่เพิ่งพามาวันนี้ครับ สวัสดีแม่ฉันสิเธอ...” เขาหันมามองคนที่ยืนก้มหน้ามองเท้าตัวเองอยู่ข้างหลังตัวเองก่อนจะสบถออกมา
“บ้าเอ๊ย!"
ลืมไปเลยว่าหล่อนความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้ ชื่อก็จำไม่ได้
“หยาบคาย ทำไมลูกสบถต่อหน้าแม่แบบนี้เพ้อ”นางเอ็ดลูกชาย
“เพ้อขอโทษครับแม่สร้อย ขะ...คือ...”
“อะไรเพ้อ ติดอ่างทำไม” นางซัก
“ไม่ได้ติดอ่างสักหน่อย สวัสดีแม่ฉันสิกล้วย”เมื่อสำรวจรูปร่างหุ่นสีผิวแล้วเลยตั้งชื่อให้เธอเสียเลย
ก็ผิวขาวอวบอิ่ม แต่หน้าตายังเห็นไม่ชัด ก็หล่อนเอาแต่ก้มหน้าก้มตากลัว มือใหญ่ฉุดดึงหล่อนมายืนข้างหน้าตัวเองอย่างถือวิสาสะ
คนที่เพิ่งมีชื่อทำตัวไม่ถูก เงยหน้าจ้องมองผู้ที่บอกชื่อหล่อนและอีกคนที่ถามด้วยความมึนงงแต่ก็ยอมยกมือไหว้สวัสดีอีกฝ่าย
“สวัสดีค่ะ”
“อือ! คนของลูก แบบไหนยังไง เมียเก็บเหรอเพ้อ” นางถามแบบไม่ต้องคิดนานด้วยรู้นิสัยลูกชายดี ไม่เคยพาผู้หญิงเข้าบ้าน
แต่วันนี้กลับมีเด็กหน้าตาละอ่อนชื่อกล้วยเข้ามา แถมบอกว่าเป็นคนของชายหนุ่มอีกนางชักสงสัยแล้วสิว่าลูกชายของนางคิดอะไรอยู่กันแน่ตอนนี้