ตอนที่ 6

1083 Words
“หมดเรื่องแล้วพ่อขอขึ้นไปนอนก่อน ส่วนแกก็อย่านอนดึกนักล่ะ” พูดจบคนเป็นพ่อก็ลุกเดินออกจากห้องรับแขกเดินขึ้นชั้นบน พร้อมกับเสียงถอนใจหนักๆ เพราะไม่ได้สบายใจเลยที่ยอมให้ลูกชายแต่งงานเนื่องจากยังอยากให้ลูกชายคบหาให้นานกว่านี้ก่อน ด้านคนเป็นลูกชายหลังจากบิดาขึ้นห้องไปครู่หนึ่ง เจ้าตัวก็ขึ้นห้องบ้าง แล้วหยิบโทรศัพท์มาโทรหาคนรัก ที่ตอนนี้ภีรมาสกำลังคุยอยู่กับอเล็กซ์ ที่อีกฝ่ายกำลังต้องการคนพาเที่ยว โดยที่ผู้จัดการแอนก็ส่งซิกบอกให้นางแบบสาวตอบรับเป็นไกด์พาเที่ยว “ได้ค่ะ กี้จะพาคุณอเล็กซ์ไปเที่ยว” “ขอบคุณมากครับ” “ยินดีค่ะ ว่าแต่คุณอเล็กซ์อยากไปไหนเหรอคะ” “ผมอยากไปพัทยาครับ” “ตกลงค่ะ กี้จะพาคุณไปเที่ยวพัทยา” จบคำนั่นโทรศัพท์ของภีรมาสก็แผดร้องขึ้นมา เธอหยิบออกมาดูก็เห็นว่าเป็นคนรักโทรมา “คุณกี้คงมีธุระ ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ แล้วพรุ่งนี้เช้า ผมจะไปรับที่คอนโด” “ค่ะ” ภีรมาสรับคำแล้วก็เดินออกมารับโทรศัพท์ “คุณพารันโทรหากี้กลางดึก มีอะไรหรือเปล่าคะ” รับสายแล้วนางแบบสาวก็ถามกลับไปทันที “กี้ นี่คุณไม่ได้อยู่ที่คอนโดหรอกเหรอ” “กี้บอกคุณไปแล้วว่าค่ำนี้กี้มางานวันเกิดพี่แอน” “ผมลืมไปเลย แต่เดี๋ยวผมฝากของขวัญไปให้ผู้จัดการของคุณที่หลังนะครับ” “ได้ค่ะ แล้วคุณพารันโทรหากี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” “ผมอยากโทรมาบอกข่าวดีกับคุณ” “ข่าวดีอะไรเหรอคะ” “คุณพ่อของผมท่านให้เราแต่งงานกันได้แล้ว ปลายเดือนหน้า” “จริงเหรอคะ!” “จริงครับที่รัก แต่คุณไม่ต้องห่วงที่รัก ผมจะรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ทั้งเรื่องจัดงาน ทั้งเรื่องผู้ใหญ่ ส่วนคุณก็รอเป็นเจ้าสาวของผมนะครับ” “ได้ค่ะ แต่เรื่องชุดแต่งงาน กี้ขอเลือกร้านเองนะคะ” “ได้ครับที่รัก” “คุณน่ารักกับกี้เสมอเลย แต่กี้ขอวางสายก่อนนะคะ พอดีเพื่อนๆ มาตามกันแล้ว” ภีรมาสที่ยิ้มดีใจเรื่องงานแต่งรีบบอกเมื่อผู้จัดการแอนเดินกลับมาส่งซิกบอกให้วางสายได้แล้ว “ได้ครับ” “กู๊ดไนท์ค่ะ” พูดจบภีรมาสก็วางสายแล้วเดินไปหาผู้จัดการและตรงไปขึ้นรถเพื่อกลับคอนโด กระทั่งผู้จัดการแอนขับรถออกมาสักพัก ผู้จัดการแอนก็ถามว่าคุยกับใคร “คุณพารันโทรมาบอกว่าคุณพ่อของเขายอมให้กี้กับ คุณพารันแต่งงานกันแล้ว คงเป็นปลายเดือนหน้าตามที่ คุณพารันวางแผนไว้” “อะไรนะ!” “ทำไมพี่แอนต้องตกใจด้วยล่ะ หรือพี่แอนไม่อยากให้กี้แต่งงาน” นางแบบสาวเอ่ยถามอย่างสงสัย ส่วนเธอนั่นดีใจมาก เพราะพวกคนช่างเม้าท์จะได้เลิกเม้าท์กันเสียทีว่าเธอเป็นได้แค่ของเล่นไฮโซ “จะไม่ให้พี่ตกใจได้ยังไง ก็ในเมื่อน้องกี้กำลังจะได้เป็นนางแบบของเอเจนซี่ดังระดับโลก” “พี่แน่ใจเหรอว่าคุณอเล็กซ์จะทำให้กี้เป็นนางแบบดังระดับโลกได้” ภีรมาสเต็มไปด้วยความลังเล “ต้องได้สิค่ะ” “แต่กี้อยากแต่งงานกับคุณพารัน” “แล้วน้องกี้ไม่อยากโกอินเตอร์เหรอคะ” “อยากสิพี่แอน” ภีรมาสตอบกลับแบบไม่หยุดคิด เพราะมันคือความฝันของเธอที่อยากไปเฉิดฉายบนเวทีระดับโลก “ถ้างั้นน้องกี้ก็กลับไปคิดให้ดีๆ แล้วกัน แต่พี่ว่าช่วงนี้ น้องกี้เลิกคิดเรื่องแต่งงานไปก่อนเลย เพราะพรุ่งนี้น้องกี้ต้องพา คุณอเล็กซ์ไปเที่ยว” “กี้ไม่ลืมหรอกพี่แอน” “งั้นรีบกลับบ้าน นอนพักผ่อน เช้ามาหน้าตาจะได้สดใส” จบคำผู้จัดการแอนก็หันมาสนใจขับรถและเร่งความเร็ว กระทั่งมาส่งนางแบบสาวถึงคอนโดก็แยกตัวกลับบ้านพักผ่อนบ้าง โดยก่อนกลับก็กำชับนางแบบสาวว่าให้ตื่นแต่เช้าแล้วแต่งตัวสวยๆ รอ คุณอเล็กซ์ แล้วก็เอาใจเขามากๆ เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพนางแบบ! สามวันต่อมา แพรวพรรณขับรถมายังบ้านพักของผู้มีพระคุณหลังจากท่านโทรบอกให้มาช่วยป้าระย้าทำขนมที่ผู้มีพระคุณจะเอาไปต้อนรับผู้ใหญ่หลายๆ ท่านในงานเลี้ยงของสมาคม “สวัสดีค่ะป้าระย้า” มาถึงแล้วแพรวพรรณก็เข้ามาทักทาย ป้าแม่บ้านที่สนิมสนมกับแม่ของเธอทันที หลังจากเข้าไปกราบสวัสดีผู้มีพระคุณเรียบร้อย และตอนนี้ผู้มีพระคุณก็ออกไปทำธุระข้างนอก “มาแล้วเหรอ มาๆ มาช่วยป้าที กำลังขาดลูกมือคนเก่งอยู่พอดี” “ได้ค่ะป้า” จบคำแพรวพรรณก็ช่วยทำขนมไทยสูตรโบราณที่มารดาของเธอพร่ำสอนมาอย่างดี กระทั่งบ่ายแก่ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมนำไปใช้งานเลี้ยง พอดีกับที่ผู้มีพระคุณก็กลับมาถึงบ้าน ก่อนจะถามหาแพรวพรรณและเรียกให้เข้าไปพบ “คุณท่านมีอะไรจะให้แพรวทำเหรอคะ” “ไม่มีหรอก แต่คืนนี้ฉันอยากให้หล่อนไปร่วมงานด้วย พอดีลูกสาวกับลูกเขยของฉันไม่ว่าง แต่ถ้าหล่อนไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ” “แพรว...แพรวห่วงแม่ค่ะคุณท่าน” “จริงด้วย! ฉันก็ลืมไปเลย แล้วแม่ของหล่อนเป็นอย่างไรบ้างล่ะ เมื่อเช้าฉันก็ไม่ทันได้ถามไถ่ เพราะต้องรีบออกไปทำธุระ” “แม่ดีขึ้นมากแล้วค่ะคุณท่าน แต่ถ้าเจอฝนก็ล้มป่วยง่ายค่ะ” “ก็แม่หล่อนเป็นภูมิแพ้ แล้วไหนยังโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอีก แต่ดีขึ้นแล้วฉันก็สบายใจ” พูดจบคุณวรรณวลัยก็เปิดกระเป๋าหยิบเงินออกมาปึกใหญ่แล้วส่งให้ลูกสาวบุญธรรมเพื่อใช้ดูแลมารดา ที่ทำงานกับครอบครัวตนมาตั้งแต่สมัยสาวๆ พอมีครอบครัว คลอดลูกได้ไม่กี่เดือนสามีก็มาจากไป ตนเลยรับ แพรวพรรณเป็นลูกบุญธรรมแล้วก็ส่งเสียให้เรียนจนจบ แต่ไม่ทันทำงานทำการอะไรก็ต้องมาเฝ้าดูแลแม่ ที่ต้องย้ายไปอยู่แถวนนทบุรี เพราะสภาพแวดล้อมของกรุงเทพฯ แลดูไม่เหมาะกับอาการป่วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD