รุ่งอรุณแสนสดใส แสงสีทองทอประกายสาดส่องทะลุผ่านผ้าม่านสีขาวบางเข้ามาด้านในห้อง ทว่าแสงแห่งยามเช้าไม่สามารถรบกวนคู่รักสามีภรรยาที่ตระกองกอดแนบชิดสนิทกันบนเตียงนอนหลังใหญ่ได้
บรรยากาศภายในห้องดูแตกต่างกับด้านนอกลิบลับ หลังแสงดวงอาทิตย์เจิดจ้าหมู่มวลชนต่างก็พากันตื่นจากนิทรา จัดการตัวเองเร่งรีบทำเวลาเพื่อที่จะออกไปทำงาน ตามการใช้ชีวิตของแต่ละคน
เช่นเดียวกับสองร่างที่ยังคงนอนอยู่ภายในห้อง
“อื้อ ปล่อยค่ะ” เสียงหวานครางประท้วงก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยผลักดันร่างบางของตัวเองออกจากอ้อมกอดแกร่ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองคนที่ยังไม่ปล่อยมือออกจากเอวบางของเธอ
“จะรีบตื่นไปไหนครับ นอนพักอีกหน่อยเถอะ”
เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นขณะที่ตายังคงหลับแน่นไม่มีทีท่าว่าจะลืมขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย เท่านั้นยังไม่พอเขายังพยายามบอกให้หญิงสาวนอนเคียงข้างเขาอีกด้วย
หญิงสาวยิ้มหวานกับการกระทำของเขา ทั้งรู้สึกรักใคร่และเอ็นดูที่เขาทำตัวน่ารักไม่เสื่อมคลายไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี เขาก็ยังคงเป็นสามีที่น่ารักและแสนดีของเธอเสมอ
“ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวพี่ก้องไปทำงานสายนะคะ”
“ฮื้อ! ใครจะกล้ามาว่าเจ้าของบริษัทกัน ลองมีดูสิจะให้ใบเตือนให้หมด”
“คิก ก็ม่านนี่แหละค่ะที่จะว่าและดุพี่ก้องถ้ายังคงไม่ปล่อยมือที่กอดเอวม่าน” หญิงสาวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
“พี่อยากกอดม่านนาน ๆ นี่ครับ”
“ไม่ต้องเลยค่ะ ปล่อยม่านได้แล้ว ม่านจะได้รีบลงไปทำอาหารเช้าให้พี่ก้องทานก่อนไปทำงานไงคะ”
“ก็ได้ครับ งั้นพี่ก็จะตื่นเหมือนกัน ไม่อยากเอาเปรียบม่านมากไปกว่านี้ เพราะเมื่อคืนนี้พี่ก็เอาเปรียบม่านมากพอแล้ว”
พูดพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากส่งให้หญิงสาว ทำให้เธอเขินอายหน้าแดงปลั่ง ฝ่ามือเล็กฟาดลงบนต้นแขนของชายหนุ่มจนเกิดเสียงดัง
เพียะ!
“โอ๊ย! ตีพี่ทำไม พี่เจ็บนะครับ”
“ไม่คุยกับพี่ก้องแล้วค่ะ ม่านไปล้างหน้าแล้วไปทำอาหารดีกว่า” ไม่รอให้ตัวเองถูกกลั่นแกล้งมากไปกว่านี้ หญิงสาวที่แทนตัวเองว่าม่านก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที
“รักนะครับ”
แต่ก็ไม่วายจะได้ยินเสียงตะโกนบอกรักจากปากชายหนุ่มดังตามหลังมา
ชายหนุ่มยิ้มขำให้กับความน่ารักของภรรยาสาว ทั้ง ๆ ที่แต่งงานกันมาก็นานนับปีแล้ว แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงเขินอายไม่ต่างไปจากการแต่งงานวันแรกเลย
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันชื่อดัง เรียกความสนใจของชายหนุ่มได้ไม่ยาก
เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและเห็นข้อความจากคนที่ส่งมาก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะลุกออกจากเตียงแล้วแยกตัวไปห้องน้ำอีกห้องทันที
ทางด้านหญิงสาวหลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็รีบพาตัวเองตรงมาที่ห้องครัวของบ้าน เพื่อที่จะทำอาหารเช้าให้สามีรับประทาน
เธอมีชื่อว่า ม่านไหม หรือ ม่าน ภรรยาคนสวยของ ก้องเกียรติ หรือ ก้อง
ทั้งคู่พบรักกันที่ทำงาน หรือบริษัทของก้องเกียรตินั่นเอง เวลานั้นม่านไหมเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงาน ส่วนก้องเกียรติก็เป็นถึงว่าที่ท่านประธานบริษัท ด้วยความน่ารักสวยหวานของม่านไหมไปเข้าตาก้องเกียรติที่มาดูงานเข้าพอดี เขาจึงเดินหน้าจีบเธอตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นหน้า
ใช้เวลานานนับสามเดือนที่ก้องเกียรติเทียวไล้เทียวขื่อตามจีบม่านไหม ในที่สุดหญิงสาวก็ใจอ่อนและตกลงเป็นแฟนกัน
เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลาสามสี่เดือนที่ก้องเกียรติตามจีบม่านไหมนั้น เธอแทบไม่เห็นเขาออกนอกลู่นอกทางเลยสักครั้ง นับตั้งแต่วันแรก
ทั้งสองใช้เวลาศึกษาดูใจกันเพียงสองปี ก็ตกลงปลงใจแต่งงานเป็น สามีภรรยาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ซึ่งหากจะนับจากวันแต่งงานถึงวันนี้ก็อีกเพียงสามเดือนเท่านั้นก็จะเป็นวันครบรอบวันแต่งงานของคน ทั้งคู่
ม่านไหมตั้งหน้าตั้งตารอเวลานี้มาก เพราะเธอตั้งใจจะบอกเขาว่าเธอพร้อมแล้วกับการมีลูก
เดิมทีก้องเกียรติเคยพูดกับเธอเรื่องนี้ว่าเขาอยากมีลูก เพียงแต่ว่าเธอยังไม่พร้อม เพราะว่าตอนนั้นเธอเพิ่งมีอายุ 24 ปี ส่วนเขา 28 ปี เธอบอกเขาว่ายังเร็วเกินไป อยากใช้เวลาด้วยกันก่อน
แต่ว่าตอนนี้เธอมีอายุ 26 ปี ส่วนก้องเกียรติอายุ 30 ปี นับได้ว่าสมเหตุสมผลที่จะมีลูกได้แล้ว ที่สำคัญหน้าที่การงานของคนทั้งสองก็นับว่ามั่นคงแล้ว เธอจึงอยากจะบอกเรื่องดี ๆ กับเขานี้ในวันครบรอบสองปีนั่นเอง เธอถึงได้ตั้งตารอ...
