"หันหน้าไปทางนู้นก็ได้ลิน ไม่ต้องไปฟังไอ้ปราบมันหรอก" ทว่าหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบ ก็เป็นครามที่โน้มใบหน้าลงมาหา ก่อนจะพูดประโยคที่เหมือนจะเข้ามานั่งในใจของเธอ
มือใหญ่ยื่นมาลูบเอวคอดเบาๆ พูดจบก็หันไปเลิกคิ้วกับปราบอย่างเอาเรื่อง ลอกคราบหมาหงอยตอนโดนหมิงขัดไปอย่างสิ้นเชิง
ด้านตัวต้นเรื่องได้ฟังอย่างนั้นแทนที่จะสลดก็กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม ดูเจ้าเล่ห์ร้ายกาจเกินหน้าเกินตาคนอื่นๆ ไปมากเสียจนปาลินอดจะคิดไม่ได้
คนอื่นอาจจะหัวใจวายตาย แต่ไอ้เวรนี่คงเป็นคนแรกที่พุ่งเข้ามาตะครุบเธอ
"อืม" เมื่อเห็นว่าไม่มีใครท้าทายอะไรอีก หญิงสาวจึงเลือกทำตามคำแนะนำของครามด้วยการหันหน้าไปอีกทาง
แต่ด้วยความที่ระยะระหว่างเก้าอี้มันแคบเกินไป เธอจึงจำเป็นต้องดันเก้าอี้ไปด้านหน้าให้กว้างมากพอที่จะยกขาถอดกางเกงขาสั้นที่สวมอยู่ได้
กายขาวอวบอั่นเซเล็กน้อยเพราะแอลกอฮอล์ในเลือดที่เริ่มทำงานมากกว่าเดิม กระนั้นก็ยังพยายามดึงสติเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าพอตนหันหลังไปแล้ว สายตาของทุกคนจะกลับเปลี่ยนไป
ยิ่งกางเกงขาสั้นถูกดึงให้หลุดจากสะโพกผาย เผยให้เห็นชั้นในลูกไม้ลายเดียวกัน ทั้งโต๊ะก็ยิ่งตกอยู่ในความเงียบ
สิ่งที่จะดังขึ้นกว่าเดิมก็เห็นจะมีเพียงลมหายใจของใครบางคนที่สะดุดขาดห้วงก็เท่านั้น
ทว่าพอปาลินหันกลับมาสายตาเหล่านั้นก็คล้ายกับจะถูกสลายให้หายไปในเวลาอันรวดเร็ว
"...หมุนต่อสิ" เธอว่าพลางวางกางเกงในมือลงบนโต๊ะก่อนที่ร่างอวบนิ่มจะหย่อนตัวนั่งลงที่เดิม ดวงตาสวยมองหน้าปราบก่อนจะยักคิ้วหงึกๆ
และแม้จะไม่ได้เตรียมใจในการโดนทั้งชุนดึงไปกอดแนบชิด ทั้งครามวางมือลงบนต้นขาแล้วบีบเบาๆ กระนั้นปาลินก็ยังไม่ขัดขืนแต่อย่างใด
ตรงกันข้ามเธอกลับยิ่งพอใจมาก
เพราะการที่หมาใหญ่เบอร์หนึ่งและเบอร์สองมารุมพะเน้าพะนอเอาใจนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีพวก มีคนเข้าข้างไม่ใช่โดนไอ้บ้าปราบกลั่นแกล้งให้อับอายอยู่ฝ่ายเดียว
“สีดำเข้ากับสีผิวมึงดีนะ” แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าคนดุอย่างหมิงจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา กระทั่งสายตาที่สบกับเธอก็ยังต่างไปจากปกติ
พาให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะอยู่กับร่องกับรอยอยู่แล้วเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นจนก้อนเนื้อในอกชักจะเต้นถี่ขึ้นมา
หมิงเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ค่อยจะได้เอ่ยปากชมเธอบ่อยนัก แตกต่างกันกับครามและชุนที่ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่แทบจะตลอด กระทั่งปราบที่ขี้แกล้งก็ยังมีช่วงเวลาที่ทำเรื่องแบบนี้บ่อยกว่ามาก
“ใช่ โคตรเข้ากับมึงเลย” ยังไม่ทันที่หัวใจของเธอจะได้สงบลง จู่ๆ ชุนที่กอดแน่นอยู่แล้วก็ก้มลงมากระซิบ
ตามด้วยครามที่ขยับเข้ามาใกล้จนหญิงไม่มีพื้นที่ให้ถอยหนี ซ้ำร้ายมือหนายังยื่นเข้ามาลูบที่สีข้าง ส่วนอีกมือลูบปลีน่องอวบสวนขึ้นมาจนถึงหัวเข่าพาให้ความรู้สึกแปลกๆ ยิ่งแล่นปราดไปทั่วร่าง
และแม้ว่าปกติครามกับชุนจะค่อนข้างถึงเนื้อถึงตัวกับเธออยู่แล้ว แต่มันไม่มีครั้งไหนเลยทั้งคู่จะเริ่มเกินเลยบีบจับไปทั่งตัวแบบนี้
