กลิ่นยาฆ่าเชื้อของโรงพยาบาลลอยเข้าแตะจมูกทันทีเมื่อธัญญ่ารู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมา เปลือกตากะพริบปรับแสงมอง สิ่งแรกที่เธอเห็นชัดก็คือเพดานสีขาว กับดวงไฟน้อย ๆ อยู่ด้านบน ฝ่ามือด้านขวารู้สึกเจ็บแปลบจนเธอต้องเหลือบตาก้มมองลงไปดู ก็เจอเข้ากับเข็มสายน้ำเกลือที่เจาะอยู่ เปลือกตาบางหลังลงอีกครั้ง อย่างต้องการใช้ความคิดว่าตนเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เธอจำได้ว่าภาพล่าสุดตัวเองกำลังนั่งร้องไห้เพราะเสียใจเรื่องสามีอยู่ที่บ้านพักริมทะเลอยู่นั่นเอง หลังจากนั้นเธอก็ไม่สามารถจำอะไรได้อีก
แกรก
เสียงเปิดประตูดังขึ้นและปิดลงอย่างแผ่วเบา ตามด้วยเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาในห้องนอน ธัญญ่าปิดเปลือกตาเอียงหูฟัง คนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับถุงอะไรสักอย่าง คงเป็นแทนไทที่เดินเข้ามาในห้องนี้ น้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาลอยแตะเข้าจมูกของเธอ
"ทำไมคุณธัญญ่ายังไม่ฟื้นอีกนะ"ธัญญ่าตกใจสะดุ้งเมื่อเธอได้ยินเสียงพูดของแทนไทในระดับใกล้ ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเป่ารินรดลงบนใบหน้าของเธอในระยะเผาขน จนเธอมีความรู้สึกแปลก ๆ
"ฟื้นขึ้นมาได้แล้วนะครับคนดีของผม"สัมผัสบางอย่างแตะลงบนแก้มขาวของเธอ ฝ่ามืออีกข้างที่ไม่ถูกเจาะเข็มน้ำเกลือกำผ้าห่มเอาไว้แน่น คนที่หลับตาถอนหายใจออกมาเมื่อเหลือบตามองเห็นชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องน้ำ แก้มทั้งสองข้างสัมผัสได้ถึงความเห่อร้อน หัวใจดวงน้อยรู้สึกเต้นอย่างผิดจังหวะทำไมแทนไทถึงได้ทำแบบนี้กับเธอนะ ฝ่ามือทั้งสองข้างวางนาบกับแก้มทั้งสองข้างของตัวเอง ตอนนี้เธอมีความรู้สึกบางอย่างที่มันยากจะอธิบาย
แกรก
เสียงประตูห้องน้ำที่เปิดพร้อมกับร่างของแทนไทเดินออกมาจากห้องน้ำ ดวงตาของเขาแสดงอาการถึงความดีใจออกมา เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนเองกำลังลืมตาใสแจ๋วอยู่บนเตียง
"คุณธัญญ่าฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ"แทนไทเดินไปรี่เข้ามาหาเธออย่างโดยเร็ว ความรู้สึกหวาดหวั่นเกิดขึ้นภายในใจ ไม่รู้ว่าหญิงสาวจะรู้ตัวหรือไม่ว่าเมื่อครู่เขาเผลอหอมแก้มของเธอไปในตอนที่เธอยังหลับ
แทนไทภาวนาขอให้ทานยาไม่รู้สึกตัวในตอนที่เขาเผลอหอมแก้มเธอไป ถ้าไม่เช่นนั้นเขาคงมองหน้าเธอไม่ติด ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดกลัวว่าธัญญ่าจะระแคะระคายสงสัยว่าเขามีความรู้สึกอย่างไรกับเธอ
"ฉันพึ่งตื่นก่อนหน้าที่นายจะเปิดประตูห้องน้ำออกมา ว่าแต่ทำไมฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้"ธัญญ่าพยายามพยุงกายลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก แทนไทจึงไปปรับเตียงนอนขึ้นเพื่อให้เธอนั่งได้อย่างสบาย
"ผมเป็นคนพาคุณธัญญ่ามาโรงพยาบาลเองครับ"แทนไทเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง แต่เขาไม่ได้บอกว่าตนเองถือวิสาสะเปิดมือถือของเธออ่านข้อความ และทำราวกับว่าตนเองไม่รู้สาเหตุที่เธอร้องไห้จนสลบไปจนต้องหามตัวส่งโรงพยาบาล
"แล้วนี่ฉันจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน"
"วันนี้ก็ออกได้แล้วครับ แต่ต้องรอให้คุณหมดเข้ามาตรวจเช็กดูอาการอีกทีก่อน"ธัญญ่าพยักใบหน้าขึ้นลงด้วยความเข้าใจ แทนไทรีบไปหยิบถุงโจ๊กเทใส่ชามก่อนจะนำมาให้กับหญิงสาว
