“ถ้าขวดหมุนไปที่ใคร คนนั้นก็ต้องถอดออกหนึ่งชิ้น”
ปาลินแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง...
เธอคิดด้วยซ้ำว่าอาจจะเมาจนได้ยินที่ครามพูดผิด เพราะวันนี้เธอดื่มเบียร์ดีกรีแรงนั้นไปเกือบสามกระป๋อง
เธอเริ่มรู้สึกมึนๆ เวลาพูดจาลิ้นก็เริ่มพันกัน คอที่เคยตั้งตรงก็เริ่มจะอ่อนคอพับจนต้องเอนไปพิงชุนที่ย้ายมานั่งอยู่ข้างๆ เป็นไปได้ที่จะได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดผิดไป
แต่เมื่อได้มองหน้าคนอธิบายนานๆ เข้า พอหันมองไปที่เพื่อนคนอื่นก็ไม่มีใครมีท่าทีล้อเล่น หรือพูดขัดครามอย่างเช่นทุกครั้ง
เห็นอย่างนั้นเธอถึงได้เข้าใจว่ามันไม่ใช่การฟังผิด นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่มันเอาจริงกันแบบสุดๆ
ถึงจะรู้สึกแปลกๆที่เราซึ่งยังอยู่ในสถานะเพื่อนกันจะต้องมาเล่นเกมสุ่มเสี่ยงแบบนี้ แต่ตัวเธอที่ได้ยินถ้อยคำแปลกๆ ที่หมิงกับปราบคุยกันข้างล่างหมดทุกอย่าง ก็รู้ดีว่าวันนี้อาจจะเกิดอะไรขึ้น
ที่จริงปาลินก็สัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดที่เปลี่ยนไปของเพื่อนทุกคนมาได้สักพักแล้ว สักพักที่หมายถึงช่วงเวลานี้มันกินเวลามาเกือบเดือนกว่า
ช่วงแรกเธอพยายามจะไม่คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าตัวเองคิดมากหรือไม่ก็ชอบพวกมันจนเกินไป พยายามคิดเอาว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เพื่อนทั้งสี่คนจะอยากทำแบบเดียวกัน
แต่พอได้ยินคำพูดของหมิงที่ข้างล่างนั่น บวกกับสายตาของอีกสามคนที่มองเธอตอนรู้ว่าไปซื้ออะไรมากับหมิง แถมยังมาชวนเล่นเกมถอดทีละชิ้นแบบนี้ ปาลินก็ชักจะเริ่มแน่ใจ
ยิ่งโดนทั้งชุนทั้งครามล้อมหน้าล้อมหลังเอ่ยปากคะยั้นคะยอมากๆ เข้า สุดท้ายความหวั่นไหวที่มีในใจอยู่แล้วก็พาให้เธอก็พยักหน้าตกลง
มือขาวหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมายกดื่มอีกครั้งเพื่อดับความรู้สึกตื่นเต้นที่เริ่มตีตื้นขึ้นมา ทว่ายิ่งดื่มมันก็ยิ่งแย่มากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะยิ่งเมามากขึ้นเท่าไหร่ สายตาของเธอก็ยิ่งเผลอลากไล้ไปบนกล้ามเนื้อเปลือยเปล่าของเพื่อน ที่เริ่มถอดเสื้อทีละคนมากเท่านั้น
อย่างที่บอกว่าเธอแอบเผลอใจชอบพวกมันอยู่แล้ว พอได้มาเห็นภาพแบบนี้ก็เล่นเอาใบหน้าร้อนผ่าว เลือดลมสูบฉีดจนร้อนไปทั้งร่าง
“ไอ้ชุนตามึงแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำลายภวังค์ความเงียบ ก่อนที่ปราบผู้ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนหมุนจะชี้หน้าชุนเมื่อเห็นว่าปากขวดชี้ไปที่คนตัวสูง ซึ่งปาลินนั่งพิงอยู่อย่างพอดิบพอดี
“เออ” อีกฝ่ายตอบแค่นั้นก่อนขยับให้เธอเอนไปพิงครามแทน ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนก่อนจะถอดเสื้อยืดสีกรมของตัวเองออก เผยให้เห็นแผ่นอกแข็งแรงและซิคแพคแน่นหนั่น
มือหนาทุบลงบนอกของตัวเองแรงๆ เป็นเชิงโอ้อวดหุ่นที่ดูแลมาอย่างดี ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้อย่างภาคภูมิใจ