“มึงขาวจังวะลิน” เสียงกระซิบแหบพร่าของชุนที่อยู่ใกล้กว่าใครกระซิบเข้าที่ข้างใบหูขาว และถึงจะยังไม่ได้จับจุดสงวนอย่างหน้าอกหรือส่วนนั้น
แต่การโดนนวดเฟ้นทั้งต้นแขน ต้นขา และเอวคอดไปพร้อมๆ กัน ก็สั่นคลอนความรู้สึกของปาลินที่กำลังเมาได้ที่ให้เริ่มหายใจติดขัด
“ดะ เดี๋ยวสิ” มือเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นห้ามใบหน้าของชุนที่กำลังโน้มลงมากดจูบบนเนินอกอวบ
ดวงตาสวยหันมองทั้งปราบและหมิงที่ตอนนี้กำลังนั่งจับจ้องการกระทำของพวกเขาตาเป็นมัน
“ทำไมล่ะลิน มึงไม่ชอบพวกกูเหรอ” แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อครามก็กระซิบที่ข้างหูอีกรอบ แถมครั้งนี้ยังเพิ่มเติมไปด้วยการขบเม้มใบหูขาวเบาๆ จนหญิงสาวต้องหดคอหนีด้วยความเสียวซ่าน
“...อ๊ะ”
“แต่พวกกูชอบมึงนะ ชอบมาตั้งนานแล้วด้วยมึงก็น่าจะรู้ตัวนี่”
“...” อะไรกัน เธอยังถอดไม่หมดเลย สองหมานี่มันไปใจร้อนกันมาจากไหน
“แต่ถ้าไม่ชอบก็บอกได้นะ ขอแค่มึงพูดมาคำเดียวพวกกูจะหยุด” ชุนว่าอย่างนั้นขณะที่มือหยุดการเคล้นคลึงไปช่วงขณะ
จะมีก็เพียงใบหน้าหล่อเท่านั้นที่วางคางได้รูปลงบนหน้าอกทรงโตของเธอ
ใช้ดวงตาลูกหมาช้อนมองขึ้นมา ขณะเดียวกันก็ดุนจมูกไปกับฝ่ามือของหญิงสาวที่วางแหมะอยู่บนหน้าของตัวเอง
“...”
“แต่ถ้ามึงไม่พูด กูจะถือว่ามึงยอมนะ” และเมื่อเห็นว่าเธอยังเงียบ ครามซึ่งไม่รู้ว่าเปลี่ยนเป็นคนที่ได้กอดเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็สรุปเองเสร็จสรรพ
ก่อนจะซุกใบหน้าลงบนซอกคอขาวสูดดมกลิ่นน้ำหอมผสมกลิ่นของผิวเนื้ออย่างหื่นกระหาย
ปาลินไม่รู้ว่าเขาต้องโทษอะไรดี ระหว่างแอลกอฮอล์ในเลือดที่ทำให้ความยับยั้งชั่งใจลดลงจนแทบไม่เหลือ หรือเพื่อนสองคนที่ช่วยกันปลุกอารมณ์จนมันเลยเถิด
แต่ไม่ว่าจะโทษอะไรในตอนนี้แผ่นหลังของเธอก็แนบชิดไปกับอกแน่นๆ ของครามแบบเต็มตัว ส่วนใบหน้าก็ถูกชุนยื่นหน้าของตัวเองเข้ามาใกล้จนเลยระยะอันตราย
ต่อจากนั้นร่างกายของเธอถูกสัมผัสไปเสียทุกส่วน ในขณะที่ปลายจมูกถูกถูไถด้วยอวัยวะเดียวกัน เอวคอดก็ขยับเร้าตบสนองการเคล้นคลึงของมือหนาไปด้วย
เสียงอื้ออึงจากความเสียวซ่านที่เริ่มตีรื้นขึ้นมาดังอยู่ในลำคอ เช่นเดียวกันกับอาการหวิวไหวที่จุดสงวนซึ่งกำลังจู่โจมเธออย่างหนัก
ยิ่งได้โดนสัมผัสโดนตะโบมจับไปทั่วร่าง ความกระหายอยากในกามก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น มากจนปาลินกล้าที่จะกดริมฝีปากลงบนปากของชุนก่อน
พอได้จูบกับชุนไปแล้วใบหน้าสวยก็ถูกดึงรั้งให้หันมาด้านหลัง ปากอวบอิ่มถูกครามบดจูบอย่างแรงโดยไม่ทันตั้งตัว ขณะเดียวกันใบหน้าของชุนก็เริ่มซุกไซร้ลงบนเต้านมอวบ
หญิงสาวลั่นไปทั้งร่าง ยิ่งได้รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองเธอก็ยิ่งสั่นมากขึ้น
มากจนลืมไปแล้ว ว่าในขณะที่เราทั้งสามคนเริ่มคลุกวงในกันอยู่แบบนี้ ยังมีอีกสองคนที่นั่งมองเหตุการณ์ทุกอย่างตาไม่กะพริบ
จนกระทั่งเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นท่ามกลางเสียงครางเครือด้วยความเสียวกระสัน และเสียงลมหายใจของพวกเขา
“จูบแต่ไอ้ครามกับไอ้ชุน แบบนี้กูกับไอ้หมิงน้อยใจนะลิน”