2 ปีต่อมา
ป้าแตงเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้แต่ก่อนที่ท่านจะจากไป ได้ขอร้องให้ริสาไปอยู่กับผู้อุปถัมภ์ที่เคยขอจะเลี้ยงดูและส่งเสียริสาจนจบ ริสาจึงจำยอมทำตามคำสั่งป้าแตงก่อนที่ท่าจะเสียชีวิต
ป้าแตงได้ฝากฝังริสาไว้กับโตมรเพราะเธอรู้ดีว่าโตมรจะดูแลและปกป้องริสาได้ดี เพราะถ้าเป็นโต้งลูกชายของเธอคงจะทิ้งขว้างและปล่อยปะละเลยริสา ป้าแตงจึงตัดสินใจเรียกโตมรเข้ามาพบ
“ฝากดูแลสาด้วยนะคุณโตมร...ที่ฉันยอมให้สาไปอยู่กับคุณเพราะมั่นใจว่าคุณจะดูแลสามันได้อย่างดี สามันเป็นเด็กดีนึกถึงใจคนอื่นก่อนเสมอ...ตัวมันชอบคิดตลอดว่ามันเป็นตัวซวยรักใครแล้วคนนั้นก็ตายหนีไปหมด ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันแล้ว แต่ดีนะที่สามันยอมไปอยู่กับคุณ..ฝากดูแลมันด้วยนะคุณ”
ป้าแตงพูดฝากฝังกับโตมรทั้งน้ำตาโดยไม่รู้เลยว่าริสายืนแอบฟังอยู่หน้าห้อง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมาด้วยความเจ็บปวดที่เธอต้องสูญเสียคนที่เธอรักไปอีกคนแล้ว
ก่อนป้าแตงจะเสียชีวิตได้บอกกับริสาเรื่องคุณโตมรแค่เพียงว่า คุณโตมรคือผู้ที่อยากรับอุปการะริสามาตลอด เขาเป็นผู้ใหญ่ใจดีที่เคยบริจาคเงินช่วยเหลือตอนสมัยที่เธอยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนสอนคนตาบอด ริสาจำได้ว่าเขาเป็นคุณใจดีที่เคยบริจาคเงินช่วยเหลือให้กับโรงเรียนของเธอนั่นเอง ริสารับปากกับป้าแตงว่าจะไปอยู่กับคุณใจดีแล้วก็ไม่ให้ป้าแตงต้องเป็นห่วง
…..
2 อาทิตย์ต่อมา
บ้านโรจนสกุล
ริสาลงจากรถมายืนหน้าบ้านของตระกูลโรจนสกุล เธอสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตของบ้านหลังนี้ เธอจะได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะที่เธอเป็นเด็กอุปการะของคุณใจดี มีคนรับใช้เดินออกมาต้อนรับเธอ 2 คน คนแรกเป็นป้าที่มีอายุหน่อยประมาณ 50 กว่าๆได้และ อีกคน อายุประมาณ 20 ต้นๆ น่าจะไล่เลี่ยกับเธอ
“สวัสดีค่ะ คุณริสา”
ป้าคนแรกกล่าวทักทาย
“รู้ชื่อ หนูด้วยหรอคะ?”
ริสาแปลกใจ
“รู้สิคะ...ป้าชื่อชื่นนะคะ...ไปเถอะค่ะคุณโตมรให้ป้าเตรียมห้องไว้ให้คุณริสาแล้วค่ะ เชิญค่ะ”
ป้าแม่บ้านเดินเข้ามาจับมือเธอแล้วช่วยพยุงตัวเธอเดินมาคู่กัน แล้วหันไปหาคนรับใช้อีกคน
“จวงช่วยมั่นขนของใช้ของคุณริสาตามขึ้นไปด้วยนะ”
“ได้จ๋ะป้า…”
ภาย ในห้องนองของเธอที่ป้าแม่บ้านพาเดินขึ้นมาเป็นห้องนอนสีชมพู ที่มีมีเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำในตัว และก็กระดานวาดรูปวางเรียงกันอยู่เป็นระเบียบ เธอมองไม่เห็นว่าภายในห้องกว้างใหญ่มากแค่ไหน จึงใช้มือลูบสิ่งของทุกชิ้นไปเรื่อยๆโดยรอบโดยมีสายตาของป้าชื่นคอยมองดูอยู่นิ่งๆ
“จวง.เอาของใช้คุณริสาใส่ตู้ให้เรียบร้อยนะ”
“จ๋ะป้า”
แล้วก็หันไปพูดกับริสา
”คุณริสามีอะไรให้ป้าช่วยก็บอกนะคะ ป้าเป็นแม่นมคุณโตมรกับคุณอธิมรค่ะ...คุณริสาเดินดูห้องไปก่อนนะคะ เดียวป้าขอตัวก่อน”
“ขอบคุณนะคะป้าชื่น”
เธอยกมือไหว้ป้าชื่นแล้วยิ้มให้ ป้าชื่นเดินออกไปแล้วจวงจึงขนของริสามาจัดแล้วจัดการเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ให้
“พี่คะ ไม่ต้องหรอกค่ะเดี่ยวสาทำเอง พี่เอ่อออ..?”
“จวงค่ะ พี่ชื่อจวงค่ะ”
“ค่ะพี่จวงไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวสาเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้เองค่ะ”
จวงมองริสาด้วยความสงสัย
“แล้วคุณสามองเห็นหรอคะ?...ให้จวงช่วยนี่แหละค่ะดีแล้ว คุณสาไม่ต้องเกรงใจนะคะ”
“เอ่อ...ก็ได้ค่ะ...ขอบคุณนะคะพี่จวง”
จวงยิ้มรับแล้วเตรียมจัดของใส่ตู้เสื้อผ้าให้ริสา เธอยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกดีที่คนในบ้านดูใจดีกับเธอกันทุกคนเลย
ผ่านไป 1 ชั่วโมงจวงก็จัดเสื้อผ้าของริสาใส่ตู้ให้จนเสร็จ ริสาได้คุยกับจวงในระหว่างที่จัดของไปด้วยจึงถามถึงเรื่องโตมร
“คุณใจดี...เอ่อ..คุณโตมรอยู่บ้านหลังนี้คนเดียวหรอคะพี่จวง..?
“ใช่ค่ะ...จริงๆก่อนหน้ามีน้องชายอยู่ด้วยนะคะ แต่ว่าตอนนี้ไปเรียนต่อที่เมืองนอกแล้วนะคะ”
“คุณโตมรยังไม่มีครอบครัวหรอคะ..?”
“ค่ะ..คุณโตมรของจวงยังไม่ได้แต่งงานเลยค่ะ แกโสดค่ะยาวเลย...ตั้งแต่จวงมาอยู่ที่นี่ได้ 5-6 ปี จวงไม่เคยเห็นคุณโตมรควงผู้หญิงมาบ้านสักคนเลยนะคะ... แต่แกจะเอาเวลาไหนไปหาแฟนละคะ วันๆจวงเห็นแต่คุณโตมรทำแต่งาน งาน แล้วก็งาน..”
“...”
ริสานั่งฟังเงียบๆถึงคุณใจดีที่จวงกำลังพูดถึง
“แต่ว่า...จะมีก็แต่คุณสานี่แหละค่ะ ผู้หญิงคนเดียวที่คุณโตมรพาเข้ามาบ้าน...แล้วคุณเป็นอะไรกับคุณโตมรของจวงหรอคะ?”
“นังจวง”
ป้าชื่นตะโกนเรียก แทรกเข้ามาจนทั้ง 2 คนตกใจ
“จ๋า...ป้า”
“เสร็จแล้วก็รีบลงไปได้แล้ว.ลงไปเตรียมอาหารให้คุณโตมร เขาจะกลับมาทานข้าวเที่ยงที่บ้านเร็วๆ”
“คุณโตมรจะกลับมาทานข้าวเที่ยงที่บ้านหรอ..? นี่จวงหูฝาดไปหรือเปล่าเนี้ย”
“ทำไมหรอคะพี่จวง.?”
“ก็ร้อยวันพันปีคุณโตมรไม่เคยคิดจะกลับมาทานข้าวเที่ยงที่บ้านเลยสักครั้งนะซิค่ะเพราะที่ทำงานอยู่ไกลจากบ้านมากๆเลยนะคะ...นี่ฝนต้องตกพายุต้องเข้าแน่ๆเลย”
ป้าชื่นเห็นว่าจวงไม่ลงไปสักทีจึงเดินขึ้นมาตาม เห็นจวงยังนั่งคุยกับริสาอยู่ จึงเดินมาตีแขนจวงเบาๆโดยที่เธอไม่ทันเห็น
“ลงไปได้แล้วพูดมากอยู่ได้... ไป รีบไปเร็วๆ”
จวงยิ้มแหยๆ แล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องริสาไปทันที ป้าชื่นมองตามแล้วก็ส่ายหน้าในความทะเล้นของจวงอย่างขำๆ แล้วก็หันมาทางริสา
“คุณริสาลงไปทานข้าวเที่ยงพร้อมคุณโตมรนะคะ ท่านฝากให้ป้ามาบอก”
“ค่ะ...ป้าชื่น”
ริสารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทานข้าวเที่ยงกับคุณใจดีที่เพิ่งจะได้รู้จักแค่ชื่อของเขาเท่านั้น เธอยังไม่เคยได้ยินเสียงเสียงเขาชัดๆ และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนและก็ไม่รู้ว่าเธอจะมีโอกาสได้เห็นหน้าคุณใจดีของเธอไหม
แต่วันนี้เธอจะได้พบคุณใจดีคนที่เธอคิดว่าเขาต้องคงต้องเป็นผู้ชายที่อบอุ่นเหมือนพี่ชายของเธอแน่ๆ ในที่สุดวันนี้เธอก็จะได้เจอเขาสักที