ด้านหญิงสาวที่ดวงตาไม่รักดี เอาแต่มองรูปร่างสมบูรณ์แบบและผิวสีแทนของอีกฝ่าย ก็รีบเบนสายตากลับมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองจ้องนานเกินไป
มือเล็กยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มอีกอึกใหญ่เพื่อกลบเกลื่อนความร้อนวูบวาบบนใบหน้า แต่ยิ่งดื่มก็ดื่มอ่อนแรงจนครามต้องใช้แขนกอดเธอเอาไว้ ไม่ให้ไหลตกลงไปกองบนพื้นเสียก่อน
สงสัยเธอจะเมาแล้วจริงๆ แบบนี้หน้าคงจะแดงมากแน่ๆ
“หมุนต่อดิ” ชุนว่าขณะที่ขยับเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้นกว่าเก่า นอกจากนั้นวางมือลงบนต้นขานุ่มและบีบเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นชุนที่ได้แค่จับขาก็คงจะยังไม่เท่ากับครามที่ได้กอดเธอไปทั้งตัวแบบแนบชิด
ใบหน้าหล่อคมของหมาใหญ่เบอร์สองก้มลงกระซิบข้างใบหูขาวเบาๆ
“เอวมึงเล็กจังวะ ทีนมล่ะใหญ่เชียว”
ไม่พูดเปล่า แต่มือที่วางอยู่บนหน้าท้องแบนราบยังขยับลูบไปมา ขณะเดียวกับปลายจมูกโด่งก็ถูไถเบาๆ ไปกับใบหูนิ่ม
กระตุ้นเสียจนหญิงสาวใบหน้าแดงซ่าน อดไม่ได้ที่จะเสียววูบส่วนสงวนกลางกายกับความใกล้ชิดที่แสนจะอันตรายต่อหัวใจ
“...คราม”
“อะแฮ่ม” ทว่ายังไม่ทันที่อะไรจะได้เกินเลยไปมากกว่านั้น เสียงกระแอมก็ดังมาจากอีกด้านจนคนโดนรุกล้ำสะดุ้งเฮือก มองไปตามเสียงก็เห็นว่าหมิงนั่งมองหน้าครามนิ่ง
และทันทีที่โดนพ่อปรามครามก็ถึงกับหุบปากฉับ ถึงจะยังไม่ได้ปล่อยให้เธอเป็นอิสระ แต่ใบหน้าที่เริ่มซุกไซ้ซอกคอก็กลับล่าถอยออกไป
ชั่วจังหวะนั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงเพลงสากลช้าๆ ที่ปราบเปิดเอาไว้เท่านั้น ที่ยังดังคลอเคล้าไปกับเสียงของเครื่องปรับอากาศ และเสียงลมหายใจของเราทั้งห้าคน
ปราบรอจนบรรยากาศกลับสู่สภาวะปกติแล้วจึงหมุนขวดอีกครั้งทว่าคราวนี้ปากขวดกลับชี้ไปที่คนข้างกายของเธอ
ไร้ซึ่งบทสนทนาใดๆ ไม่นานร่างสูงของหมาใหญ่อันดับสอง พ่วงด้วยตำแหน่งคนที่เธอแอบชอบมานานกว่าคนอื่นก็ขยับให้หญิงสาวไปนั่งพิงอกชุนเหมือนเดิม
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วใช้มือข้างหนึ่งปลดตัวล็อกของเข็มขัด ก่อนจะใช้มือข้างเดียวรูดมันออกจากหูกางเกงเสียงดังขวับ
เล่นเอาปาลินถึงกับสะดุ้งสุดตัว เรียกรอยยิ้มเผล่จากตัวต้นเหตุและชุนที่นั่งอยู่ใกล้ชิดได้เป็นอย่างดี ครามวางเข็มขัดลงบนโต๊ะก่อนจะถือวิสาสะเดินไปหยิบเบียร์กระป๋องใหม่มาวางตรงหน้า
กายสูงใหญ่ของชายหนุ่มผิวแทนไม่ต่างจากชุนและปราบนั่งลงข้างๆกัน ครามไม่ได้รั้งตัวเธอกลับไปกอดอย่างเดิม
แต่กลับเป็นชุนที่นั่งกอดเธออยู่อย่างงแนบแน่น โน้มใบหน้าลงมากระซิบกระซาบที่ข้างหู
“ไอ้ครามมันไม่เอาเข็มขัดนั่นมามัดมึงหรอกลิน หรือมึงอยากโดนมัด” ถามจบก็หัวเราะในลำคอก่อนจะเอาปลายจมูกดุนดันใบหูของเธอเล็กน้อย
เล่นเอาหญิงสาวที่หน้าแดงมากอยู่แล้วยิ่งหน้าร้อนจนแทบจะระเบิด
อยากจะหันไปด่ามันมันที่เล่นอะไรแผลงๆแต่เธอก็รู้สึกวูบวาบกับคำพูดนั้นจนทนแทบไม่ไหว