"นายนี่สมกับเป็นบอดี้การ์ดคู่ใจของฉันจริง ๆ "ธัญญ่าเอ่ยชมเมื่อเห็นโจ๊กหน้าตาน่ารับประทานในชามที่กำลังส่งกลิ่นหอม
"ผมอยู่กับคุณธัญญ่ามากี่ปี ผมรู้ดีครับว่าคุณธัญญ่าชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร"หญิงสาวไม่ชอบโรงพยาบาลและแอนตี้อาหารของโรงพยาบาลเป็นที่สุด รสชาติจืดชืดราวกับไร้การปรุงแต่งมันไม่ใช่สิ่งที่ธัญญ่าโปรดปรานเอาเสียเลย
ด้วยความหิวเพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องของเธอตั้งแต่มื้อเที่ยงของเมื่อวาน ทำให้ธัญญ่ารับประทานโจ๊กตรงหน้าจนหมด จึงทำให้คนที่อุตส่าห์ลุกขึ้นไปซื้อโจ๊กมาให้ตั้งแต่เช้ามีกำลังใจในการดูแลเธอต่อไป
เวลาผ่านไปเพียงไม่นานคุณหมอเจ้าของไข้ก็เข้ามาตรวจดูอาการก่อนจะอนุญาตให้ธัญญ่าออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อตรวจเช็กดูแล้วว่าไม่มีไข้ ธัญญ่าดีใจจนแทบจะกระชากสายน้ำเกลือทิ้ง โชคดีที่แทนไทห้ามเอาไว้ได้ทัน
แทนไทรีบไปจัดการจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนธัญญ่าก็เข้าไปเปลี่ยนชุดที่แทนไทซื้อใหม่มาให้หลังจากพยาบาลเข้ามาถอดสายน้ำเกลือ
"เห้อ ได้ออกจากห้องอันแสนน่าเบื่อนั่นเสียที"ธัญญ่าพูดออกมาในขณะที่ทั้งคู่นั่งอยู่บนรถเพื่อเดินทางกลับที่พัก แทนไทเหลือบหันไปมองใบหน้าอันแสนจะดีใจของเธอผ่านกระจกด้านหลัง
"แทนไท เดี๋ยวพอไปถึงบ้านพักนายก็จัดการเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อยเลยนะ ฉันจะเดินทางกลับกรุงเทพเลยวันนี้"หัวใจของแทนไทหล่นตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เวลาที่เขาจะได้อยู่กับเธอเพียงสองต่อสองมันช่างหมดเร็วยิ่งนัก แต่ถึงอย่างไรก็เอาเถอะกลับกรุงเทพไปก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาจะได้ไปดูอาการของใครบางคนเสียหน่อยว่าใกล้จะตายแล้วหรือยัง
"ออกไป๊ ออกไปให้หมดไอ้พวกบ้า โอ๊ย"น้ำเสียงเกรี้ยวกราดอาละวาดดังขึ้นภายในห้องพักของคนไข้ เหล่าพยาบาลกับหมอต่างพากับวิ่งหนีชุลมุนเมื่อคนไข้อาละวาด
กวินในสภาพเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำแขนข้างขวาและขาข้างซ้ายถึงกันต้องเข้าเฝือก เพราะเขาไม่รู้ถูกมือดีที่ไหนไม่รู้ดักทำร้ายหลังจากที่ขับรถออกจากสถานที่บันเทิงได้เพียงไม่นาน
พวกมันขับรถมาตัดหน้ารถ พวกมันทั้งหมดลากร่างของเขาลงไปกระทืบบนพงหญ้าป่าข้างทางราวกับว่าเขาไปทำเรื่องใหญ่หลวงให้พวกมันไม่พอใจ ทั้งฝ่าเท้าและหมัดใหญ่อีกทั้งยังมีท่อนไม้ต่างรุมเข้าใส่ไปทั่วทั้งร่างกายอย่างไม่ยั้ง แค่นั้นมันยังคงไม่สะใจ เมื่อพวกมันใช้ท่อนไม้ฟาดใส่ลงใส่บนศีรษะราวกับว่าอยากจะเอาชีวิตของเขา เวลาผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่สิบนาทีสภาพของเขาอาบไปด้วยเลือด เสียงร้องโอดโอยอย่างน่าเวทนามันช่างดูสะใจในความคิดของคนกลุ่มนั้นก่อนที่พวกมันจะทิ้งให้เขานอนทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บไม่ต่างอะไรกับสุนัขจรจัดข้างถนนตัวหนึ่ง
"โถ่เว๊ย อย่าให้กูรู้นะว่าพวกมึงเป็นใครกูจะฆ่าพวกมึงเรียงตัวให้หมดเลยคอยดู"ความคับแค้นก่อเกิดขึ้นภายในใจของกวิน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองไปสร้างความไม่พอใจให้ใคร
"นี่ก็อีกคน ผัวของตัวเองกำลังจะเป็นจะตายแต่ดันหายหัวไปกับผู้ชายคนอื่น หึ เจริญจริง ๆ ชีวิตกู มีเมีย เมียก็ไม่รักแถมยังหนีไปอีก"