หญิงสาวขบคิดเรื่องต่าง ๆ ด้วยความสุขใจ ใบหน้าแย้มยิ้มอย่างมีความสุข ร่างบางขยับจับอุปกรณ์ทำครัวอย่างคล่องแคล่ว
ฟอด!
“หอมจังเลยครับ ไม่รู้ว่าอะไรหอมกว่ากันระหว่างข้าวต้มกับแก้มเมียพี่”
ก้องเกียรติหลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลงมายังห้องครัว เห็นภรรยาตัวเองหันหลังทำข้าวต้มในหม้อก็ให้รู้สึกรักใคร่และภูมิใจที่มีภรรยาที่ดี
เขาจึงเดินเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังพร้อมทั้งหอมแก้มเสียฟอดใหญ่อย่างตั้งใจให้รางวัลคนทำดี พร้อมทั้งพูดแซวให้หญิงสาวเขินอายเล่น
“อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอคะ”
ม่านไหมเอี้ยวตัวหันมาถามคนที่ยืนกอดเธออยู่ ก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้
“ครับ เรียบร้อยแล้ว” ชายหนุ่มตอบกลับ
“งั้นทานเลยนะคะ พี่จะได้ไปทำงานไม่สาย เป็นประธานบริษัทต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้พนักงานนะคะ” หญิงสาวว่า
“ทราบแล้วครับคุณภรรยา มาครับตักข้าวต้มมาเลย พี่จะได้รีบทานและรีบไปทำงาน”
หลังจากตักข้าวต้มให้สามีแล้ว ม่านไหมก็ตักให้ตัวเองด้วย ทั้งสองทานกันไปหยอกล้อกันไปทำให้มื้ออาหารเช้าธรรมดา ๆ อย่างข้าวต้ม กลายเป็นอาหารเช้าแสนหวานภายในพริบตา
“ค่อย ๆ ทานนะคะ” หญิงสาวบอก
ก้องเกียรติยิ้มรับที่ได้รับการเอาใจใส่จากภรรยาคนสวยอย่างดี คิดไม่ผิดเลยที่เขาตัดสินใจตามจีบและแต่งงานกับเธอ
อะไรจะดีไปกว่าการมีภรรยาที่ทั้งสวยและดีเล่า ม่านไหมนี่มีครบทุกอย่างเท่าที่ผู้หญิงดี ๆ คนหนึ่งจะมีได้ ก้องเกียรติจึงภูมิใจมาก
หลังจากทั้งสองทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก้องเกียรติก็แยกตัวไปบริษัท แต่กว่าเขาจะขับรถออกจากบ้านได้ ก็ต้องได้จูบแสนหวานจากภรรยาก่อนแล้วนั่นแหละถึงผละจากไปได้...
หลังจากที่ม่านไหมยืนส่งสามีไปทำงานเรียบร้อยแล้ว เธอก็กลับไปที่ห้องครัวเก็บถ้วยจานล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วจึงค่อยไปจัดการตัวเองเพื่อที่จะออกไปข้างนอก
เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดของเธอ เธอจึงไม่ต้องเร่งรีบมากเท่าไหร่นัก ความจริงเธอถูกก้องเกียรติออดอ้อนขอร้องให้เธอไปทำงานด้วยกัน แต่เธอปฏิเสธพร้อมให้เหตุผลกับเขาว่า เธอมีนัดแล้ว
นั่นจึงทำให้เธอไม่สามารถไปบริษัทกับก้องเกียรติได้เหมือนทุกทีที่เธอหยุด ซึ่งชายหนุ่มก็เข้าใจ แต่ก็เคี่ยวกรำบทรักกับหญิงสาวไปครึ่งค่อนคืน ถึงได้ปล่อยให้เธอพักผ่อน
ม่านไหมเหลือบสายตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนัง เมื่อเห็นว่าเวลาเก้าโมงเช้า เธอจึงได้ออกเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าที่ได้นัดกับเพื่อนสนิทไว้ทันที